Internet Banking กลายเป็นอีกบริการสำคัญในชีวิตประจำวัน เพราะความสะดวกรวดเร็วและประหยัด ทำให้คนหันมานิยมใช้บริการมากขึ้น โดยเฉพาะการใช้ผ่านแอปพลิเคชั่นบนโทรศัพทย์มือถือ ที่สามารถ ฝาก-ถอน-โอน-จ่ายบิล-สอบถามยอดบัญชี-ชำระค่าบริการต่างๆ ไม่ว่าเราจะอยู่ที่ใดก็สามารถทำธุรกรรมออนไลน์ได้ทุกที่ทุกเวลา โดยไม่ต้องเดินทาง ลดการสิ้นเปลืองพลังงาน แถมยังได้บริการที่รวดเร็วทันใจ เพียงแค่คลิกผ่านแอปพลิเคชัน
แต่ภายใต้ความสะดวกสบาย ก็มาพร้อมกับภัยลับๆ จากมิจฉาชีพผู้ไม่หวังดี ที่พยายามหาช่องทางโจมตีและเข้าถึงบัญชีของผู้ใช้งาน ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นกับใครก็ได้ หากเราไม่รู้จักทันระวัง
ล่าสุดโครงการ Healthy Digital Family เสพสื่อ ใช้สติ มีสไตล์ ให้สตรอง โดยราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ได้จัดเสวนาให้ความรู้เบื้องต้นการใช้งาน Internet Banking อย่างรู้เท่าทัน เพื่อป้องกันการตกเป็นเหยื่อที่อาจทำให้เสียหายทั้งต่อตนเองและทรัพย์สิน โดยสรุปข้อแนะนำง่าย ๆ ไว้ 10 ข้อ ดังนี้
- พิมพ์ชื่อเว็บธนาคารเอง
เมื่อต้องการเข้าใช้งาน Internet Banking ผ่าน Web Browser ควรพิมพ์ชื่อเว็บไซต์ด้วยตัวเอง ไม่ควรใช้ Google ในการค้นหาเว็บไซต์ของธนาคาร เพราะบางครั้งอาจมีผู้สร้างเว็บปลอมทำให้เข้าใจผิด และอาจถูกหลอกเอาข้อมูล (Phishing) จากการลงทะเบียนเพื่อเข้าใช้งานไปใช้ได้
- สังเกตและใช้งานเว็บที่นำหน้าด้วย https
เว็บไซต์ที่ปลอดภัยในช่อง URL ที่ใส่ที่อยู่จะต้องนำหน้าด้วย https:// และมีรูปแม่กุญแจเสมอ เพราะเป็นเครื่องยืนยันว่าเป็นเว็บไซต์ของจริงจากธนาคารและมีการเข้ารหัสรักษาความปลอดภัยในการใช้งาน
- ตั้งรหัสผ่านให้ปลอดภัย
เก็บรักษารหัสชื่อผู้ใช้บริการ (User ID) รหัสผ่าน (Password) และรหัสรักษาความปลอดภัย (Security Password) ไว้เป็นความลับ ที่สำคัญต้องเปลี่ยนรหัสผ่านอยู่เสมอ โดยตั้งรหัสผ่านที่บุคคลอื่นคาดเดาได้ยาก เช่น ใช้ตัวอักษรใหญ่ ตัวอักษรพิเศษ และตัวเลข หลีกเลี่ยงการตั้งรหัสผ่านโดยใช้ข้อมูลส่วนตัว
- ข้อมูลส่วนตัวคือความลับ
ไม่เปิดเผยข้อมูลของตนเอง เช่น รหัสชื่อผู้ใช้บริการ รหัสผ่าน รหัสเอทีเอ็ม หมายเลขบัตรเครดิต รหัสบัตรเครดิต หมายเลขบัญชี หมายเลขบัตรประชาชน หรือข้อมูลส่วนบุคคลผ่านทางอีเมล์ใดๆ
- ออกจากระบบทุกครั้งหลังใช้งาน
