Stock

‘ดาวโจนส์’ ร่วง เจอบอนด์ยีลด์พุ่ง กลบปัจจัยบวกในตลาด

ตลาดหุ้นสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (29 เม.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น ขยับลงมาอยู่ในแดนลบ จากการที่ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ดีดตัวสูงขึ้นมาอีกครั้ง  บดบังการประกาศรายได้อย่างแข็งแกร่งของหลายบริษัท ซึ่งเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนให้ตลาดทะยานขึ้น ในช่วงแรกของการซื้อขาย 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 33,806.54 จุด ลดลง 13.84 จุด หรือ 0.04% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ 4,183.13 จุด ลบ 0.05 จุด และดัชนีแนสแด็กที่ 13,971.94 จุด ปรับลงมา 79.09 จุด หรือ 0.56%

Stocksbitcoin ๒๑๐๔๒๒ 0

ในช่วงแรกของการเปิดตลาดนั้น หุ้นหลายตัว รวมถึง หุ้นกลุ่มธุรกิจเรือสำราญดีดตัวขึ้น  หลังจากที่ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ (CDC) ระบุว่า สหรัฐจะเปิดท่าเรือทั่วประเทศในกลางเดือนกรกฎาคมนี้ ซึ่งจะทำให้เรือของสหรัฐสามารถเริ่มเดินทางออกจากท่าเรือในช่วงเวลาดังกล่าว

อย่างไรก็ดี ตลาดเจอกับแรงเทขายอย่างหนัก หลังจากที่ ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ดีดตัวสูงขึ้น หลังการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ดีดตัวสู่ระดับ 1.665% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 2.329%

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 1/2564 โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 6.4% ในไตรมาส 1 ใกล้เคียงกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ในช่วง 6.1-6.5% และเป็นตัวเลขการขยายตัวสูงเป็นอันดับ 2 นับตั้งแต่ไตรมาส 3/2546 หลังจากที่เติบโต 4.3% ในไตรมาส 4/2563

นอกจากนี้ เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 33.4% ในไตรมาส 3/2563 ซึ่งเป็นการขยายตัวสูงเป็นประวัติการณ์ นับตั้งแต่ที่สหรัฐเริ่มมีการรวบรวมข้อมูลในปี 2490 หรือมากกว่า 70 ปี จากการที่สหรัฐเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ และมีการเปิดเศรษฐกิจ

หลังจากหดตัว 31.4% ในไตรมาส 2 ซึ่งเป็นการหดตัวรุนแรงเป็นประวัติการณ์ และหดตัว 5% ในไตรมาส 1 ส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย เนื่องจากมีการหดตัว 2 ไตรมาสติดต่อกัน โดยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะมีการขยายตัวมากกว่า 7.0% ในปีนี้ ซึ่งจะเป็นการขยายตัวสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2527 หลังจากหดตัว 3.5% ในปีที่แล้ว ซึ่งเป็นการหดตัวรุนแรงที่สุดในรอบ 74 ปี

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 13,000 ราย สู่ระดับ 553,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐเมื่อเดือนมี.ค.2563

ขณะเดียวกัน กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่องลดลงสู่ระดับ 3.66 ล้านราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคม 2563

นอกจากนี้ นักลงทุน ยังเริ่มชั่งน้ำหนักถึงถ้อยแถลงของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่มีการเปิดเผยงบใช้จ่ายเพิ่มเติม 1.8 ล้านล้านดอลลาร์ และแถลงการณ์ของนายเจอร์โรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลังปิดประชุมเจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายเฟด เมื่อวานนี้ (28 เม.ย.) ซึ่งยืนยันว่า เฟดจะยังคงใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินต่อไป และจะยังไม่ปรับลดวงเงินซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) แม้เศรษฐกิจสหรัฐ จะฟื้นตัวแข็งแกร่งมากขึ้นก็ตาม

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo