รัฐบาลอังกฤษประกาศห้ามผู้ที่เดินทางจาก “อินเดีย” เข้าประเทศ โดยมีผลตั้งแต่วันศุกร์นี้ อันเนื่องจากการแพร่ระบาดของ “ไวรัสโควิดกลายพันธุ์”
นายแมทท์ แฮนคอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขอังกฤษ กล่าวว่า อินเดีย จะถูกขึ้นบัญชีในกลุ่มประเทศสีแดง ทำให้ผู้ที่เดินทางมาจากประเทศนี้ ไม่สามารถเข้าสู่ประเทศอังกฤษได้
อย่างไรก็ดี ผู้ที่ถือหนังสือเดินทางอังกฤษ หรือไอร์แลนด์ ยังคงสามารถเดินทางเข้าประเทศ แต่จะต้องถูกกักตัวเป็นเวลา 10 วัน โดย การตัดสินใจของรัฐบาลอังกฤษมีขึ้น หลังมีการตรวจพบผู้ที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์อินเดีย จำนวน 103 คนในอังกฤษ
ขณะเดียวกัน รัฐบาลอังกฤษ ยังได้ตัดสินใจ ยกเลิกการเดินทางเยือนอินเดีย ของนายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ที่มีกำหนดเดินทางเยือนอินเดีย ในวันที่ 26 เมษายนนี้ หลังจากที่มีการเลื่อนการเดินทางมาแล้วครั้งหนึ่ง ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา
“สืบเนื่องจากสถานการณ์ การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในปัจจุบัน ท่านนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน จะไม่สามารถเดินทางเยือนอินเดียในสัปดาห์หน้า” แถลงการณ์ ระบุ
ขณะนี้ อินเดียมีจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สะสมมากกว่า 15 ล้านราย โดยสูงเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากสหรัฐ โดยองค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์อินเดีย (B.1.617) อาจมีความสามารถในการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว
อินเดีย ปัดล็อกดาวน์เต็มรูปแบบ
ขณะที่ กระทรวงสาธารณสุข อินเดีย แถลงว่า สายพันธุ์ดังกล่าวอาจทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น และไวรัสอาจหลุดรอดระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย
ทั้งนี้ ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์อินเดีย มีการกลายพันธุ์ใน 2 ตำแหน่งคือ E484Q และ L452R โดยที่ผ่านมา มีการพบการกลายพันธุ์ดังกล่าวแยกกัน ในไวรัสหลายสายพันธุ์ แต่มีการพบการกลายพันธุ์ทั้ง 2 ตำแหน่ง ในไวรัสสายพันธุ์อินเดีย
โดยมีการพบการกลายพันธุ์ ที่หนามโปรตีนของไวรัส ทำให้ไวรัสสามารถยึดเกาะ กับเซลล์ในร่างกายมนุษย์ ได้ดีขึ้น และเป็นสาเหตุทำให้ ไวรัสแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็ว
แม้ตัวเลขผู้ป่วยโรคโควิด-19 ของอินเดียพุ่งสูงต่อเนื่องช่วงหลายวันที่ผ่านมา แต่รัฐบาลกลาง อินเดีย ปฏิเสธการบังคับใช้มาตรการ ล็อกดาวน์ เต็มรูปแบบ ขณะที่โรงเรียนบางแห่ง ยกเลิกการสอบ และบางแห่งตัดสินใจเลื่อนสอบออกไปแล้ว