คลิกออกจากระบบ (Log out) ทุกครั้ง เมื่อเลิกใช้อีเมล์หรือทำรายการทางการเงินเสร็จสิ้นแล้ว เพื่อป้องกันการถูกเจาะข้อมูลจากผู้ไม่หวังดี
- ใช้งานInternet Banking บนอุปกรณ์ส่วนตัวเท่านั้น
หลีกเลี่ยงการใช้คอมพิวเตอร์ในการทำธุรกรรมต่าง ๆ ร่วมกับผู้อื่น เช่น คอมพิวเตอร์ในร้านอินเทอร์เน็ต โรงแรม ร้านอาหาร เป็นต้น เนื่องจากอาจไม่มีระบบรักษาความปลอดภัยที่ดีพอ และหลีกเลี่ยงการทำธุรกรรมโดยใช้เครือข่าย WiFi สาธารณะ เพราะอาจถูกแฮกเกอร์จารกรรมข้อมูลได้
- อย่าหลงเชื่ออีเมล์หลอกลวง
หากได้รับอีเมล์แจ้งเตือนว่าให้รีบทำการ Log in Internet Banking ตามลิงก์ที่แนบมาในเมล์ มิเช่นนั้นเงินในบัญชีของท่านจะถูกยึด หรือบัญชีจะโดนระงับ อย่าตกใจและหลงเชื่อโดยเด็ดขาด เพราะธนาคารไม่มีนโยบายการแจ้งผ่านอีเมล์ จงอย่าคลิกลิงก์ และลบเมล์นั้นทิ้งไปทันที รวมถึง หลีกเลี่ยงการคลิกลิงก์ (link) ที่แนบมากับอีเมล์ที่ไม่ทราบชื่อผู้ส่ง หรืออีเมล์ที่ขอข้อมูลส่วนบุคคล เพราะอาจมีโปรแกรมสอดแนม (Spyware) แนบมากับลิงก์เหล่านั้นเพื่อการโจรกรรมข้อมูล
- รู้ทุกความเคลื่อนไหวของบัญชีด้วยSMS
ควรสมัครบริการ SMS แจ้งเตือนเงินเข้า-ออกทุกยอดการใช้จ่าย เพื่อให้ทราบการทำธุรกรรมได้ทันที และหมั่นตรวจสอบความถูกต้องของรายการที่ทำธุรกรรม และยอดเงินในบัญชีอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันรายการผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นได้
- ปลอดภัยอีกขั้นด้วยอีเมล์แจ้งเตือน
สมัครบริการอีเมล์แจ้งเตือนผูกติดกับบัญชี เพราะทางธนาคารจะมีข้อมูลที่ละเอียดมากกว่า SMS เพื่อให้ทราบว่า เงินออกไปเมื่อใด ไปยังบัญชีของใคร (ชื่อ-นามสกุล) เลขที่รายการ เป็นต้น
- ใช้งานInternet Banking ด้วยสติ
ใช้งานธนาคารออนไลน์อย่างมีสติ ในการทำธุรกรรมต่าง ๆ เช่น ตรวจสอบจำนวนเงิน บัญชีปลายทาง ตรวจสอบชื่อของเจ้าของบัญชีก่อนทำการโอน-จ่าย ทุกครั้ง เพื่อป้องกันความผิดพลาดในการทำธุรกรรมทุกประเภท
Internet Banking มีทั้งประโยชน์และโทษในตัว ผู้ใช้ควรศึกษาและทำความเข้าใจระบบ รวมถึงใช้สติในการใช้งานอย่างระมัดระวัง เพียงเท่านี้ ก็จะช่วยให้ใช้ชีวิตได้อย่างสะดวกสบาย ประหยัดเวลาได้มากขึ้น ใช้ชีวิตกับเทคโนโลยีต้องรู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลง เพื่อการใช้ประโยชน์สูงสุดควบคู่ความปลอดภัย
