อินโดนีเซียเร่งหาทางกู้ซากเรือดำน้ำ หลังจากค้นพบเศษซาก ที่บ่งชี้ว่า อาจจะแตกออกมาจากตัวเรือ ในขณะที่ เรือดำน้ำที่สูญหายไปลำดังกล่าว จมลง
ในวันนี้ (25 เม.ย.) อินโดนีเซีย ได้ระดมกำลังเรือรบ เครื่องบิ และนายทหารหลายร้อยคน ดำเนินการค้นหาเรือดำน้ำ KRI Nanggala 402 ในปฏิบัติการกู้ซากเรือ หลังจากเมื่อวานนี้ (24 เม.ย.) กองทัพเรือ แถลงว่า เรือดำน้ำลำนี้ ที่สูญหายไประหว่างการฝึกซ้อม น่าจะจมลงแล้ว และหมดหวังที่จะกู้ชีพลูกเรือทั้ง 53 คนได้
ปฏิบัติการค้นหาในวันนี้ จะมุ่งเน้นที่การชี้จุด ที่คาดว่าจะเป็นจุดที่เรือดำน้ำจมลงไป ซึ่งเจ้าหน้าที่เตือนด้วยว่า การกู้ซากเรือครั้งนี้ เต็มไปด้วยความเสี่ยง และยากลำบาก เพราะต้องทำในระดับน้ำที่ลึกมาก
กองทัพเรือ ไม่ได้ให้รายละเอียดอย่างเป็นทางการ สำหรับสาเหตุที่คาดว่าทำให้เรือดำน้ำลำนี้จมลง กล่าวแต่เพียงว่า อาจจะเกิดปัญหาเครื่องยนต์ไม่ทำงาน และทำให้ลูกเรือ นำเรือขึ้นสู่ผิวน้ำไม่ได้
พลเรือเอกยูโด มาร์โกโน เสนาธิการกองทัพเรืออินโดนีเซีย ระบุก่อนหน้านี้ ทีมค้นหา พบกับเศษซาก ซึ่งเชื่อว่ามาจากเรือดำน้ำที่สูญหายไปในน่านน้ำนอกเกาะบาหลี โดยเศษชิ้นส่วนที่พบก็มีทั้งอุปกรณ์สวมตอร์ปิโด ขวดจาระบีที่ใช้สำหรับกล้องส่องดูเหนือผิวน้ำของเรือดำน้ำ และพรมสำหรับนั่งสวดมนต์
เมื่อรวมกับคราบน้ำมันที่พบ ใกล้กับจุดที่เรือดำน้ำลงไปครั้งสุดท้าย นอกชายฝั่งเกาะบาหลี ทำให้เกิดพยานหลักฐานที่ชัดเจนว่า เรือดำน้ำ KRI Nanggala-402 จมลงแล้ว หลังจากก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ประเมินว่า เรือดำน้ำลำนี้ อาจจะแค่สูญหายไป และมองว่า ออกซิเจนในเรือจะมีให้ใช้ได้จนถึงช่วงเช้าวันเสาร์ (24 เม.ย.)
พร้อมกันนี้ เขายังปฏิเสธถึงความเป็นได้ ที่เรือดำน้ำอาจเกิดระเบิดขึ้นมา และว่า เศษซากที่พบนั้น บ่งชี้ว่า ตัวเรือแตก จากการเจอแรงดันน้ำ ที่ความลึกมากกว่า 800 เมตร ซึ่งเป็นความลึกที่มากเกินกว่าที่ตัวเรือดำน้ำจะรับได้
“ถ้าหากเกิดการระเบิดขึ้น เรือดำน้ำก็จะกลายเป็นเศษซาก ทั้งตัวเรือจะต้องมีรอยแตกเกิดขึ้นเรื่อยๆ ในบางจุด ขณะที่เรือจมลงจากระดับ 300 เมตร ไปสู่ 400 เมตร และ 500 เมตร และถ้าหากเกิดการระเบิดขึ้นจริง โซนาร์ก็จะต้องจับเสียงระเบิดได้”
“วัตถุเหล่านี้จะไม่มีทางออกมาจากเรือดำน้ำได้หากไม่มีแรงกดดันจากภายนอก หรือเกิดความเสียหายกับเครื่องยิงตอร์ปิโด”
ทั้งนี้ อุปกรณ์สแกนตรวจพบเรือดำน้ำที่ระดับความลึก 850 เมตร ในขณะที่เรือดำน้ำ KRI Nanggala 402 ความยาว 59.5 เมตร ซึ่งมีอายุใช้งานกว่า 40 ปี และผ่านการซ่อมบำรุงครั้งใหญ่ในปี 2012 สามารถทนต่อแรงดันน้ำได้ที่ระดับไม่เกิน 500 เมตร
เรือดำน้ำ KRI Nanggala 402 พร้อมด้วยลูกเรือจำนวน 53 คนได้สูญหายไป หลังจากปฏิบัติภารกิจฝึกซ้อมยิงตอร์ปิโดในทะเลใกล้เกาะบาหลีเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (21 เม.ย.) โดยเรือดำน้ำดังกล่าวได้ขาดการติดต่อ หลังจากที่ได้รับอนุมัติให้ดำลงไปในทะเลน้ำลึก และคาดกันว่าเรือได้จมลง ขณะอยู่ที่ระดับความลึก 700 เมตรห่างจากตอนเหนือของเกาะบาหลี
เปิดไทม์ไลน์ เรือดำน้ำ KRI Nanggala 402 สูญหาย
- เวลา 3.00 -3.30 น. วันที่ 21 เม.ย.64 ตัวเรือดำน้ำยังคงมองเห็นจากเรือในระยะ 50 เมตร
- เวลา 3.30 น. วันที่ 21 เม.ย.64 เรือลำอื่น ๆ ของกองทัพเรือประจำที่ เพื่อเตรียมยิงตอร์ปิโด
- เวลา 03.46 น. วันที่ 21 เม.ย.64 เรือประจำการส่องกล้อง และสังเกตเห็นไฟ ระบุตำแหน่งของเรือดำน้ำ KRI Nanggala 402 ค่อย ๆ ดับ และหายไป
- เวลา 03.46 -4.46 น.วันที่ 21 เม.ย.64 เรือดำน้ำนังกาลา-402 ไม่ตอบรับการติดต่อ ตำแหน่งเรือสูญหายไปจากเรดาร์ ก่อนที่การติดต่อสื่อสารจะตัดขาดไป
- เวลา 4.17 น. วันที่ 21 เม.ย.64 กองทัพอินโดนีเซีย ส่งเฮลิคอปเตอร์ออกค้นหา แต่ไม่พบ
- เวลา 5.15 น. วันที่ 21 เม.ย.64 เรือดำน้ำ KRI Nanggala 402 ถึงกำหนดต้องโผล่ขึ้นมาจากน้ำ แต่กลับไม่มีเรือโผล่ขึ้นมา กองทัพเรือเริ่มดำเนินมาตรการตามขั้นตอนในกรณีเจอสถานการณ์เรือดำน้ำขาดการติดต่อ หรือประสบปัญหา
- เวลา 6.46 น. วันที่ 21 เม.ย.64 กองทัพเรือส่งสัญญาณเริ่มต้นการค้นหาเรือดำน้ำ และประกาศเลื่อนการฝึกซ้อมยิงตอร์ปิโด
- วันที่ 22 เม.ย.64 ทางการการอินโดนีเซียระดมเรือ และเฮลิคอปเตอร์ จากกองทัพเรือ ออกค้นหาเรือดำน้ำ ในบริเวณตำแหน่งสุดท้ายที่พบ ในน่านน้ำทางเหนือนอกชายฝั่งเกาะบาหลี รวมทั้งมีการใช้เรือสำรวจใต้น้ำไรเจล เข้าค้นหา นานานาประเทศ ส่งเรือมาช่วยอินโดนีเซียค้นหา
- วันที่ 24 เม.ย. 64 กองทัพเรือแถลงข่าว ค้นพบเศษซาก ที่เชื่อว่ามาจากเรือดำน้ำ KRI Nanggala 402 พร้อมประกาศเปลี่ยนสถานะ เรือดำน้ำ KRI Nanggala 402 จากการสูญหาย เป็น จม และหมดความหวังช่วยเหลือลูกเรือ 53 นาย
- วันที่ 25 เม.ย. เริ่มต้นปฏิบัติการค้นหา และกู้ซากเรือดำน้ำ KRI Nanggala 402
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- อินโดฯ เจอตำแหน่ง ‘เรือดำน้ำ’ สูญหาย แต่ยังกู้ไม่ได้ ลุ้นชีวิต 53 ลูกเรือ
- ‘อินโดนีเซีย’ จ่อกู้ 2 กล่องดำ สอบเหตุเครื่องบินตก ดับยกลำ 62 ศพ
- ตายยกลำ ‘176 ศพ’ เครื่องบินยูเครนตกในอิหร่าน
