พรุ่งนี้แล้วสำหรับกิจกรรมช้อปปิ้งวันคนโสดที่กลายเป็นอีเวนท์ที่มีผู้เล่นอุ่นหนาฝาคั่ง ซึ่งก่อนที่เราจะเข้าสู่วันดังกล่าว เรามีบทสัมภาษณ์พิเศษ “สุชญา ปาลีวงศ์” ผู้จัดการฝ่ายการตลาด ช้อปปี้ (ประเทศไทย) เกี่ยวกับเทรนด์ที่ช้อปปี้มองเห็นและกลยุทธ์เบื้องหลังของแคมเปญ Shopee 11.11 Big Sale ที่เตรียมไว้ตอบสนองเทรนด์การช้อปปิ้งเหล่านั้นมาฝากกัน
ปัจจุบัน คุณสุชญาเผยว่าช้อปปี้มียอดดาวน์โหลดในประเทศไทยแล้วกว่า 23 ล้านดาวน์โหลด และสำหรับเทศกาลวันคนโสดในปีนี้ ช้อปปี้ได้ใช้ข้อมูลเชิงลึกภายใต้ความร่วมมือจากเฟซบุ๊กพบว่า นักช้อปทั่วทั้งภูมิภาค โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับโมบายช้อปเปอร์เริ่มมีความคุ้นเคยกับวันคนโสดในฐานะที่เป็นวาระสำคัญแห่งการจับจ่ายออนไลน์
จากผลการศึกษาของ Facebook ใน 6 ประเทศ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกพบว่า ในวันที่ 11 พฤศจิกายน อัตราการจับจ่ายซื้อสินค้าจะสูงขึ้นกว่า 1.3 เท่า เมื่อเทียบกับวันที่ 11 ของเดือนอื่นๆ ในขณะที่อัตราส่วนของการจับจ่ายผ่านอุปกรณ์โมบายล์สูงขึ้นกว่า 76% ในช่วงเทศกาลวันหยุด
นอกจากนี้ ผลสำรวจยังพบว่า กว่า 1 ใน 4 ของชาวไทยที่เข้าร่วมการศึกษามีแนวโน้มที่จะจับจ่ายในช่วงวันคนโสดเพิ่มขึ้น ซึ่งนักช้อปชาวไทยมีแผนที่จะใช้งบประมาณสูงกว่า 8,000 บาทสำหรับการช้อปปิ้งตลอดช่วงวันหยุดยาว โดยนักช้อปถึง 23% มีแนวโน้มที่จะจับจ่ายในงบประมาณที่ใกล้เคียงหรือเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา
นอกจากนั้น เฟซบุ๊กยังพบว่า 69% ของชาวไทยที่ทำการศึกษาใช้โทรศัพท์มือถือเป็นช่องทางหลักในการเปรียบเทียบราคาสินค้าและหาข้อมูลประกอบการตัดสินใจซื้อด้วย
“โมบายล์ – ผู้ชาย – เซเลบ”
นั่นจึงไม่อาจปฏิเสธได้ว่า สมาร์ทโฟนคืออุปกรณ์สำคัญสำหรับเทศกาล 11.11 ไปโดยปริยาย แต่สิ่งที่ช้อปปี้พบบนแพลตฟอร์มยังมีมากกว่านั้น โดยกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซของช้อปปี้นั้น สุชญาชี้ว่ามาจาก 3 ปัจจัยหลัก นั่นคือ สมาร์ทโฟน, นักช้อปเพศชาย และเซเลบริตี้
“สมาร์ทโฟนเป็นอุปกรณ์หลักของผู้ใช้งานในประเทศไทยในการทำกิจกรรมบนโลกออนไลน์ โดยตัวเลขจาก eMarketer พบว่าประเทศไทยมีอัตราผู้ใช้งานสมารท์โฟนสูงสุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งในแง่ของปริมาณการใช้ข้อมูล (Data Consumption) และเวลาที่ใช้งาน (Time Spent) สอดคล้องกับสิ่งที่พบบนช้อปปี้ ยอดคำสั่งซื้อจากผู้ใช้งานช้อปปี้ในประเทศไทยกว่า 95% จะมาจากการสั่งซื้อสินค้าผ่านแอพพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือ และเรามีความเชื่อมั่นว่าการใช้งานในรูปแบบนี้จะยังคงเป็นที่นิยมต่อไปในอนาคต”
