Economics

‘กรุงไทย’ คาดกรณีที่ดีที่สุด ‘เศรษฐกิจไทย’ อาจขยายตัว 3%

“ศูนย์วิจัยกรุงไทย” คาดใช้เวลาประมาณ 2 เดือนสถานการณ์โควิดระลอกใหม่จะดีขึ้น ประเมินกรณีที่ดีที่สุด จีดีพีของไทยในปีนี้อาจจะเติบโตได้ในระดับ 3%

นายพชรพจน์ นันทรามาศ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS ธนาคารกรุงไทย (KTB) กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของไว้รัสโควิด-19 ระลอกใหม่ต่อเนื่องจากต้นปี 2564 และคาดว่าจะต้องใช้เวลาราว 2 เดือน (พ.ค.- มิ.ย. 64) หลังจากนั้นสถานการณ์จะปรับตัวดีขึ้น โดยใช้ประสบการณ์จากช่วงสองครั้งแรกที่ผ่านมาใช้ระยะเวลาไม่ต่ำกว่า 2 เดือน จะทำให้ทุกอย่างปรับตัวดีขึ้น

อย่างไรก็ตาม มองว่า สถานการณ์ดังกล่าวจะกระทบกับการท่องเที่ยวส่งผลให้รายได้จากการท่องเที่ยวปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับต่ำกว่า 3 หมื่นล้านบาท ในช่วงเดือนมกราคม และกุมภาพันธ์ 2564 ส่งผลให้การจับจ่ายใช้สอยของประชาชนปรับตัวลดลงไปด้วย จึงมองว่าจะกระทบอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ปีนี้ลดลง 1.3% จากที่คาดการณ์ไว้ 2.5%

พชรพจน์21464

ขณะที่ภาพรวมเศรษฐกิจโลกที่ปรับตัวดีขึ้น จึงคาดว่า การส่งออกจะเข้ามาช่วยหนุนตัวเลขจีดีพีเพิ่มขึ้น 0.3% ทำให้ภาพรวมจีดีพีของไทยในปีนี้จะขยายตัวได้ 1.5% และหากรวมกับวงเงินที่ภาครัฐบาลจะสามารถนำมากระตุ้นเศรษฐกิจได้อีก 2 แสนล้านบาท โดยหากภาครัฐได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็นโครงการเราชนะ หรือโครงการคนละครึ่งเฟส 3 ตลอดจนโครงการเราเที่ยวด้วยกัน จะส่งผลทำให้จีดีพีเพิ่มขึ้น 1.5% ดังนั้นกรณีที่ดีที่สุด มองว่าจีดีพีของไทยในปีนี้อาจจะเติบโตได้ราว 3%

ส่วนภาพรวมผู้ประกอบการด้านอสังหาริมทรัพย์ คาดว่าในระยะเวลา 1 – 3 ปีข้างหน้า มีแนวโน้มเติบโตเพียง 3.6% เท่านั้น ต่ำกว่าช่วงก่อนหน้าที่เคยเติบโตได้ 7.2% เนื่องจากกำลังซื้อในประเทศโดนกดดันจากเศรษฐกิจที่คาดว่าจะฟื้นตัวได้ไม่เร็วนัก และหนี้ครัวเรือนในระดับสูงที่ 89.3% ต่อจีดีพี ส่วนกำลังซื้อของชาวต่างชาติถูกจำกัดจากมาตรการเดินทางระหว่างประเทศ ขณะที่ธุรกิจที่เคยเป็นแหล่งรายได้เสริมให้กับผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ อาทิ อพาร์ทเม้น โรงแรม ก็มีแนวโน้มฟื้นตัวได้ช้าเช่นกัน เนื่องจากได้รับผลกระทบจากความเสี่ยงของโควิด-19 ซึ่งทำให้รายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติหายไป

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo