โควิด อินเดีย : องค์การอนามัยโลก ชี้ สถานการณ์ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในอินเดีย รุนแรงมาก ช่วงสัปดาห์ที่แล้ว นับถึงวันที่ 25 เมษายน มียอดผู้ป่วยใหม่ คิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 38% ของจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั่วโลก
องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศจำนวนผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) รายใหม่ในอินเดีย ครองสัดส่วนร้อยละ 38 ของจำนวนผู้ป่วยใหม่ทั่วโลก หรือ 2,172,063 ราย ในช่วงเวลา 7 วัน นับถึงวันที่ 25 เมษายนที่ผ่านมา โดยจำนวนผู้ป่วยทั่วโลกเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 9 แล้ว
WHO คาดการณ์ว่า จำนวนผู้ป่วย โควิด อินเดีย ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว น่าจะมาจากเชื้อไวรัสโควิด-19 แบบกลายพันธุ์คู่ (double mutant) หรือมีชื่อเรียกทางวิทยาศาสตร์ว่า “บี1617” (B1617) ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่ “มีอัตราความชุกของโรคเพิ่มขึ้น” ในกลุ่มผู้ป่วยใหม่ของอินเดีย
ไวรัสโควิด-19 ชนิดกลายพันธุ์ สายพันธุ์บี1617 มีแนวโน้มเกิดจากการกลายพันธุ์แยกของเชื้อไวรัสโควิด ชนิดกลายพันธุ์ 2 สายพันธุ์ โดย บี1617 “มีอัตราการเติบโตสูงกว่าไวรัสโควิด-19 กลายพันธุ์ชนิดอื่น ๆ ที่แพร่ระบาดในอินเดีย ซึ่งบ่งชี้ถึง ความสามารถในการแพร่เชื้อที่รวดเร็วขึ้น
รายงานประจำสัปดาห์ของ WHO บอกด้วยว่า ขณะนี้มี 17 ประเทศ ที่ต้องสงสัยว่าเป็นแหล่งสะสมเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์ดังกล่าว รวมถึง สิงคโปร์ สหราชอาณาจักร และสหรัฐ
ขณะเดียวกัน รายงานยังพบว่า อินเดียรายงานการตรวจพบผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นถึง 93% เมื่อเทียบสัปดาห์ต่อสัปดาห์ โดยช่วง 7 วันที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตรวม 15,161 ราย
จำนวนผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด-19 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และภูมิภาคเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออก เพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 6 ขณะจำนวนผู้เสียชีวิตในพื้นที่อื่น ๆ ลดลงเล็กน้อย
“หากจะพูดให้เห็นภาพชัดเจนคือ จำนวนผู้ป่วยทั่วโลกเมื่อสัปดาห์ก่อน สูงเกือบเท่ากับตัวเลขผู้ป่วยในช่วง 5 เดือนแรกของการระบาดใหญ่” นพ.ทีโดรส อัดฮานอม กีเบรเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ WHO ระบุว่า พร้อมอธิบายสถานการณ์โควิดระบาดในอินเดียว่า “หนักหนายิ่งกว่าหัวใจสลาย”
40 ประเทศ เสนอช่วย โควิด อินเดีย
ทางด้านนายหรรษ วรรธน ศฤงคลา เลขานุการต่างประเทศ สังกัดกระทรวงการต่างประเทศของอินเดีย เปิดเผยว่า จนถึงขณะนี้ มีประเทศต่าง ๆ มากกว่า 40 ประเทศ ได้เสนอความช่วยเหลือ และการสนับสนุนด้านอุปกรณ์การแพทย์ โดยเฉพาะเครื่องผลิตออกซิเจน เพื่อช่วยอินเดีย รับมือกับการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกสอง
อินเดีย กำลังเผชิญการแพร่ระบาดอย่างรุนแรงของไวรัสโควิด-19 ระลอกสอง โดยพบผู้ป่วยเพิ่มเกือบ 380,000 ราย และผู้ป่วยเสียชีวิต 3,645 ราย เมื่อวานนี้ (29 เม.ย.) ทำให้มีผู้ป่วยสะสม 18,376,524 ราย และผู้ป่วยเสียชีวิต 204,832 ราย
นายศฤงคลา กล่าวระหว่างการแถลงข่าว เกี่ยวกับความร่วมมือระหว่างประเทศ เพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ว่า อินเดียยินดีรับความช่วยเหลือจากต่างประเทศ เพื่อรับมือกับความต้องการเร่งด่วนระยะสั้น ก่อนที่อุตสาหกรรมในประเทศ จะสามารถเพิ่มศักยภาพ เพื่อตอบสนองต่อความจำเป็นในระยะกลาง-ยาว
สถานเอกอัครราชทูต และคณะทูตของอินเดีย ในต่างประเทศทำงานอย่างใกล้ชิดกับรัฐบาล อุตสาหกรรมเอกชน สมาคม และอุตสาหกรรมเภสัชกรรมในประเทศนั้น ๆ เพื่อให้ได้สิ่งจำเป็นทางการแพทย์ มาช่วยแก้ไขสถานการณ์ในประเทศอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
เที่ยวบินขนส่งสินค้าส่วนหนึ่งจากบางประเทศ ซึ่งรวมถึงรัสเซีย เดินทางมาถึงอินเดียแล้ว และมีอีกหลายเที่ยวบิน ซึ่งบรรทุกอุปกรณ์การแพทย์ โดยเฉพาะเครื่องผลิตออกซิเจน จะเดินทางมาถึงอินเดีย ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
ปัจจุบันอินเดีย สามารถผลิตยาเรมเดซิเวียร์ (Remdesivir) ได้ราว 67,000 หลอดต่อวัน และสามารถขยายกำลังการผลิตได้ถึง 300,000-400,000 หลอดต่อวัน
“เราให้ความสำคัญกับอุปกรณ์บางชนิดเป็นลำดับแรก โดยออกซิเจนเหลว เป็นหนึ่งในนั้น เรายังได้รับการแจ้งความต้องการ สำหรับอุปกรณ์ผลิตออกซิเจน เช่น เครื่องผลิตออกซิเจน ถังแช่แข็ง และอุปกรณ์ขนส่งสำหรับออกซิเจน”
นายศฤงคลาทิ้งท้ายว่า ยังมีความต้องการผลิตภัณฑ์ยาเร่งด่วนบางชนิด เช่น ยาเรมเดซิเวียร์ และยาโทซิลิซูแมบ (Tocilizumab) แม้จะมีการผลิตตามความต้องการแต่ก็ยังไม่สามารถตอบสนองภาวะขาดแคลนกะทันหันได้
ที่มา : สำนักข่าวซินหัว
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘อินเดีย’ เตรียมแตะจุดสูงสุด ‘โควิด – 19’ ระบาดกลาง พ.ค. คาดป่วยพุ่งวันละ 5 แสน
- ‘ญี่ปุ่น’ ประกาศภาวะฉุกเฉิน รอบ 3 ‘กรุงโตเกียว’ พ่วงอีก 3 จังหวัด เริ่ม 25 เม.ย.นี้
- สถานทูตอินเดีย แจ้งยกเลิก เที่ยวบินกลับไทย วันที่ 1 พ.ค.นี้ คนไทยลงทะเบียนกลับน้อย
