“ซิซซา กรุ๊ป” ผู้ประกอบการอสังหาฯจากภูเก็ต เปิดโมเดลการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รูปแบบใหม่ Investment Property หรือ IP เป็นการพัฒนาอสังหาฯเพื่อการลงทุน 100% ระบุเป็นรูปแบบการลงทุนที่นิยมในต่างประเทศ ส่วนในไทยเพิ่งเริ่มต้น นำร่องโครงการแรก “วินแดม ในหาน บีช ภูเก็ต” (WYNDHAM Nai Harn Beach Phuket) โดยได้บริษัทรับเหมาก่อสร้างรายใหญ่จากจีน เป็นผู้ปล่อยสินเชื่อหลัก
นายอรรถนพ พันธุกำเหนิด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซิซซา กรุ๊ป จำกัด บริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดภูเก็ต ที่มีประสบการณ์มากกว่า 15 ปี เปิดเผยว่า บริษัทได้หันมาเน้นการพัฒนาอสังหาฯเพื่อการลงทุนรูปแบบใหม่ “Investment Property” (IP) เป็นช่องทางการลงทุนใหม่ จากภาวะเศรษฐกิจที่ค่อนข้างผันผวน ได้รับผลกระทบทั้งปัจจัยภายในและภายนอกประเทศ ทำให้คนส่วนใหญ่หันมาสนใจการจัดสรรเงินลงทุนในรูปแบบที่หลากหลายมากขึ้น
ทั้งนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้เงินลงทุนหดหาย การลงทุนต้องมีความเสี่ยงต่ำ และในระยะยาวเงินทุนสามารถเติบโตเพิ่มขึ้น ซึ่งการลงทุนในอสังหาฯถือเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจให้ผลตอบแทนการลงทุนในระดับที่ดี และใช้เงินสดเพื่อการลงทุนไม่มาก
เพื่อตอบโจทย์ดังกล่าว บริษัทได้ลงทุนพัฒนาโครงการอสังหาฯเพื่อการลงทุน 100% โครงการแรก “วินแดม ในหาน บีช ภูเก็ต” ซึ่งเป็นการพัฒนาที่ดิน 11 ไร่ บริเวณใกล้หาดในหาน จังหวัดภูเก็ต มูลค่ากว่า 2,846 ล้านบาท สร้างเป็นอาคารสูง 4 ชั้น จำนวน 12 อาคาร ประกอบด้วยห้องชุด 353 ยูนิต ขนาด 40-60 ตารางเมตร ซึ่งเปิดขายในราคา 6.5- 12 ล้านบาท พัฒนาและจดทะเบียนเป็นโรงแรมระดับ 5 ดาว บริหารโดยเชนโรงแรมดังจากสหรัฐอเมริกา วินแดม (Wyndham) โดยคาดว่าโรงแรมจะเปิดให้บริการในเดือนกันยายนปี 2562
ขายเพื่อลงทุน 100% ผลตอบแทนเฉลี่ย 10%
โครงการนี้เป็นการขายเพื่อการลงทุนทั้ง 100% ซึ่งผู้ซื้อจะได้ถือครองอสังหาฯตามจำนวนยุนิตที่ซื้อ ซึ่งเป็นการขายราคาเหมารวมค่าใช้จ่ายทุกอย่าง โดยไม่มีค่าส่วนกลาง เหมือนการซื้อบ้านหรือคอนโดทั่วไป ซึ่งเป็นรูปแบบการลงทุนที่นิยมในต่างประเทศ ทั้งออสเตรเลีย อังกฤษ และอีกหลายประเทศ แต่ในไทยถือว่าเพิ่งเริ่มต้นยังไม่มีผู้นำเสนออสังหาฯ ในรูปแบบ IP อย่างเป็นทางการ
