ในการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เมื่อวันที่ 18 ที่ผ่านมามีมติดึงเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง กว่า 700 ล้านบาท เพื่อใช้ในการอุดหนุนน้ำมันดีเซลบี 20 ให้มีส่วนต่างจากดีเซลปกติ 5 บาทต่อลิตรจากเดิม 3 บาทต่อลิตรซึ่งใช้เงินเพียง 10 ล้านบาทต่อเดือน
นางสาวนันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน เปิดเผยว่ามาตรการดังกล่าวจะใช้ในช่วง 3 เดือน ( 1 ธันวาคม 2560-28 กุมภาพันธ์ 2562) ซึ่งจะส่งผลให้มีการดูดซับปริมาณน้ำมันปาล์มดิบได้อีก 31,303 ตัน
“กระทรวงพลังงานพยายามทำทุกทาง เพื่อดูดซับปริมาณน้ำมันปาล์มดิบที่ล้นตลาด เป็นการช่วยเหลือเกษตรกรสวนปาล์ม การให้บี 20 มีส่วนต่างจากดีเซลเพิ่มขึ้น เพื่อจูงใจให้มีผู้ใช้มากขึ้น และแบ่งเบาภาระในการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องและไส้กรองน้ำมันเชื้อเพลิงของกลุ่มขนส่งที่ใช้บี 20 ที่มีค่าใช้จ่ายอยู่ราว 10,000 บาทต่อคัน”
นางสาวนันธิกา กล่าวว่า มาตรการดังกล่าวคาดว่าจะทำให้มีรถบรรทุก เรือ รถโดยสารสาธารณะขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) และบริษัท บขส.จำกัด ประมาณ 800,000 คันหันมาใช้จากเดิมมีรถบรรทุกใช้อยู่ประมาณ 2,100 คัน และเรือ 64 ลำ ทำให้ยอดการใช้บี 20 เพิ่มขึ้นตามลำดับ จาก 3.5 ล้านลิตรต่อเดือนในปัจจุบัน เป็น 20 ล้านลิตรต่อเดือนในเดือนธันวาคม และเป้าหมายจะไปให้ถึง 100 ล้านลิตรต่อเดือน
ส่วนโครงการช่วยเหลือรถจักรยานยนต์รับจ้างที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ให้ใช้แก๊สโซฮอล์ 91 และ 95 ราคาต่ำกว่าปกติ 3 บาทต่อลิตรนั้น ซึ่งตั้งเป้าจะเปิดให้บริการส่วนลดดังกล่าวในวันที่ 15 ธันวาคมนี้ นางสาวนันธิกา ระบุว่าต้องเลื่อนออกไปไม่มีกำหนด เพราะยังอยู่ระหว่างการหารือกับกระทรวงการคลังในฐานะผู้ให้บริการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งยังไม่ได้ข้อสรุป เพราะเรื่องนี้มีรายละเอียดมากในเรื่องการเบิกจ่ายเงิน แต่เบื้องต้นหารือไว้ว่าจะใช้วิธีให้มอเตอร์ไซด์รูดผ่านบัตร เพื่อซื่อน้ำมันในราคาเต็มไปก่อน และจ่ายส่วนต่างคืนในสิ้นเดือน
“เราอยากทำให้เร็ว แต่เรื่องนี้ในทางปฏิบัติมีรายละเอียดมาก เพราะทุกอย่างต้องใช้จ่ายผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่กระทรวงการคลังเป็นเจ้าของบัตร และหลังจากที่เราได้ข้อสรุปชัดเจนแล้ว ก็จะหารือกับผู้ค้าน้ำมันมาตรา 7 ทุกราย เพื่อเข้าร่วมโครงการ เป็นการอำนวยความสะดวกในการเติมน้ำมันของมอเตอร์ไซด์ “
ทั้งนี้โครงการดังกล่าว กระทรวงพลังงานพุ่งเป้าที่จะช่วยเหลือผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์สาธารณะที่อยู่ในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัดที่ลงทะเบียนที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งมีจำนวนประมาณ 190,000 ราย ซึ่ง ณ ปัจจุบันเป็นผู้มีรายได้น้อยที่ได้ลงทะเบียนไว้ประมาณ 40,000 ราย
โดยผู้ขับรถจักรยานยนต์รับจ้างเฉลี่ยจะใช้น้ำมันวันละประมาณ 5 ลิตร ซึ่งจะชดเชยให้เดือนละ 450 บาท โดยการนำเงินฝากผ่านบัญชีธนาคาร ซึ่งเดิมกระทรวงพลังงานประกาศจะเริ่มดำเนินการได้ในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนนี้