นอกจากนั้น จากผลการสำรวจโดยนีลเส็น พบว่าผู้ชายไทยซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ในความถี่ที่สูงกว่า และมียอดการใช้จ่ายเฉลี่ยที่สูงกว่าผู้หญิงราว 15% เป็นไปในทางเดียวกับพฤติกรรมการจับจ่ายบนช้อปปี้ โดยสินค้าที่เป็นที่นิยมสูง 3 อันดับแรกคือ สินค้าเกี่ยวกับยานยนต์ กีฬาและกิจกรรมกลางแจ้ง และเสื้อผ้าแฟชั่นผู้ชาย จากเทรนด์ดังกล่าว ช้อปปี้จึงรับมือด้วยการเปิดตัว Shopee for Men และการจัดแคมเปญ Super Men’s Day ทุกๆ วันที่ 23 ของเดือนด้วย
สุดท้ายคือกลุ่มเซเลบริตี้ ที่ผลสำรวจสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA) พบว่าเกือบ 66% ของผู้ที่ทำแบบสำรวจ เห็นด้วยว่าการรีวิวสินค้าโดยดาราหรือเซเลบริตี้ที่มีชื่อเสียงมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อ ซึ่งที่ผ่านมา บริษัทได้มีการจัดกิจกรรม Shopee X BNK48 Roadshow และได้รับการตอบรับที่ดีเช่นกัน ส่วนในเทศกาล 11.11 ทางช้อปปี้ได้เลือก แบมแบม กันต์พิมุกต์ ภูวกุล ให้เป็นแคมเปญแอมบาสเดอร์ เนื่องด้วยกระแสความนิยมในตัวของแบมแบมจะช่วยให้ช้อปปี้สามารถเข้าถึงแฟนๆ ทั่วประเทศได้ง่ายขึ้น โดยหลังจากเปิดตัวอย่างเป็นทางการผ่านช่องทางทวิตเตอร์ ก็พบว่ามีแฟนๆ จำนวนมากมาร่วมกด Like, comment และ re-tweet กว่า 50,000 ครั้งภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว
เปิดกลยุทธ์สร้างฐานผู้ใช้ออนไลน์ทั้งผู้ซื้อและผู้ชาย
เมื่อเป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ การสร้างฐานผู้ใช้งาน หรือชุมชนผู้ใช้งานออนไลน์ให้เกิดขึ้นจึงเป็นเรื่องสำคัญ โดยกลยุทธ์หลักของช้อปปี้ในจุดนี้มาจาก
- สำหรับฝั่งผู้ซื้อนั้น ช้อปปี้เผยว่ากลยุทธ์หลักมี 5 ข้อ นั่นคือ การสร้างชุมชนผู้ซื้อผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ได้แก่ เฟซบุ๊ก, ยูทูบ, ทวิตเตอร์ และไลน์ สองคือการใช้เซเลบริตี้ช่วยดึงดูด สามคือการพัฒนาเกมช้อปปี้เพลย์เพื่อสร้างความเพลิดเพลิน สี่คือการจัดแคมเปญต่าง ๆ อย่างสม่ำเสมอ และเป็นแคมเปญที่มีความคิดสร้างสรรค์ และห้าก็คือ การตั้งทีม Community Customer Service เข้ามาดูแลลูกค้า รวมถึงตอบคำถามต่าง ๆ
- ส่วนในฝั่งผู้ขายนั้น ช้อปปี้บอกว่าความรู้เป็นสิ่งสำคัญ จึงได้มีการเปิดตัว “Shopee University” เพื่อให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการ และผู้ขายสามารถวางระบบในการทำธุรกิจออนไลน์ได้ รวมถึงการจับมือกับสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการในธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในท้องถิ่นจำนวนกว่า 2,700 ร้านค้า ได้เปิดช้อปบนแพลตฟอร์ม
“สำหรับแคมเปญ Shopee 11.11 shopping event ในปีที่ผ่านมา เรียกได้ว่าได้รับการตอบรับที่ดีอย่างมากจากนักช้อป โดยคำสั่งซื้อเพิ่มสูงขึ้นกว่า 4.5 เท่า เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และมีสินค้าถูกจำหน่ายไปรวมกว่า 7 ล้านชิ้น” สุชญากล่าว
