COVID-19

‘นายกฯ’ ยอมรับบกพร่อง ‘ไม่ใส่หน้ากากอนามัย’ เรียกคนมาปรับตัวเองแล้ว

“นายกฯ” ยอมรับบกพร่อง “ไม่ใส่หน้ากากอนามัย” ขณะประชุม ปรึกษาฝ่ายกฎหมาย เรียกคนมาปรับตัวเองแล้ว

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยระหว่างการแถลงข่าวผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ (27 เม.ย.) ถึงกรณีที่โดนกรุงเทพมหานคร (กทม.) สั่งเปรียบเทียบปรับ 6,000 บาท เนื่องจากไม่สวมหน้ากากอนามัยขณะเข้าร่วมประชุมกับหน่วยงานต่าง ๆ ว่า

นายก ไม่สวมหน้ากากอนามัย 2

กรณีนี้เกิดจากตนเห็นข่าวในโทรทัศน์และเฟซบุ๊กแล้วรู้สึกไม่สบายใจ จึงปรึกษาฝ่ายกฎหมายให้เขามาปรับตนก็ได้ ปรับมาสิ เขาก็จัดเจ้าหน้าที่มาปรับตน

ผมเห็นข่าวในโทรทัศน์ ในเฟซบุ๊ก ผมก็ไม่สบายใจ ผมก็ปรึกษาทางกฎหมายให้เขาปรับผมก็ได้ ปรับมาสิ เขาก็จัดเจ้าหน้าที่มาปรับผม ก็แค่นั้น ผมก็ยอมรับว่า ผมบกพร่อง มันก็จบไปแล้ว

สิ่งสำคัญที่สุดคือ ต้องเข้าใจว่ามันมีกฎหมายอยู่หลายตัว ของตำรวจ ของพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ของผู้ว่าราชการจังหวัดที่เกี่ยวข้องตรงนี้ในมาตรการต่าง ๆ เพราะฉะนั้นวันนี้ก็ขอให้ยืนยันว่าหลักการมันคืออะไร ทำยังไงถึงไม่ถูกปรับเมื่อออกนอกเคหะสถาน

ที่สำคัญคือการสวม หน้ากากอนามัย ในที่สาธารณะแม้จะอยู่คนเดียวก็ตาม ในวัดถ้าอยู่มากกว่า 1 คนก็ต้องสวมหน้ากากฯ จัดรายการในสตูดิโอสวมหน้ากากฯ ทุกคน เด็กเล็กอายุต่ำกว่า 2 ปีอนุโลมไม่ต้องสวมหน้ากากฯ

เหล่านี้คือพื้นฐาน แต่ต้องไปทำความเข้าใจกับกฎหมายที่มีอยู่ในปัจจุบันด้วยว่า ต้องใส่หน้ากากฯ กันยังไงมีหลายคนถามว่าขับรถต้องใส่หน้ากากฯ ด้วยหรือเปล่า ถ้านั่งกันหลายคนก็ต้องใส่ ตนก็ใส่นั่งในรถตลอดทาง เพราะเราก็ไม่ต้องการแพร่เชื้อให้กับคนอื่น คนในครอบครัวเหมือน ต้องระวังทั้งหมด

รายงานข่าวเปิดเผยว่า กรณีดังกล่าวเกิดจากการเผยแพร่ภาพ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ไม่ใส่หน้ากากอนามัย ระหว่างการประชุมที่ปรึกษาเรื่องการจัดหาและการกระจายวัคซีน เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2564 เวลาประมาณ 11.00 น. ณ ห้องประชุมสีเขียว ทำเนียบรัฐบาล ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์เป็นวงกว้างว่า นายกรัฐมนตรีทำผิดประกาศกรุงเทพมหานคร (กทม.)

นายกฯ หน้ากากอนามัย

กทม. ประกาศไม่สวม “หน้ากากอนามัย” เจอปรับ 2 หมื่น    

ประกาศ กทม. เรื่องให้ประชาชนในพื้นที่กรุงเทพฯ สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าทุกครั้งตลอดเวลาที่ออกนอกเคหสถาน หรือสถานที่พำนัก มีเนื้อหาดังนี้

ตามที่ได้มีประกาศ กทม. เรื่อง สั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว (ฉบับที่ 25) ลงวันที่ 25 เมษายน 2564 นั้น

เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมและผู้ติดเชื้อรายใหม่ได้เพิ่มจำนวนอย่างต่อเนื่อง สมควรกำหนดมาตรการควบคุมที่จำเป็นอย่างเร่งด่วนสำหรับสถานที่ กิจการ หรือกิจกรรม เพื่อให้สามารถเปิดดำเนินการได้ ภายใต้เงื่อนไข เงื่อนเวลา การจัดระบบและระเบียบ รวมทั้งมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนด อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 28 (1) (7) และมาตรา 34 (6) แห่ง พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558

ประกอบกับข้อ 7 (1) และข้อ 11 แห่งข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 1) ลงวันที่ 25 มีนาคม 2563 ผู้ว่าราชการ กทม. โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อ กทม. ตามมติที่ประชุม ครั้งที่ 10/2564 เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2564 จึงมีคำสั่งดังต่อไปนี้

1.ให้ประชาชนในพื้นที่กรุงเทพฯ สวม หน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้าอย่างถูกต้องหรือถูกวิธีทุกครั้งตลอดเวลาที่ออกนอกเคหสถาน หรือสถานที่พำนัก

2.ผู้ฝาฝืนไม่ปฏิบัติตามข้อ 1 เป็นความผิดตามมาตรา 51 แห่ง พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท

นายกฯ หน้ากากอนามัย

อนึ่ง เนื่องจากเป็นกรณีที่มีความจำเป็นรีบด่วน หากปล่อยให้เนิ่นช้าไปจะก่อให้เกิดผลเสียหายอย่างร้ายแรงแก่สาธารณชน หรือกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ จึงไม่อาจให้คู่กรณีใช้สิทธิโต้แย้ง ตามมาตรา 30 วรรคสอง (1) แห่ง พ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 26 เมษายน 2564 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น

ประกาศ ณ วันที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2564

พลตำรวจเอกอัศวิน ขวัญเมือง

ผู้ว่าราชการ กทม.

เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ

ผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน กทม.

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo