แฟน ๆ นับถอยหลังรอการกลับมาอย่างใจจดใจจ่อเลยทีเดียว เมื่อได้เห็นทีเซอร์ของพิธีกรข่าวระดับตำนาน สรยุทธ สุทัศนะจินดา เตรียมกลับมาทำหน้าที่อ่านข่าวในรายการ เรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 อีกครั้ง หลังห่างหายจากหน้าจอโทรทัศน์ไปนานกว่า 5 ปี
โดยล่าสุด สรยุทธ ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก เผยถึงความรู้สึกตั้งแต่วันแรกที่เข้าเรือนจำจนกระทั่งได้รับการพักโทษและมีโอกาสกลับมานั่งอ่านข่าวอีกครั้ง
“วันที่ผมถูกจำคุก รับโทษตามคำพิพากษา ผมนึกถึงประโยค อยู่ให้เป็น เย็นให้พอ รอให้ได้ พูดง่าย แต่ทำยากเหลือเกิน โดยเฉพาะทำใจ ผมพยายามมองในแง่ดีว่า อย่างน้อยมันก็จบเสียที วันหนึ่งผมจะได้เริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ ในคุก ผมพยายามใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ ทั้งกับเรือนจำ ทั้งกับเพื่อน ๆ ผู้ต้องขัง แม้กระทั่งกับตัวผมเองเพื่อให้เวลามันผ่านไปได้ ในคุกไม่เคยมีความสุข ขอแค่ทุกข์พอประมาณก็ดีถมไปแล้ว ผมได้รับมอบหมายให้ทำ “เรื่องเล่าชาวเรือนจำ” ให้ความรู้เรื่องโควิด 19 เพื่อไม่ให้เกิดความตื่นตระหนกจนนำไปสู่เหตุวุ่นวาย
ผมเสนอทำรายการ “กำลังใจสู่ชาวเรือนจำ” เพราะผมอยากเห็นเพื่อน ๆ มีกำลังใจ รอวันเวลาออกไปเริ่มต้นชีวิตใหม่และไม่หวนกลับไปทำผิดซ้ำอีก แน่นอน ผมต้องให้กำลังใจตัวเองด้วยให้อดทน ก้มหน้ารับโทษตามคำพิพากษา กระทั่งผมได้รับการพักการลงโทษตามกฎเกณฑ์ ได้ออกมาใช้ชีวิตในโลกภายนอกอีกครั้ง ผมดีใจที่แฟนข่าวไม่ลืมกัน
โลกเปลี่ยนไปมาก สังคมข่าวสารก็เปลี่ยนไปเยอะ งานข่าวคืออย่างเดียวที่ผมทำเป็น และการทำงานคือชีวิตของผม ผมต้องหยุดใช้ชีวิตของผมมานาน ตั้งแต่วันที่ศาลชั้นต้นพิพากษา ทุกวันตื่นขึ้นมาแล้วไม่ได้ไปใช้ชีวิตอย่างที่เคยเป็น ทุกข์ที่สุดจริง ๆ ครับ
วันที่ผมได้รับการพักการลงโทษ ผมได้รู้ในสิ่งที่ผมเองคาดไม่ถึงจากช่องทางการสื่อสารในโลกยุคใหม่ ทุกคนแสดงออกได้ บอกความรู้สึกได้ ผมได้รู้ว่ามีแฟนข่าวรอคอยการกลับมา กลับมาทำหน้าที่หน้าจออีกครั้ง หลายคนรับผมเป็นคนในครอบครัวจริง ๆ หลายคนบอกว่าดูผมตั้งแต่ยังเป็นเด็กจนเรียนจบ ทำงานทำการ มีลูกมีเต้า คุณปู่คุณย่าคุณตาคุณยายมากมายที่ลูก ๆ หลาน ๆ ออกมาบอกว่าท่านรออยู่นะ วันแรกที่ผมเดินเข้าคุก ผมไม่ได้ร้องไห้ แต่วันแรกที่ผมได้พักการลงโทษ ผมกลับบ้านไปร้องไห้
ผมได้อ่านข้อความต่าง ๆ เสมือนได้พบครอบครัวใหญ่ของผม เสมือนญาติ ๆ สนิทของผม พากันมารับผมออกจากเรือนจำ หลายคนบอกน้ำตาไหล และผมก็น้ำตาไหล พวกเขาน่าจะอยากให้ผมได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ กลับไปทำหน้าที่พูดคุยกับพวกเขาทุกเช้า พวกเขาอยากให้ผมกลับไปทำรายการ เป็นคนมานั่งบอกเล่าข่าวให้ฟังทุก ๆ วัน บางวันฟังแล้วเขาอาจจะชอบใจ บางวันอาจจะไม่ชอบใจ เหมือนที่เคยเป็นมา เป็นเพื่อน เป็นพี่เป็นน้อง เป็นลูกเป็นหลาน เป็นลุงเป็นอา ยามที่เขาทำกิจวัตรตอนเช้า หรือแม้แต่เป็นนาฬิกาปลุก ไม่มีใครรู้ว่ารายการที่ผมกลับมาทำจะประสบความสำเร็จหรือไม่ โลกเปลี่ยนไป สังคมเปลี่ยนไป
แต่ผมเชื่อของผมว่า ครอบครัวข่าวของผม แฟนข่าวของผม ยังอยากพบอยากเจอกัน ความผูกพันที่เกิดขึ้นจากความจริงใจต่อกันมายาวนาน
วันนี้ ผมอยากจะกลับมาทักทาย พูดคุย เล่าเรื่อง อยากจะร่วมทุกข์ร่วมสุขอย่างที่เคยเป็นมา ขอบคุณที่ติดตามเป็นกำลังใจให้เสมอมาครับ”
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- วินาทีพบหน้า! ดีเจเพชรจ้า เผยโมเมนต์แรก น้องไทก้า เจอหน้าพ่อ หลังหายป่วยโควิด
- เล็กพริกขี้หนู! เต้ย จรินทร์พร เดินชิล ๆ แต่ทำไฟลุก เพราะเสื้อแหวกอกดีเทลแซ่บ ๆ
- มดดำ ผลตรวจโควิด-19 รอบแรกรอด! เปิดใจถึงที่มาที่ไป รู้สึกผิดกับ หนูเล็ก มาก