อย่างไรก็ดี เมื่อถามถึงการแข่งขันที่สูงมากของเทศกาล 11.11 ในปีนี้ โดยเฉพาะการที่ลาซาด้าควบรวมกิจการกับอาลีบาบาได้แล้วเสร็จ และมีแม่ทัพที่ส่งตรงจากจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งทำให้ลาซาด้ากลายเป็นอาวุธสำคัญของอาลีบาบาในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้น คุณสุชญาเผยว่าช้อปปี้ได้มีการเตรียมพร้อมเอาไว้ในหลายด้านเช่นกัน นั่นคือ
- การใช้ Gamification เข้ามาสร้างสีสัน เช่น การเปิดตัวเกมใหม่ Shopee Quiz ในช่วง Shopee 11.11 Big Sale เอาใจผู้ใช้กลุ่มมิลเลนเนียลโดยเฉพาะ ซึ่ง Shopee Quiz เป็นเกมตอบคำถามในรูปแบบไลฟ์สด ให้ผู้เล่นร่วมสนุกกับการตอบคำถามเพื่อลุ้นรับรางวัล Shopee Coins โดยสามารถร่วมสนุกกันได้ทุกวันตลอดช่วงแคมเปญ Shopee 11.11 Big Sale
- ความร่วมมือทางธุรกิจกับพาร์ทเนอร์ต่าง ๆ ที่ช้อปปี้บอกว่าแข็งแกร่งไม่แพ้กัน เช่น สินค้าลดราคาพิเศษเริ่มต้นที่ 11 บาท, การจับมือกับพิซซ่าฮัท แจกพิซซ่าฟรี 1 ถาดให้ลูกค้า 11 รายแรกที่โชว์หน้าแอพพลิเคชั่นช้อปปี้ที่ร้านพิซซ่าฮัทกว่า 130 สาขาทั่วประเทศ หรือจับมือกับแกร็บ โดยผู้ใช้แกร็บ ทั้ง GrabCar, JustGrab, GrabCarPlus, GrabXL หรือ GrabTaxi ในวันที่ 9 พฤศจิกายน จะได้รับคูปองแทนเงินสดมูลค่า 100 บาท สำหรับซื้อสินค้าในช้อปปี้ เป็นต้น
- การประกาศดีลเอ็กซ์คลูซีฟต่าง ๆ เช่น การเปิดตัวร้านออฟฟิเชียลช้อปของเจวายพี เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ บนช้อปปี้ อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 25 ตุลาคมที่ผ่านมา ทำให้นักช้อปสามารถเข้าถึงคอลเล็กชั่นสินค้าลิขสิทธิ์ที่มีหลากหลายแบบาก เจวายพี เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ได้บนช้อปปี้เพียงที่เดียว
- การดึงเซเลบริตี้คนดัง เช่น โอ๊ค-สมิทธิ์ โอปอล์-ปาณิสรา และ หญิง-รฐา มาอยู่บนช้อปปี้เซเลบริตี้คลับ ที่สามารถรับชมได้จากช่องทาง Official Account ของช้อปปี้ทั้งบนเฟซบุ๊ก ยูทูบ อินสตาแกรม และทวิตเตอร์
- การจัดดีลพิเศษในวันที่ 11 พฤศจิกายน เช่น สินค้าลดราคา 90% กิจกรรมแจกของรางวัล และโปรโมชั่นส่งฟรีแบบไม่มีขั้นต่ำ
“เราเชื่อว่าไม่มีกลยุทธ์ไหนที่สามารถใช้ได้เหมือนกันกับทุกประเทศ แต่จะต้องมีการปรับเปลี่ยนให้เหมาะสม และสอดคล้อง เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ผู้ใช้งานในประเทศนั้น ๆ ซึ่งจากความสำเร็จที่ผ่านๆ มา และการสนับสนุนที่ดีจากทั้งผู้ขาย และพันธมิตรทางธุรกิจ เชื่อว่าเราจะยังคงสามารถเติบโตในอัตรา Double digit และเราเชื่อมั่นว่าแคมเปญ Shopee 11.11 Big Sale จะประสบความสำเร็จ และได้รับการตอบรับที่จากผู้ใช้งานอย่างแน่นอน” คุณสุชญากล่าวทิ้งท้าย
