COVID-19

ศบค. คุย ‘ล็อกดาวน์’ 29 เม.ย.นี้ รับได้ ‘เสียงวิจารณ์’ เชื่อทุกคนอยากให้ระบบดีขึ้น

“หมอเบิร์ท” แจ้งข่าว 29 เม.ย.นี้ ศบค.ทบทวน “ล็อกดาวน์” หรือไม่ จับตา พิจารณายกระดับมาตรการคุมเข้มในบ้างพื้นที่ หลังยอดผู้ติดเชื้อโควิดยังพุ่งไม่หยุด ระบุ สามารถวิจารณ์รัฐบาล และกระทรวงสาธารณสุขได้ เชื่อ ทะเลาะกันบ้างในวันนี้ เพราะมีความมุ่งมั่นเดียวกัน ที่จะทำให้ระบบดีขึ้น

วันนี้ (26 พ.ย.)  พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ประจำวัน กล่าวถึงเรื่องของการล็อกดาวน์พื้นที่ในบางจังหวัดว่า ในวันพฤหัสบดีนี้ (29 เม.ย.) จะมีการทบทวนมาตรการ ในเรื่องของพื้นที่ โดยจะพิจารณาว่า จะมีการเพิ่มมาตรการอย่างไร จะล็อกดาวน์หรือไม่

birt

วันนี้ ทางกรมควบคุมโรคกระทรวงสาธารณสุข ได้หารือกับ ศบค. และในช่วง 1-2 วันนี้ คงจะได้เห็นมาตรการการปรับความเข้มข้นมากขึ้นในบางพื้นที่ แต่ละกิจการ กิจกรรม แต่ละจุด จึงขอให้ทุกคนได้ติดตาม อย่างใกล้ชิดด้วย

สำหรับเรื่องมาตรการกักตัวอยู่ที่บ้าน ของผู้ป่วยที่มีอาการไม่รุนแรงนั้น พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ไม่มีใครสบายใจกับเรื่องที่ ประชาชนต้องรอเตียง ในหลายหลายครั้ง หลายคน ยอมรับว่า เกิดขึ้นกับตัวเอง กับคนรอบข้าง  จึงพยายามช่วยกันหาเตียง

แต่ในแง่ของการจัดการเตียงนั้น การจะรับผู้ป่วยใหม่ ก็ไม่สามารถทำได้ทันที แต่จะต้องมีการเตรียมพื้นที่ เตรียมเตียง เพื่อที่จะรับผู้ป่วยใหม่ ดังนั้นจึงเกิดการรอเตียงขึ้นมา จนทำให้เกิดคำถามขึ้นว่า การอยู่บ้านรอเตียง โดยไม่ต้องเข้าสู่ระบบการรักษาได้หรือไม่

ทาง ศบค. มีการทบทวนอยู่ทุกวัน แต่มีการรายงานบางเคสเกิดความไม่สบายใจ เพราะเริ่มต้นวันที่หนึ่งอาการยังปกติดี เข้าสู่ระบบแล้ว แต่ได้รับการยืนยันจากโรงพยาบาลว่า ยังจำเป็นต้องรอเตียง จากนั้น จะเห็นอาการทรุดลงอย่างรวดเร็ว หรือ การที่สภาพบ้านไม่เอื้ออำนวย

“เราเน้นย้ำว่า การแยกกักอยู่ที่บ้านนั้น จะต้องมีการแยกพื้นที่กับบุคคลในครอบครัว ไม่รับประทานอาหารร่วมกัน พยายามไม่ใช้ห้องน้ำเดียวกัน ไม่มีการคลุกคลีใกล้ชิด ก็พบว่าทำได้ยาก ทำให้เราได้เห็นข่าวในตลอดว่า ในกรณีผู้ป่วยหนึ่งราย เกิดการติดเชื้อไปยังบุคคลในครอบครัว โดยเฉพาะผู้สูงอายุ เด็กเล็กติดเชื้อ จึงเป็นที่มาที่ทำให้ยังไม่สามารถระบุว่า ให้ประชาชนกักตัว หรือแยกกักรอเตียงอยู่ที่บ้าน ยังถือว่ามาตรฐานยังเป็นอันตรายอยู่”

ส่วนเรื่องที่ว่า จะมีการระงับการเดินทางเข้าประเทศของคนต่างชาติ เพื่อนำทรัพยากรมาดูแลประชาชนในประเทศก่อนหรือไม่นั้น พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ที่ประชุม ศบค.มีการทบทวนเรื่องนี้ และขอให้ติดตามเรื่อ งจากการประกาศของกระทรวงการต่างประเทศ

แต่ในส่วนของการดูแลคนไทยให้ได้กลับบ้าน ไม่ต้องการเปลี่ยนแปลง เพราะเป็นสิทธิ ที่คนไทยจะได้กลับบ้าน เขาจำเป็นต้องได้รับการดูแล ไม่ให้แพร่เชื้อออกจากสถานกักตัวของรัฐ ซึ่งช่วงนี้ ยอดการใช้สถานกักตัวของรัฐมีปริมาณน้อยลง จึงได้มีการปรับเปลี่ยนไปในรูปแบบฮอสพิเทล และโรงพยาบาลสนามบ้างแล้ว

177814512 312071257077872 4677909180900550008 n 1

อย่างไรก็ตาม ในระยะนี้ขอให้ติดตามรายงานของกระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงการต่างประเทศอย่างใกล้ชิด ส่วนเรื่องระยะเวลาการกักตัวของผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ หลังพบว่า บางรายพบเชื้ออยู่ได้ถึง 21 วันนั้น ทางกรมควบคุมโรคได้พิจารณาเรื่องนี้อย่างละเอียดรอบคอบ และมีการติดตามรายงานอย่างใกล้ชิด

จึงอยากเน้นย้ำผู้ที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลสนาม หรือโรงพยาบาลรัฐ โรงพยาบาลเอกชน ในช่วงนี้ด้วยว่า หลังจากที่ผู้รับการรักษากลับบ้านไปแล้ว ยังจะต้องแยกกัก ไม่ไปสัมผัสผู้อื่น หรือแม้แต่คนในครอบครัวอีกเป็นระยะเวลา 14 วัน

ทั้งนี้ ขอขอบคุณทุกฝ่าย โดยเฉพาะสื่อมวลชน ที่สามารถเป็นกระบอกเสียงให้กับประชาชน สามารถวิพากษ์วิจารณ์ การทำงานของภาครัฐ ภาคสาธารณสุขได้ แต่ขอให้ชี้แนะ รวมไปถึง การให้กำลังใจบุคลากรในการทำงานด้วย

อย่างไรก็ตาม ประชาชนอาจเห็นความขัดแย้งที่เกิดขึ้น อาจมีความไม่พอใจ มีการตำหนิติเตียน แต่ถ้าดูที่มาที่ไป ก็เพราะเรามีความเป็นห่วงประเทศไทย มีความรักใน ครอบครัวอาม่า ครอบครัวคุณอัพ ซึ่งก็เหมือนกับครอบครัวเรา

เพราะฉะนั้นการที่เราอาจจะส่งเสียงทะเลาะกันบ้างในวันนี้ เพราะเรามีความมุ่งมั่นเดียวกัน ต้องการทำให้ระบบดีขึ้น ขอให้ทุกคนหันหน้าเข้าหากันจับมือกันและร่วมมือกัน ถกเถียงกันได้บ้างแต่ถึงอย่างไรเราก็ร่วมมือกัน

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo