World News

ถล่มซีเรียสะเทือนถึงรัสเซีย

หลังจากที่ตึงเครียดมานานร่วมสัปดาห์ ในที่สุดสหรัฐ และชาติพันธมิตร ก็ตัดสินใจโจมตีเป้าหมายจำนวนหนึ่งในซีเรียเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา (13 เม.ย.) โดยมีจุดประสงค์ เพื่อยับยั้งการใช้อาวุธเคมีของรัฐบาลประธานาธิบดีบาชาร์ อัล อัสซาด

ถล่มซีเรียสะเทือนถึงรัสเซีย

อย่างไรก็ดี ผลกระทบที่แท้จริงของการโจมตีดังกล่าว คือ การทำให้ความสัมพันธ์ที่เปราะบางอยู่แล้วระหว่างชาติตะวันตก กับรัสเซีย ที่ให้การสนับสนุนประธานาธิบดีอัสซาด ย่ำแย่หนักขึ้นไปอีก หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ทั้งรัสเซีย และสหรัฐ ต่างโต้ตอบกันไปมาเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในซีเรีย

กระนั้นก็ตาม ทั้งวอชิงตัน และมอสโก ต่างตระหนักดีกว่า การเผชิญหน้าทางทหารโดยตรงในซีเรีย อาจทำให้สถานการณ์บานปลายไปได้อย่างรวดเร็ว จึงอาจมีการดำเนินมาตรการหลายขั้นตอนเพื่อหลีกเลี่ยงเรื่องดังกล่าว

แต่รัสเซีย อาจมีการเคลื่อนไหวอย่างเงียบๆ หนุนให้กลุ่มตัวแทน และพันธมิตรในซีเรีย โจมตีกองกำลังสหรัฐ ที่อยู่ทางตะวันออกของแม่น้ำยูเฟรทีส และตามชายแดนอิรัก-ซีเรีย

ถล่มซีเรียสะเทือนถึงรัสเซีย

สอดคล้องกับที่ อาลี อัคบาร์ เวลายาติ ที่ปรึกษาอาวุโส ของผู้นำสูงสุดอิหร่าน ออกมากล่าวก่อนหน้าการโจมตีเพียงวันเดียว แสดงความหวังว่า จะมีการดำเนินมาตรการครั้งใหญ่ เพื่อปลดปล่อยพื้นที่ดังกล่าว และขับไล่ทหารอเมริกันออกจากการครอบครองพื้นที่

นอกจากนี้ ยังมีความเป็นไปได้ว่า รัสเซียอาจจะตัดสินใจไม่เข้าไปยับยั้งการเคลื่อนไหวของทหารอิหร่าน ทางตอนใต้ของซีเรีย ไม่ให้มีการยั่วยุต่ออิสราเอล

ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย มีความสัมพันธ์อันดับที่นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล มาโดยตลอด แต่ปูตินก็เพิ่งจะออกมาเตือนอีกฝ่ายหนึ่งไม่ให้มีการเคลื่อนไหวทางทหารในซีเรียอีก หลังจากที่มีการโจมตีทางอากาศต่อกองกำลังอิหร่านเมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว

ทางด้านนักวิเคราะห์ชี้ว่า แม้สถานการณ์ในซีเรียจะตกอยู่ท่ามกลางความไม่มั่นคงอย่างมาก แต่มีเรื่องที่มั่นใจได้อยู่เรื่องหนึ่ง คือ การโจมตีของสหรัฐ อังกฤษ และฝรั่งเศสนั้น จะไม่ทำให้สถานการณ์ทางทหารในซีเรียเกิดการเปลี่ยนแปลง

เจนนิเฟอร์ คาฟาเรลลา จากสถาบันสงครามศึกษา กล่าวว่า การโจมตีที่เกิดขึ้น เป็นเหมือนกับคำประกาศ ไม่ใช่กลยุทธ์แต่อย่างใด

“ไม่มีแนวโน้มว่า การโจมตีจะทำให้สถานการณ์สงครามการเมืองในซีเรียเปลี่ยนไป และไม่ได้ทำให้อัสซาดเลิกเข่นฆ่าประชาชนที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามกับเขา”

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight