COVID-19

‘อนุทิน’ เจรจา ไฟเซอร์ วันนี้ ลั่น ‘ให้กราบก็จะทำ’ ถ้าส่งวัคซีนให้เร็วที่สุด

“อนุทิน” หารือไฟเซอร์วันนี้ หาข้อสรุปส่งวัคซีน ย้ำไทยต้องการเร็วที่สุด ไม่กังวลเรื่องราคา ถ้าส่งได้เร็ว ให้กราบก็จะทำ 

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ในรายการ “เจาะลึกทั่วไทย” ว่า วันนี้ (22 เม.ย. 64) จะมีการหารือกับบริษัท ไฟเซอร์ เพื่อหาข้อสรุปว่า จะส่งวัคซีนให้ไทยได้เมื่อใด โดยไม่ได้กังวลเรื่องราคา

cell virusโควิดใน ม ๒๑๐๔๒๒

ก่อนหน้านี้ ไฟเซอร์ระบุว่า จะส่งได้เร็วที่สุดปลายปี โดยตอนนั้นยังไม่ได้มีการระบาดเยอะขนาดนี้ และเราคิดว่าวัคซีนหลัก จะทยอยส่งออกมาในช่วงกลางปี พอปลายปีก็ไม่มีประโยชน์อะไร นอกจากสำรองไว้ ตอนปลายปี แต่จากสถานการณ์ขณะนี้ จึงต้องพยายามขอร่นระยะเวลาการส่งวัคซีนให้เร็วที่สุด

สำหรับประเด็นที่ต้องหารือกันเพิ่มเติมคือ เรื่องสรรพคุณ ที่ทำให้เราสามารถบริหารจัดการได้มากขึ้น โดยไฟเซอร์ระบุว่า ไม่ต้องเก็บในอุณหภูมิ-70 องศาฯ แล้วถ้าใช้ในระยะเวลาที่กำหนด ไม่ใช่เก็บเป็นปี ๆ โดยถ้าเก็บในระยะเวลาหนึ่ง เก็บได้ที่ -20 องศาฯ แต่ถ้านำมาใช้เลย เก็บได้ที่ +2 ถึง 8 องศาฯ จึงทำให้คุยกันรู้เรื่อง เพราะเราไม่ต้องไปเปลี่ยนระบบขนส่ง การจัดเก็บ

สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ วัคซีนไฟเซอร์ เป็นวัคซีนที่ฉีดได้ตั้งแต่อายุ 12 ขวบ ขึ้นมา โดยไม่มีข้อจำกัดอื่น เราจึงให้ความสนใจมากขึ้น เพราะปัจจุบัน วัคซีนในโลกฉีดได้ตั้งแต่อายุ 16-18 ปี เราจึงต้องนำมาพิจารณา เพราะต้องการฉีดให้ครอบคลุมกลุ่มอายุให้มากที่สุด

“ตอนนี้เหลือเรื่องเดียวคือส่งได้เมื่อไหร่ ราคาไม่ใช่เรื่องที่กังวล เพราะความปลอดภัยของประชาชนสำคัญกว่า วันนี้จะมีการพูดคุยกัน จะให้กราบเพื่อให้มีการส่งวัคซีนให้เร็วที่สุดก็จะทำ”นายอนุทินกล่าว

วัคซีนโควิดรพ.สนาม ๒๑๐๔๒๒

อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าการจัดหาวัคซีนเป็นไปตามไทม์ไลน์ไม่ได้ล่าช้า แต่ที่เร็วกว่านี้ไม่ได้เพราะติดขั้นตอนกระบวนการต่างๆ แต่ก็พยายามจัดหาวัคซีนให้ได้มากที่สุด

ทั้งนี้ วัคซีนหลักที่จะนำมาใช้เป็นของบริษัท แอสตร้าเซนเนก้า ที่มีกำหนดส่งมอบในต้นเดือน มิ.ย. 64 แต่ในช่วงระหว่างที่รอเกิดการระบาดขึ้นมา จึงได้จัดหาวัคซีนซิโนแวคเข้ามา 2-3 ล้านโดส เพื่อใช้สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ และกลุ่มเสี่ยงสูง ตั้งแต่ปลายเดือน ก.พ. 64 เป็นต้นมา

ส่วนกรณีบุคลากรทางการแพทย์ 6 รายในจังหวัดระยอง เกิดอาการไม่พึงประสงค์ หลังได้รับวัคซีนซิโนแวคนั้น คณะกรรมการของทางกรมควบคุมโรค คอยดูแลสถานการณ์อยู่  ประกอบกับทางกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้มีการตรวจมาตรฐานแล้ว ดังนั้น การฉีดวัคซีนจะยังคงดำเนินการต่อไป

สำหรับการควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศ น่าจะคลี่คลายลง หลังจากมีการออกมาตรการต่าง ๆ เช่น การทำงานที่บ้าน การปิดสถานบันเทิง การห้ามจำหน่ายสุรา การห้ามจัดกิจกรรมที่รวมคนจำนวนมาก เนื่องจากการระบาด เกิดจากการสัมผัส โดยการระบาดมีวงรอบ 14 วัน ซึ่งคาดว่าสถานการณ์จะดีขึ้น ภายใน 3-5 สัปดาห์

ส่วนกรณีที่นายกรัฐมนตรีระบุเรื่องไม่มีเจ้าหน้าที่รับสายด่วนนั้น ไม่ใช่การตำหนิ แต่เมื่อมีใครท้วงติง ก็จะเร่งแก้ไข โดยได้กำชับให้อธิบดีกรมการแพทย์ ดำเนินการเพิ่มคู่สายแล้ว อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชน ยึดถือมาตรการตามหลักชีวอนามัยอย่างเคร่งครัด และเชื่อมั่นในการทำงาน ของบุคลากรทางการแพทย์ทุกคน ที่มุ่งมั่นทำงานเต็มที่

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo