คงจะคุ้นหูกันมากกับ “ชิปปิ้ง” คือผู้ที่ทำหน้าที่เป็นตัวแทน นำเข้าหรือส่งออกสินค้า ให้กับผู้ที่มีความต้องการนำเข้าและส่งออกสินค้า ทำหน้าที่คอยดำเนินงานพิธีการศุลกากรแทนผู้นำเข้า หรือผู้ส่งออกของหรือสินค้าต่างๆ
ชิปปิ้งต้องมีความรู้และความเข้าใจเรื่องพิธีการศุลกากรและระเบียบข้อบังคับต่างๆ พิกัดอัตราฏาษีของที่นำเข้าหรือส่งออก
ศุลกากรและชิปปิ้งต้องทำงานใกล้ชิดกัน เพราะต่างก็มีหน้าที่ที่จะต้องทำ และคอยประสานซึ่งกันและกัน ต้องมีความช่วยเหลือกันและกัน เพื่อให้งานนั้นสำเร็จปราศจากปัญหา และเป็นมาตรฐานมีประสิทธิภาพ เพราะจะสร้างความน่าเชื่อถือให้กับผู้ใช้บริการ
เช่นเดียวกับกรณีนำเข้ารถหรู ผู้นำเข้าจำเป็นต้องใช้ชิปปิ้ง เป็นผู้คอยดำเนินการทั้งหมด จนกว่ารถจะถึงมือบริษัทผู้นำเข้า หรือเจ้าของโชวร์รูมรถนำเข้า
ทางรอดต้องรู้จักเข้าหาผู้ใหญ่เป็น
“ผมว่าการทำชิปปิ้งไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่คิดกันนะ มันมีหลายขั้นตอนมาก ยิ่งปัจจุบันนี้ยิ่งยากนัก ใครสายป่านไม่ยาวพอก็ไปไม่รอด ต้องรู้จัก และเข้าหาผู้ใหญ่เป็น ต้องมีผู้ใหญ่หลายระดับคอยให้การช่วยเหลือ ” เสียงจากชิปปิ้งรายใหญ่เปรยให้ฟังถึงความอยู่รอด
ถามว่าทำไม ต้องใช้ระดับคนมีสีเป็นคนให้การช่วยเหลือ จัดการเองไม่ได้หรือ ตอบทันที ไม่ได้
ที่สำคัญตอนนี้มีลูกชายคนมีสีเขาก็มาทำชิปปิ้งอยู่ เวลามีอะไรมักโทรศัพท์หาคุณพ่อเขาสามารถช่วยได้ทันที
ฉะนั้นจะเห็นว่า ถ้าไม่มีเส้นสายจริงไม่เกิด ต้องมีผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องเกือบทุกสายงาน ต้องเข้าถึงให้ได้ไม่เฉพาะคนมีสีเท่านั้น
จากนั้นก็เริ่มอธิบายทันทีว่า การทำชิปปิ้งไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะชิปปิ้งนำเข้ารถหรู พร้อมกับบอกว่าชิปปิ้งจะมีกำไร จากการจัดการนำเข้ารถมาอยู่ที่คันละประมาณ 50,000 บาท
นี่อาจเป็นเหตุผลที่ทำให้ใครต่อใครอยากเข้ามาเป็นชิปปิ้งนำเข้ารถหรูกัน
กำไรงามจูงใจหันนำเข้ารถหรู
เจ้าของบริษัทนำเข้ารถหรูส่วนใหญ่ จะมีกำไรต่อคันสูงพอสมควร จะหลักแสนหลักล้านบาท ก็อยู่ที่ราคารถแต่ละคัน
แต่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ เขาไม่ทำ ทำแค่รอรับรถไปขายให้ลูกค้า ที่เหลือชิปปิ้งดำเนินการทั้งหมด ไม่ว่าจะจัดการนำรถเข้ามา หรือนำรถออกจากคลัง
ผู้นำเข้ารถจะมีกำไรต่อคันแค่ไหนคิดดูเอาเอง ง่ายๆ ถือเงินไป 2 ล้านบาท ได้รถยนต์ปอร์เช่ แล้ว 2 คัน ถือเงิน 2-3 ล้านได้รถยนต์ปอร์เช่ มา 2-3 คัน แต่ผู้นำเข้าเอาไปขายลูกค้าคันละ 7-8 ล้านบาท
คิดดูเอาเงินกำไรต่อคันเมื่อหักค่าใช้จ่าย ภาษีแล้วจะเหลือเท่าไร
ทำชิปปิ้งต้องจดทะเบียนบริษัทแฝง
ชิปปิ้งขาใหญ่รายนี้เล่าด้วยว่า วันนี้บ้านเรามีชิปปิ้งอยู่ราวๆ 10-20 ราย ในรูปของบริษัท ที่น่าสนใจคือ เจ้าของชิปปิ้งเอง ไม่ได้มีบริษัทเดียว แต่ต้องจดทะเบียนแฝงไว้นับ 10 บริษัท
เหตุผลสำคัญหากมีปัญหาเรื่องสรรพสามิต ต้องเปลี่ยนหัวบริษัทที่จะนำเข้ารถให้ลูกค้าทันที รถถึงจะออกได้
แต่การจัดตั้งบริษัทใหม่ตอนนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายนัก การจดทะเบียนบริษัทใหม่ถ้าไม่มีโชว์รูมกรมพัฒนาธุรกิจการค้าก็จะไม่รับจดสักเท่าไร
ไร้เส้นสายอย่าคิดว่าทำง่าย
ถามว่าวันหนึ่งออกรถได้กี่คัน ชิปปิ้งรายนี้บอกเลยว่า เมื่อก่อนตอนยังไม่มีปัญหาสามารถออกรถได้วันละ 20-30 คัน แต่เดี๋ยวนี้มีปัญหาเยอะยุ่งยาก ต้องรอหนังสืออนุญาตจากสมอ. ต้องใช้เวลาร่วม 10 วัน กว่าหนังสือจะออกได้
ถ้าไม่มีเส้นสายจะมีค่าจ่ายในส่วนของสมอ.ใบอนุญาตละ 3,000 บาท ถามว่าตรงนี้มีใต้โต๊ะไหม ไม่มีนะ แต่เขามักขอแบบเงินร่วมทำบุญบ้างอะไรบ้าง
4 ชิปปิ้งรายใหญ่ผู้กว้างขวาง
มาถึงตรงนี้อดไม่ได้ที่จะต้องถามว่า ชิปปิ้งขาใหญ่ หรือชิปปิ้งผู้กว้างขวางบ้านเรามีใครบ้าง คำตอบที่ได้ ก็มีเฮีย ส. เป็นเจ้าใหญ่ เจ้ ก. เจ้ ด. เฮีย อ. คนเหล่านี้หน้าด่านรู้จักหมด
ขั้นตอนการซื้อรถหรูสำหรับลูกค้า
1.จองรถกับโชว์รูม
2.กำหนดยี่ห้อรถที่ต้องการ
3.วางเงินมัดจำแล้วแต่ข้อตกลงกับบริษัทนำเข้า
4.โชว์รูมจะแจ้งว่ารถจะได้ช่วงไหน เดือนไหน เพราะแต่ละช่วงราคาจะไม่เท่ากัน
5.หากรถใหม่ที่โชวรูมยังไม่ได้สั่ง ใช้เวลาประมาณ 2 เดือน กว่าจะได้รถ
6.รับรถแล้วจะจ่ายสดหรือผ่านไฟแนนซ์ แล้วแต่ลูกค้า รับรถเอาใบแบบ 32 ที่ชิปปิ้งให้ ไปโอนกรรมสิทธิ์ไปจดทะเบียนกับกรมขนส่งทางโชว์รูมก็จะทำให้
ฉะนั้นหากใครคิดจะทำธุรกิจชิปปิ้งเวลานี้บอกได้เลย “ไม่ง่าย” เช่นเดียวกับพวกเศรษฐีทั้งหลายที่อยากมีรถหรูไว้ครอบครอง แม้มีเงินแต่ก็ไม่ง่ายนัก
เปิดเบื้องหลังสั่ง ‘ยุติ’ สอบนำเข้ารถหรู