ส่วนผลตอบแทนการลงทุน ทางบริษัทจะการันตีผลตอบแทนการลงทุนใน 2 ปีแรกที่ 6% จากนั้นในปีที่ 3-15 คาดว่าเมื่อโรงแรมให้บริการอยู่ตัวแล้ว ผลตอบแทนการลงทุนจะไม่น้อยกว่า 10% ซึ่งรูปแบบการคิดผลตอบแทน จะคำนวณจากค่าบริหารจัดการหักค่าใข้จ่าย จากนั้นรายได้ส่วนที่เหลือจะจ่ายเป็นผลตอบแทนให้นักลงทุนทั้งหมด ซึ่งคาดว่าจะเป็นรายได้เฉลี่ยที่ 10% ต่อปี
“โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนสินเชื่อ จาก CITIC บริษัทรับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ของจีน ซึ่งเข้ามาเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างในโครงการนี้ และโครงการในอนาคต” นายอรรถนพ กล่าวและว่า ความร่วมมือระหว่างซิซซาและ CITIC จะมีต่อเนื่องไปยังโครงการต่างๆ ที่บริษัทจะลงทุนในอนาคต โดยบริษัทเตรียมเปิดอีก 2-3 โครงการในปี 2562
ในอนาคตเชื่อว่าตลาดการลงทุนอสังหาฯ หรือ IP จะเป็นทางเลือกการลงทุนที่ได้รับความนิยมมากขึ้น
ผันตัวจากรายย่อยสู่อสังหาฯเพื่อการลงทุน
ส่วนความเป็นมา ซิซซา กรุ๊ป นายอรรถนพ กล่าวว่า ทางกลุ่มมีประสบการณ์จากการเป็นนักพัฒนาอสังหาฯในภูเก็ตต่อเนื่องมาเป็นเวลา 15 ปี พัฒนาบ้านเพื่อขายให้ชาวต่างชาติมาแล้วหลายโครงการ มูลค่ารวม 1,485 ล้านบาท ประกอบด้วย
- ปี 2549 The Club & SPA จ.ภูเก็ต คลับแอนด์สปา มูลค่าโครงการ 90 ล้านบาท
- ปี 2550 The EVA จ.ภูเก็ต บ้านทาวน์เฮาส์ มูลค่าโครงการ 288 ล้านบาท
- ปี 2552 Vanilla จ.ภูเก็ต บ้านทาวน์เฮาส์ มูลค่าโครงการ 49 ล้านบาท
- ปี 2552 EVA Beach จ.ภูเก็ต วิลล่าพร้อมสระว่ายน้ำ มูลค่าโครงการ 770 ล้านบาท
- ปี 2555 EVA Town จ.ภูเก็ต บ้านทาวน์เฮาส์ มูลค่าโครงการ 250 ล้านบาท
- ปี 2555 COCO Rawai จ.ภูเก็ต วิลล่าพร้อมสระว่ายน้ำ มูลค่าโครงการ 38 ล้านบาท
ส่วนโครงการที่พัฒนาในปัจจุบัน มูลค่ารวม 5,287.24 ล้านบาท ประกอบด้วย
- ปี 2559 COCO Chalong Phase I จ.ภูเก็ต ทาวน์เฮาส์ มูลค่าโครงการ 700.89 ล้านบาท
- ปี 2559 EVA Town จ.นครศรีธรรมราช ทาวน์เฮาส์ มูลค่าโครงการ 354.14 ล้านบาท
- ปี 2560 COCO Kamala Phase I – III จ.ภูเก็ต ทาวน์เฮาส์ มูลค่าโครงการ 388.15 ล้านบาท
- ปี 2561 WYNDHAM Nai Harn Beach Phuket จ.ภูเก็ต โรงแรม มูลค่าโครงการ 2,846.14 ล้านบาท
- ปี 2562 WYNDHAM Chalong Phuket จ.ภูเก็ต โรงแรม มูลค่าโครงการ 997.92 ล้านบาท
สำหรับโครงการ “วินแดม ในหาน บีช ภูเก็ต” ปัจจุบันจาก 353 ยูนิต ยังเหลือพื้นที่ขายอีก 40 ยูนิต จะเปิดขายในงานเอ็กคลูซีฟ อินเวสเตอร์ เดย์ วันที่ 25 พฤศจิกายนนี้ ที่โรงแรมโนโวเทล กรุงเทพฯ สุขุมวิท 20