ก่อนหน้านี้ นายนเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดีย กระตุ้นเตือนประชาชนเข้าร่วมเทศกาลกุมภเมลา (Kumbh Mela) ที่กำลังจัดขึ้นในเมืองหริทวารของรัฐอุตตราขัณฑ์ทางตอนเหนือในเชิงสัญลักษณ์ หลังจากยอดผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศพุ่งสูง
นายโมดีโพสต์ข้อความ บนสื่อสังคมออนไลน์ว่า เขารับทราบกรณี นิรันจัน อัคฮาดา (Niranjan Akhada) นักพรตในเทศกาลกุมภเมลา ที่มีผลตรวจโรคโควิด-19 เป็นบวก และได้สนทนาทางโทรศัพท์ กับอัฟเดชาแนนด์ กีรี (Avdheshanand Giri) นักพรตอีกคน เพื่อสอบถามข้อมูลสุขภาพ ของนักพรตทั้งหมด
“นับจากนี้ นายกรัฐมนต รีขอให้ฉลองเทศกาลกุมภเมลา ในเชิงสัญลักษณ์ เนื่องจากชาฮีสแนน (Shahi Snan) หรือการอาบน้ำหลวง ได้เริ่มขึ้นแล้ว 2 รอบ ทำให้เราต้องคุมเข้ม การควบคุมโรคระบาดใหญ่ยิ่งขึ้น” แถลงการณ์ระบุ
ด้านนักพรตอัฟเดชาแนนด์ กีรี เรียกร้องประชาชน ปฏิบัติตามแนวทางป้องกันโรคโควิด-19 ท่ามกลางสถานการณ์ที่เลวร้าย พร้อมขอให้ผู้มีจิตศรัทธาจำนวนมาก งดเว้นการอาบน้ำหลวงด้วย
อนึ่ง ผู้นับถือศาสนาฮินดูหลายพันคน มารวมตัวกัน ที่เมืองหริทวาร ของรัฐอุตตรขัณฑ์ เพื่ออาบน้ำในแม่น้ำคงคา อันเป็นส่วนหนึ่งของพิธีกรรม ประจำเทศกาลกุมภเมลา ซึ่งเริ่มขึ้นในวันที่ 1 เมษายน และเดิมมีกำหนดสิ้นสุดในวันที่ 30 เมษายน นี้ น
อกจากนั้น บรรดาผู้มีจิตศรัทธา ยังรวมตัวเดินขบวนริมฝั่งแม่น้ำ ขณะอินเดียเผชิญการระบาดของโรค โควิด-19 ระลอก 2
คำร้องขอของนายโมดี เกิดขึ้นหลังจาก ผู้มีจิตศรัทธาที่เข้าร่วมเทศกาลกุมภเมลา เกือบ 2,000 คน รวมถึงนักพรตหลายคน มีผลตรวจโรคโควิด-19 เป็นบวกในช่วงเวลาราวหนึ่งสัปดาห์ โดยผู้มีจิตศรัทธาส่วนใหญ่ที่เข้าร่วมการอาบน้ำหลวงถูกมองว่าขาดความเคารพแนวปฏิบัติป้องกันการระบาดของโรคโควิด-19
รายงานระบุว่ามีชาวฮินดูเกือบ 3 ล้านคน เข้าร่วมการอาบน้ำหลวง ในแม่น้ำคงคา และรวมตัวกันในเทศกาลดังกล่าว เมื่อวันที่ 12 เมษายน ที่ผ่านมา ทำให้บรรดาผู้เชี่ยวชาญ ต่างหวั่นเกรงว่า การรวมตัวกันจะทำให้ยอดผู้ป่วยโรคโควิด-19 เพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณ และเทศกาลนี้ อาจกลายเป็นกิจกรรม ส่งเสริมโรคระบาด
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- WHO ยังเชื่อมั่นวัคซีนโควิด ‘แอสตร้าเซเนก้า’ แม้เดนมาร์กประกาศหยุดฉีด
- ผอ.องค์การเภสัชเดนมาร์ก หมดสติล้มทั้งยืน ขณะแถลงเลิกใช้ ‘แอสตร้าเซนเนก้า’ (มีคลิป)
- ในร้ายยังมีดี! หมอยง ชี้ วัคซีนซิโนแวค-แอสตร้าเซนเนก้า กันโควิดสายพันธุ์อังกฤษได้