เศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ (creative economy) เติบโตรุดหน้าเช่นเดียวกับการท่องเที่ยว ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 10% ของจีดีพีทั่วโลก ข้อมูลล่าสุดจาก “แอร์บีเอ็นบี” ระบุว่าสำหรับประเทศไทยนั้น เจ้าของที่พักและเจ้าของกิจกรรมประสบการณ์ในไทยกว่า 2,000 ราย เป็นกลุ่มผู้สร้างสรรค์งานครีเอทีฟ
โดยมีคนจำนวนมากในกลุ่มนี้ อาศัยและทำงานในเมืองและไม่ได้อยู่บ้านของตนเองเป็นเวลานาน จึงมีการใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลและเทคโนโลยี เข้ามาช่วยสร้างรายได้จากสิ่งที่ตนสนใจและสร้างสรรค์ตามความถนัด ส่วนใหญ่เลือกแบ่งปันที่พักในส่วนที่ไม่ได้ใช้งานให้เป็นที่พักบนแอร์บีเอ็นบี โดยกำหนดราคาที่พักและเก็บรายได้สัดส่วน 97% ไว้ทั้งหมด
จากข้อมูลพบว่า 60% ของเจ้าของที่พักเชิงสร้างสรรค์ทั่วโลกต่างระบุว่า แอร์บีเอ็นบีช่วยให้พวกเขาสามารถพักอยู่ในที่พักของตัวเองได้ด้วย บางคนยังใช้ความชำนาญสร้างสรรค์กิจกรรมด้วยการเป็น เจ้าของแอร์บีเอ็นบี เอ็กซ์พีเรียนซ์ (Airbnb Experience) ลงมือสร้างสรรค์กิจกรรมให้นักเดินทางได้สัมผัสสิ่งใหม่ ๆ โดยกำหนดราคาเองและเก็บรายได้ในสัดส่วน 80% และมีการนำรายได้เหล่านี้ไปต่อยอดการสร้างสรรค์ผลงานของตนเองอีกด้วย
มิช โกห์ หัวหน้าฝ่ายนโยบายสาธารณะในภาคตะวันออกเชียงใต้ของ Airbnb กล่าวว่าในตลาดไทย 25% ของเจ้าของที่พักแอร์บีเอ็นบีในกลุ่มครีเอทีฟตั้งอยู่ที่กรุงเทพฯ พวกเขาเข้าใจในเรื่องวัฒนธรรมของกรุงเทพฯ เป็นอย่างดี และมุ่งแบ่งปันความคิดสร้างสรรค์และวัฒนธรรมอันโดดเด่นของกรุงเทพฯ กับแขกที่เข้าพัก
จากรายงานการท่องเที่ยวและสถานที่ท่องเที่ยวเชิงคุณภาพของสำหรับกรุงเทพฯ 2018 โดยแอร์บีเอ็นบี พบว่าเจ้าของที่พักกว่า 78% แนะนำกิจกรรมเชิงวัฒนธรรมให้กับแขกที่มาพัก และกว่าครึ่งของกิจกรรมเชิงวัฒนธรรมนั้นอยู่ใกล้กับที่พักไม่เกิน 20 นาที ถือเป็นการกระตุ้นให้ผู้เข้าพักได้เปิดประสบการณ์สัมผัสชุมชนท้องถิ่น นอกเหนือจากแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมทั่วไป
อีกทั้งพบว่า 1 ใน 5 กิจกรรมประสบการณ์ในประเทศไทย สร้างสรรค์จากกลุ่มผู้เชี่ยวชาญทางด้านวงการศิลปะ ดนตรี แฟชั่น และบันเทิง และกว่า 60% ของผู้สร้างสรรค์กิจกรรมประสบการณ์ หรือ แอร์บีเอ็นบี เอ็กซ์พีเรียนซ์ (Airbnb Experience Host) เป็นผู้หญิง ซึ่งสะท้อนสะท้อนรับกับรายงานจากยูเนสโก ถึงการไม่จำกัดคนรุ่นใหม่, ผู้หญิง และธุรกิจรายเล็กออกจากภาคธุรกิจสร้างสรรค์
รู้จักกับเจ้าของที่พักสุดครีเอทีฟ
อนันดา ฉลาดเจริญ เจ้าของที่พัก The Mustang Nero Hotel และนักเดินทาง อนันดาเป็นเจ้าของโรงแรมบูติก ซ. สุขุมวิท 46 ซึ่งได้มีการรีโนเวทอาคารพาณิชย์เป็นโรงแรมสุดชิคสไตล์วินเทจ อนันดายังเป็นแฟชั่นดีไซเนอร์ และลงมือออกแบบโรงแรมเองในธีมทรอปิคอล โดยห้องพัก 10 ห้องได้รับการตั้งชื่อเป็นชื่อของสัตว์ อาทิ The Zebra song, Black bird หรือ The Lion Sleep Tonight
เดอะ มัสแตง นีโร มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมาก ด้านการสร้างสรรค์งานดีไซน์และตกแต่ง เพื่อให้แขกที่เข้าพักสัมผัสประสบการณ์ที่แตกต่าง ขณะเดียวกันยังเป็นการแสดงความคิดสร้างสรรค์ฝีมือคนไทยสู่สายตาคนทั่วโลก
“แอร์บีเอ็นบีเป็นแพลตฟอร์มที่เราใช้เป็นหลัก และมีความรู้สึกว่า เราเติบโตไปพร้อมๆ กัน แอร์บีเอ็นบีช่วยให้เราเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายและเติบโตธุรกิจได้เป็นอย่างดี ซึ่งผู้เข้าพักกว่า 95% ได้จองผ่านแอร์บีเอ็นบี” อนันดากล่าว
จากการที่เธอเติบโตและใช้ชีวิตอยู่ในย่านพระโขนง อนันดายังชอบที่จะแนะนำสถานที่ห้ามพลาดในย่านนี้ให้กับนักเดินทางอีกด้วย ซึ่งได้จัดทำไกด์บุ๊ก 3 ภาษา ไทย อังกฤษ และจีน แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวพร้อมกับข้อแนะนำต่างๆ สำหรับนักเดินทางที่มาพักอีกด้วย
ปัจจุบันแอร์บีเอ็นบี เป็นแพลตฟอร์มด้านการเดินทางรายแรกในไทยที่ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจร่วมกัน (MoU) กับสมาคมการค้าธุรกิจที่พักบูติกไทย เพื่อนำโรงแรมบูติกมากกว่า 50 แห่งใน 15 จังหวัดทั่วไทยสู่แพลตฟอร์มแอร์บีเอ็นบีภายในปีนี้ ความร่วมมือนี้เป็นบทบาทสำคัญที่เพิ่มขึ้นของเจ้าของธุรกิจบูติกเชิงสร้างสรรค์ ที่มีต่อการขับเคลื่อนระบบนิเวศด้านการท่องเที่ยวชุมชน