สเปนจับกุมชายวัย 40 ปี ต้องสงสัยเป็น “ซูเปอร์สเปรดเดอร์” หรือผู้ที่แพร่กระจายเชื้อได้มากเป็นพิเศษ โดนกล่าวหาว่า ทำให้คน 22 คน รวมถึงเด็กทารก 3 คน ติดเชื้อไวรัสโควิด
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า ชายที่โดนจับกุมรายนี้ ยังคงไปทำงาน และไปออกกำลังกายที่ฟิตเนส แม้ว่าเขาจะมีอาการไอ และไข้ขึ้นอุณหภูมิสูงกว่า 40 องศาเซลเซียส
รายงานบอกด้วยว่า ในขณะที่เขาไปทำงาน ซึ่งอยู่ที่เมืองมานากอร์ บนเกาะมาจอร์กา เขาได้เดินไปทั่วที่ทำงาน บอกกับเพื่อนร่วมงานว่า เขาจะเอาเชื้อโควิดไปติดพวกเขา
ในบรรดาผู้ติดเชื้อ 22 คน ที่เชื่อมโยงกลับมาหาเขาได้นั้น รวมถึง ญาติจำนวน 14 คน เด็กวัย 3 ขวบ พนักงาน 5 คน และเพื่อนที่เข้าฟิตเนส 3 คน
ตำรวจสเปน ระบุว่า ชายคนดังกล่าว แสดงอาการป่วยมาหลายวันแล้ว แต่เมื่อมาทำงานแล้ว เขาไม่ยอมกลับบ้าน ทั้งในขณะที่รอผลตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธีพีซีอาร์ ยังคงเดินทางไปทำงาน และไปฟิตเนสอยู่
รายละเอียดในการสอบสวน ที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่ปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา บอกด้วยว่า เมื่อเพื่อนร่วมงานเห็นอาการป่วยของเขา ก็พยายามไล่ให้ชายคนนี้ กลับไปทำงานที่บ้าน แต่ชายต้องสงสัยปฏิเสธ พร้อมดึงหน้ากากอนามัยลง ไอใส่หน้าเพื่อนร่วมงาน และกล่าวว่า จะแพร่เชื้อโควิดให้ทุกคน
เมื่อผลการตรวจออกมาพบว่า เขาติดเชื้อไวรัสโควิด ได้มีการแจ้งเตือนให้เพื่อนร่วมงานของเขารับทราบแล้ว มีเพื่อนร่วมงาน 5 คนติดโควิด แต่อาการไม่หนัก และในจำนวนผู้ที่ติดเชื้อนั้น ไม่มีผู้ใดที่มีอาการหนักแต่อย่างใด
ทั้งนี้ สเปนเป็นหนึ่งในประเทศที่ประสบวิกฤติโควิด-19 หนักที่สุดในโลก มีผู้ป่วยสะสมกว่า 3.47 ล้านคน และเสียชีวิตแล้ว 77,591 ราย แม้อัตราการติดเชื้อรายวัน จะลดลงจากหลายหมื่นคน ลงมาอยู่ที่เฉลี่ยวันละ 11,000 คน แต่ยังถือเป็นตัวเลขที่สูงมาก และส่งผลให้ทางการยังบังคับใช้มาตรการเคอร์ฟิว รวมถึงห้ามพบปะระหว่างครอบครัวเพื่อป้องกันการกระจายเชื้อ
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘มุมไบ’ เร่งผุดโรงงาน 16 แห่ง แก้วิกฤติโควิด-19 ขาดแคลน ‘ออกซิเจน’
- เปิดตัวเลขล่าสุด! ไทยฉีด ‘วัคซีนโควิด’ แล้ว 1.12 ล้านโดส บุคลากรแพทย์-อสม.สูงสุด 49.5%
- ‘กัมพูชา’ ปลดทหารยศใหญ่ สังเวยใช้อำนาจ ‘แหกกฎโควิด’