Economics

‘โฆษกรัฐบาล’ เคลียร์ชัด! ‘เราชนะ’ ไม่ได้เปิดลงทะเบียนเพิ่ม

“โฆษกรัฐบาล” เคลียร์ชัด “เราชนะ” ไม่เปิดรับลงทะเบียนเพิ่ม แต่ให้ขยายกลุ่มเป้าหมายเป็น 33.5 ล้านคน พร้อมใช้จ่ายเงินได้ถึง 30 มิถุนายน 2564

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงโครงการ “เราชนะ” ว่า รัฐบาลไม่ได้มีการเปิดรับสมัครลงทะเบียนเพิ่ม โดยที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นั้นได้เคยมีมติอนุมัติจำนวนกลุ่มเป้าหมายแล้วประมาณ 31.1 ล้านคน แต่เนื่องจากจำนวนผู้มีสิทธิที่เข้าร่วมโครงการจริง มีมากกว่าที่ประมาณการไว้ แยกเป็นดังนี้

  • ผู้ได้รับสิทธิตามโครงการแล้ว 33.1263 ล้านคน
  • ผู้ที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบคัดกรอง ประมาณ 86,000 คน
  • ผู้ต้องการความช่วยเหลือ ผู้ที่อยู่ระหว่างการทบทวนสิทธิประมาณ 284,000 คน

ดังนั้น ครม.จึงมีมติเห็นชอบให้ขยายกลุ่มเป้าหมายโครงการเราชนะ ให้เป็นประมาณ 33.5 ล้านคน เนื่องจากมีผู้รับสิทธิสูงกว่ากรอบเดิมที่วางไว้ กระทรวงการคลัง จึงได้ขออนุมัติจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติม มาใช้ให้สอดคล้องกับจำนวนคนที่เพิ่มขึ้น โดยกระทรวงการคลัง ไม่ได้มีการเปิดรับสมัครลงทะเบียนเพิ่มในโครงการเราชนะแต่อย่างใด

อนุชา
นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

นอกจากนี้ ครม.ยังเห็นชอบขยายระยะเวลาที่ประชาชนผู้ได้รับสิทธิสามารถใช้จ่ายได้ไม่เกินวันที่ 30 มิถุนายน 2564 จากเดิมที่ใช้จ่ายได้ไม่เกินวันที่ 31 พฤษภาคม 2564 และให้กระทรวงการคลังพิจารณาผลการทบทวนสิทธิให้เสร็จสิ้นภายใน 13 พฤษภาคม 2564 ด้วย

ทั้งนี้ ความคืบหน้าของโครงการเราชนะ ณ วันที่ 21 เมษายน 2564 มีรายละเอียดผู้ได้รับสิทธิ และการใช้จ่าย ดังนี้

1. ประชาชนกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ มีจำนวน 13.7 ล้านคน ได้มีการใช้จ่ายตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นมา จำนวน 73,254 ล้านบาท

2. ประชาชนกลุ่มที่อยู่ในระบบฐานข้อมูลของแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ในโครงการเราเที่ยวด้วยกันและคนละครึ่ง และกลุ่มประชาชนทั่วไปที่ลงทะเบียนทางเว็บไซต์ www.เราชนะ.com ที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติเบื้องต้นและยืนยันการใช้สิทธิ์ร่วมโครงการแล้ว จำนวน 16.8 ล้านคน และมีการใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์สะสมตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นมา จำนวน 113,233 ล้านบาท

3. ประชาชนกลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติแล้ว จำนวน 2.3 ล้านคน มียอดใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์สะสมตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคม 2564 เป็นต้นมา จำนวน 14,247 ล้านบาท

ทำให้มีผู้ได้รับสิทธิ์ในโครงการแล้ว รวมทั้งสิ้นจำนวน 32.8 ล้านคน คิดเป็นมูลค่าการใช้จ่ายหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจไทยแล้วกว่า 200,734 ล้านบาท

ซึ่งเป็นการใช้จ่ายผ่านผู้ประกอบการร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นที่มีแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ร้านค้าคนละครึ่งที่ตกลงยินยอมเข้าร่วมโครงการ รวมถึงผู้ประกอบการร้านค้าและผู้ให้บริการที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ จำนวนทั้งสิ้นมากกว่า 1.3 ล้านกิจการ โดยแยกเป็นการใช้จ่ายผ่านร้านธงฟ้า 68,671 ล้านบาท, ร้านอาหารและเครื่องดื่ม 38,538 ล้านบาท, ร้าน OTOP 8,343 ล้านบาท, ร้านค้าทั่วไปและอื่นๆ 81,199 ล้านบาท, ร้านค้าบริการ 3,849 ล้านบาท, และขนส่งสาธารณะ 134 ล้านบาท

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
Siree Osiri OHO BANGKOK