Business

อัพเดท ‘เราชนะ’ ล่าสุด กางกระเป๋ารอรัฐจัดหนักให้อีกรอบ เช็คเลย!!

อัพเดทความคืบหน้า “เราชนะ” ล่าสุด มีผู้ได้รับสิทธิ์แล้ว 32.9 ล้านคน โดยใช้จ่ายจนครบวงเงินสิทธิ์แล้ว จำนวน 24.9 ล้านคน ด้าน “ครม.” ไฟเขียวจ่ายเยียวยาเพิ่มอีก 2,000 บาท

กระทรวงการคลัง รายงานความคืบหน้าของโครงการเราชนะ ณ วันที่ 5 พฤษภาคม 2564 ดังนี้

ประชาชนกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 13.7 ล้านคน ได้มีการใช้จ่ายตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นมา จำนวน 73,722 ล้านบาท

ประชาชนกลุ่มที่อยู่ในระบบฐานข้อมูลของแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ในโครงการเราเที่ยวด้วยกันและคนละครึ่ง และกลุ่มประชาชนทั่วไปที่ลงทะเบียนทางเว็บไซต์ www.เราชนะ.com ที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติเบื้องต้นและยืนยันการใช้สิทธิ์ร่วมโครงการฯ แล้ว จำนวน 16.8 ล้านคน และมีการใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์สะสมตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นมา จำนวน 115,150 ล้านบาท

ประชาชนกลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ เป็นพิเศษที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติแล้ว จำนวน 2.4 ล้านคน มียอดใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์สะสมตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคม 2564 เป็นต้นมา จำนวน 15,190 ล้านบาท ทำให้มีผู้ได้รับสิทธิ์ในโครงการแล้ว รวมทั้งสิ้นจำนวน 32.9 ล้านคน คิดเป็นมูลค่าการใช้จ่ายหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจไทยแล้วกว่า 204,062 ล้านบาท

ทั้งนี้ มีผู้ได้รับสิทธิ์ในโครงการ ที่ใช้จ่ายจนครบวงเงินสิทธิ์แล้ว จำนวน 24.9 ล้านคน ซึ่งเป็นการใช้จ่ายผ่านผู้ประกอบการร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นที่มีแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ร้านค้าคนละครึ่งที่ตกลงยินยอมเข้าร่วมโครงการ รวมถึงผู้ประกอบการร้านค้าและผู้ให้บริการที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ จำนวนทั้งสิ้นมากกว่า 1.3 ล้านกิจการ

เราชนะ

นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยความคืบหน้าในการตรวจสอบผู้ประกอบการ ตามโครงการเราชนะว่า กระทรวงการคลัง ได้รับแจ้งเบาะแสจากประชาชนและหน่วยงานอื่น ๆ ของรัฐว่า มีผู้ประกอบการ ที่มีพฤติการณ์เข้าข่ายผิดหลักเกณฑ์ หรือเงื่อนไขของโครงการเราชนะที่ผ่านมา กระทรวงการคลัง ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลธุรกรรม และระงับสิทธิการเข้าร่วมโครงการของผู้ประกอบการแล้วทั้งสิ้นจำนวน 161 ราย และได้จัดส่งข้อมูลผู้ประกอบการดังกล่าว ให้แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, สำนักงานประกันสังคม เป็นต้น เพื่อใช้ประโยชน์ในการตรวจสอบข้อเท็จจริง และขยายผลการสืบสวนสอบสวนเพื่อดำเนินคดีต่อไป

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2564 กระทรวงการคลัง ได้ระงับสิทธิชั่วคราว การเข้าร่วมโครงการของผู้ประกอบการเพิ่มเติมจำนวน 2,744 ราย เนื่องจากตรวจพบธุรกรรมที่มีความผิดปกติ และเข้าข่ายผิดหลักเกณฑ์ หรือเงื่อนไขของโครงการเราชนะ ดังนั้น กระทรวงการคลัง จึงขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการ ที่เข้าร่วมโครงการเราชนะ ได้ตรวจสอบการระงับสิทธิ โดยการเข้าใช้แบนเนอร์ “เราชนะ” ในแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” หากท่านถูกระงับการใช้งาน ขอให้ผู้ประกอบการ ดำเนินการตามข้อความแนะนำที่ปรากฏขึ้นในแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” เพื่อเข้าสู่กระบวนการชี้แจงข้อเท็จจริงต่อไป

ขอให้ผู้ประกอบการซึ่งถูกระงับสิทธิ ชี้แจงข้อเท็จจริงมายังสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (โครงการเราชนะ) ภายในวันที่ 14 พฤษภาคม 2564 หากพ้นระยะเวลาดังกล่าวแล้ว กระทรวงการคลัง จะดำเนินการตามหลักเกณฑ์ ว่าด้วยวิธีการพิจารณาตรวจสอบข้อเท็จจริง และเรื่องร้องเรียนสำหรับโครงการเราชนะ ซึ่งทำให้ผู้ประกอบการอาจเสียสิทธิ ในการเข้าร่วมโครงการเราชนะ และถูกตรวจสอบขยายผลสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

กระทรวงการคลัง จะเร่งติดตามตรวจสอบประชาชน และผู้ประกอบการที่เข้าข่ายผิดหลักเกณฑ์ หรือเงื่อนไขของโครงการอย่างใกล้ชิด จึงขอความร่วมมือจากประชาชน และผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการของกระทรวงการคลัง ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ หรือเงื่อนไขของแต่ละโครงการอย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้เสียสิทธิการเข้าร่วมโครงการ หรือมาตรการอื่นของรัฐในอนาคต และถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุด ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ครม. ได้ออกมาตรการบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายของประชาชนในระยะเร่งด่วน สำหรับ “โครงการเราชนะ” นั้น รัฐบาลได้ขยายเพิ่มวงเงินช่วยเหลือให้ประชาชนอีกสัปดาห์ละ 1,000 บาท เป็นระยะเวลา 2 สัปดาห์ โดยมีระยะเวลาการใช้จ่ายสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2564 กรอบวงเงินประมาณ 67,000 ล้านบาท

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo