“หมอบุญ” เปิดฮอสพิเทล รับมือวิกฤติโควิด ดึงโรงแรมพูลแมนฯ อโศก – ไอบิส อิมแพ็ค เข้าเครือธนบุรี เฮลท์แคร์ พร้อมบริการกว่า 800 เตียง รองรับผู้ป่วยอาการน้อย
จากสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อยังเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ทำให้เกิดปัญหาผู้ป่วยตกค้าง เตียงในโรงพยาบาลไม่พอรองรับผู้ป่วยโควิด ส่งผลให้ภาครัฐ ต้องขอความร่วมมือภาคเอกชน ขยายฮอสพิเทล (Hospitel) รองรับคนไข้อาการน้อย หรือไม่มีอาการ เพื่อสงวนเตียงโรงพยาบาล สำหรับผู้ป่วยหนัก จนเกิดการเปลี่ยนโรงแรม เป็นฮอสพิเทล มากขึ้น เช่นล่าสุด เครือธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป โดย นายแพทย์บุญ วนาสิน หรือ หมอบุญ เปิดฮอสพิเทล รับมือวิกฤติโควิด
นายแพทย์บุญ วนาสิน ประธานกรรมการ บมจ.ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป (THG) เปิดเผยว่า ปัจจุบันผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ไม่มีอาการ หรืออาการไม่รุนแรง ไม่มีโรคแทรกซ้อน มีทางเลือกที่จะสามารถเข้าพักรักษาตัวใน ฮอสพิเทล ได้ โดยใช้สิทธิประกันสุขภาพหรือใช้สิทธิ UCEP แล้วแต่กรณี
สำหรับ THG ได้ร่วมมือกับ โรงแรมพูลแมน กรุงเทพฯ แกรนด์ สุขุมวิท (อโศก) และโรงแรมไอบิส กรุงเทพฯ อิมแพ็ค ปรับพื้นที่เพื่อรองรับคนไข้โควิด ที่มีอาการน้อย หรือไม่มีอาการ แต่ยังต้องกักตัว 14 วัน โดยมีห้องให้บริการจากทั้งสองโรงแรม รวมกว่า 800 ห้อง
นอกจากนี้ ยังได้พร้อมความเตรียมทีมแพทย์ และพยาบาล เพื่อดูแลคนไข้ โดยใช้การสื่อสารผ่านระบบ Telemedicine เพื่อความปลอดภัย คนไข้จะได้รับบริการอาหาร จัดยา ติดตาม และประเมินอาการ จากแพทย์และพยาบาล จนกระทั่งหายเป็นปกติ และตรวจไม่พบเชื้อ จึงสามารถกลับบ้านได้ อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่คนไข้มีอาการรุนแรงขึ้น เช่น ปอดติดเชื้อ จึงจะส่งตัวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลต่อไป
จากการระบาดระลอกใหม่ ที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อในแต่ละวัน เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และมีการกลายพันธุ์ ของเชื้อไวรัส โรงพยาบาลในเครือ THG จึงเตรียมความพร้อมรองรับคนไข้โควิด-19 เพื่อสนับสนุนภาครัฐ ในการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาด ตั้งแต่การเปิดตรวจคัดกรอง โรคโควิด-19 และบรรเทาปัญหาขาดแคลนห้องพัก
“THG เชื่อว่า ฮอสพิเทล จะสามารถป้องกัน และแก้ไขปัญหา ขาดแคลนที่พักรักษา ช่วยรองรับคนไข้ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน”นายแพทย์บุญ กล่าว
ขณะที่ การจัดตั้ง หอผู้ป่วยเฉพาะกิจ หรือฮอสพิเทล (Hospitel) ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างโรงแรม และ THG เพื่อปรับห้องพักโรงแรม มาเป็นห้องผู้ป่วยชั่วคราว สำหรับผู้ป่วยที่ไม่มีอาการ หรือแสดงอาการเพียงเล็กน้อย โดยการขยายพื้นที่รักษาผู้ป่วยนี้ จะช่วยให้สามารถเข้าถึงการรักษา และป้องกันการแพร่กระจายโรคได้ดีขึ้น
ทั้งนี้ หากสามารถควบคุมจำนวนผู้ติดเชื้อได้ และมีพื้นที่ดูแลผู้ป่วย ที่อาการน้อย ก็จะช่วยให้มีเตียงโรงพยาบาล สำรองสำหรับผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงกว่า และช่วยลดโอกาสที่อัตราผู้เสียชีวิตจะเพิ่มขึ้น จากการมีห้องผู้ป่วยวิกฤต (ICU) และเครื่องช่วยหายใจไม่เพียงพอ
ปัจจุบันคาดว่า โรงพยาบาลในประเทศไทย จะสามารถรองรับผู้ติดเชื้อรายใหม่ ที่เพิ่มขึ้นในระดับประมาณ 2,000 คน/วัน จึงจำเป็นต้องเตรียมการขยายพื้นที่รักษา และสิ่งจำเป็นอีกประการ คือ การจัดหายารักษาให้เพียงพอ และทันท่วงที เช่น ยาฟาวิพิราเวียร์ ที่มีผลการศึกษาว่า มีประสิทธิภาพในการต้านไวรัสได้ดี หากคนไข้ได้รับยาช้าเกินไป อาจทำให้มีอาการมากขึ้น การรักษาไม่ได้ผลดีเท่าที่ควร
นอกจากนี้ วัคซีนก็เป็นสิ่งจำเป็น ที่จะช่วยป้องกันการระบาดได้บ้าง และช่วยลดความรุนแรงของอาการ ในกรณีที่ติดเชื้อ
“หากสามารถระดมฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนอย่างรวดเร็ว จะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ทำให้สามารถกลับมาดำเนินวิถีชีวิตได้ปกติ ช่วยกระตุ้นสภาพเศรษฐกิจของประเทศ”นายแพทย์บุญ กล่าว
สำหรับสถานการณ์เตียงขาดแคลน ที่เกิดขึ้นในกรุงเทพมหานคร พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า ข้อมูล ณ วันที่ 27 เมษายน 2564 โรงพยาบาลสนามกทม. มีเตียงรองรับผู้ป่วย จำนวน 1,700 เตียง ประกอบด้วย
1. โรงพยาบาลผู้สูงอายุบางขุนเทียน เขตบางขุนเทียน รองรับได้ 1,000 เตียง ครองเตียง 426 เตียง ยังว่างอยู่ 574 เตียง
2. โรงพยาบาลราชพิพัฒน์ 200 เตียง ครองเตียง 187 เตียง ยังว่างอยู่ 13 เตียง
3. โรงพยาบาลเอราวัณ 1(ศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ บางบอน) 100 เตียง ครองเตียง 59 เตียง ยังว่างอยู่ 41 เตียง
4. โรงพยาบาลเอราวัณ 2 (บางกอกอารีนา) 400 เตียง ครองเตียง 214 ยังว่างอยู่ 186 เตียง
นอกจากนี้ ยังมี ฮอสพิเทล จำนวน 60 แห่ง รวมครองเตียง 947 เตียง เตียงคงเหลือ 814 เตียง
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘ฮอสพิเทล’ ทางเลือกที่ผู้ป่วยโควิดอยากได้ เพิ่มทางรอดธุรกิจโรงแรม
- หุ้นโรงพยาบาล 7 เรื่องควรรู้ก่อนซื้อ!
- เช็คเลย! โควิดวันนี้ เจอที่ไหนบ้าง ‘สมุทรสาคร-ปทุมธานี’ ยังวางใจไม่ได้
