ทำเนียบขาวออกแถลงการณ์ เรื่องการระงับบัตรสื่อมวลชนของนายจิม อาคอสตา หัวหน้าทีมผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบขาวของสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็นอย่างไม่มีกำหนด ขณะเจ้าตัวทวีตว่า เขาเข้าพื้นที่ภายในทำเนียบขาวไม่ได้แล้ว
แถลงการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น หลังในระหว่างการแถลงข่าว ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ถูกผู้สื่อข่าวกลุ่มหนึ่ง ซักถามกดดันให้ชี้แจงเรื่องคาราวานผู้อพยพจากอเมริกากลาง ว่าเป็น “เครื่องมือทางการเมือง” ของพรรครีพับลิกันหรือไม่ และความคืบหน้าของกระบวนการสืบสวนสอบสวนข้อครหาว่า รัสเซียแทรกแซงการเมืองภายในของสหรัฐ ที่รวมถึงความเชื่อมโยงระหว่างรัฐบาลมอสโกกับแคมเปญหาเสียงของทรัมป์เมื่อ 2 ปีที่แล้วด้วย
แม้คำถามลักษณะดังกล่าวมาจากผู้สื่อข่าวหลายคน แต่ทรัมป์แสดงความไม่พอใจออกมาอย่างชัดเจนระหว่างการสนทนา กับอาคอสตา
ผู้นำสหรัฐยืนกรานว่าอเมริกายังคงเป็นประเทศที่ต้อนรับผู้อพยพ “ตราบใดที่เป็นการข้ามพรมแดนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย” หลังจากนั้นทรัมป์บอกให้อีกฝ่ายนั่งลง และส่งไมโครโฟนให้กับผู้สื่อข่าวคนอื่น แต่อาคอสตาปฏิเสธและกล่าวต่อว่า คาราวานผู้อพยพยังอยู่ห่างจากชายแดนของสหรัฐมากกว่า 1,000 กิโลเมตร จึงยังไม่อาจถือเป็น “การรุกราน” ตามทรรศนะของทรัมป์ได้
คำกล่าวของอาคอสตาดูเหมือนเป็น “ฟางเส้นสุดท้าย” สำหรับทรัมป์ ผู้นำสหรัฐกล่าวว่าการบริหารประเทศเป็นหน้าที่ของเขา ส่วนอาคอสตามีหน้าที่ทำงานให้กับซีเอ็นเอ็น ซึ่งหากอาคอสตาทำงานดีจริง เรตติ้งของซีเอ็นเอ็นน่าจะดีกว่านี้ด้วย แต่ตอนนี้ซีเอ็นเอ็นควร “ละอายแก่ใจ” ที่มีพนักงานอย่างอาคอสตา ซึ่งหยาบคายและไร้มารยาท
ขณะที่ผู้สื่อข่าวซึ่งได้รับไมโครโฟนเป็นคนต่อมา คือนายปีเตอร์ อเล็กซานเดอร์ จากเอ็นบีซี ไม่ได้ตั้งคำถามทันทีแต่กล่าวปกป้องอาคอสตา ทรัมป์กล่าวว่าเอ็นบีซีก็ไม่ใชสำนักข่าวที่ดีเหมือนกัน และเมื่อเห็นอาคอสตายังคงพยายามลุกขึ้นเพื่อซักถามอีก ทรัมป์กล่าวว่าซีเอ็นเอ็นเป็นสถานีที่รายงานแต่ “ข่าวปลอม” ถือเป็นสื่อที่เป็น “ศัตรูของประชาชน”