Economics

‘คลัง’ โว! มีงบเหลืออีก 3.8 แสนล้านสู้โควิด รับจีดีพีโต 3% ยาก

“กระทรวงการคลัง” โว!! ‘ยังมีงบประมาณสู้โควิดเหลืออีก 3.8 แสนล้านบาท จ่อประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2564 ใหม่ รับขยายตัวถึง 3% ค่อนข้างยาก

นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างการประเมินผลกระทบการแพร่ระบาดโควิด-19 รอบใหม่ ว่าจำเป็นต้องมีมาตรการออกมาดูแลประชาชนเพิ่มเติมในช่วงใด เนื่องจากขณะนี้ ยังมีมาตรการเราชนะ ซึ่งยังเหลือเม็ดเงินรอการเบิกจ่ายอีกประมาณ 1 หมื่นล้านบาท รวมถึงมาตรการ ม.33 เรารักกัน ของกระทรวงแรงงาน ซึ่งยังเบิกจ่ายเงินไม่หมด ยังเพียงพอที่จะดูแลเศรษฐกิจในช่วงเดือนพฤษภาคม 2564 แต่อย่างไรก็ดี หากสถานการณ์มีการเปลี่ยนแปลง กระทรวงการคลัง ก็พร้อมที่จะพิจารณามาตราการต่าง ๆ ออกมาใช้ในช่วงเวลาที่เหมาะสม

“จะมีการประเมินสถานการณ์ก่อนว่า มาตรการจะออกมาในช่วงใด เนื่องจากในปัจจุบันยังคงมีเม็ดเงินออกมาจากมาตรการเราชนะและ ม.เรารักกัน อยู่ ซึ่งจะเหลือเข้าสู่ระบบอยู่พอสมควร โดยล่าสุดโครงการเราชนะ วันที่ 16 เมษายน 2564 มียอดใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์สะสมรวม 13,744 ล้านบาท คิดเป็นมูลค่าการใช้จ่ายหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจไทยแล้วกว่า 198,672 ล้านบาท” นางสาวกุลยา กล่าว

กระทรวงการคลัง

ทั้งนี้ กระทรวงการคลังยังคงเหลืองบประมาณในการดูแลสถานการณ์โควิด-19 อีกประมาณ 3.8 แสนล้านบาท โดยมาจาก พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท เพื่อใช้ในสถานการณ์โควิด-19 ในส่วนของเงินกู้เพื่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจ 2.4 แสนล้านบาท งบกลางของปีงบประมาณ 2564 ภายใต้งบกลางเพื่อกรณีฉุกเฉินและจำเป็น 9.9 หมื่นล้านบาท ซึ่งมีการใช้ไปแล้วประมาณ 500 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายในการบรรเทาโควิด-19 อีก 4 หมื่นล้านบาท โดยใช้ไปแล้วประมาณ 3.2 พันล้านบาท

นางสาวกุลยา กล่าวอีกว่า ในวันที่ 28 เมษายนนี้ กระทรวงการคลัง จะประมาณการเศรษฐกิจไทยในปี 2564 รอบใหม่ จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัวได้ 2.8% และเริ่มมีสัญญาณเป็นบวก แต่จากสถานการณ์แพร่ระบาดโควิดรอบใหม่ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ กระทบกิจกรรมทางเศรษฐกิจหลายส่วน ทำให้กระทรวงการคลังต้องมาปรับสมมติฐานการขยายตัวใหม่ โดยจากสถานการณ์ยอมรับว่า เศรษฐกิจไทยในปีนี้ขยายตัวได้ถึง 3% ค่อนข้างยาก แต่ก็ขอพิจารณาอีกครั้งว่าจะมีปัจจัยบวกใดบ้างมาสนับสนุนการขยายตัวในช่วงที่เหลือของปี

ก่อนหน้านี้ กระทรวงการคลัง ยืนยันว่า ยังไม่จำเป็นที่จะต้องมีการกู้เงินเพิ่มขึ้น เนื่องจากวงเงินกู้ตาม พ.ร.ก. กู้เงินฉุกเฉินวงเงิน 1 ล้านล้านบาท ยังเพียงพอที่จะดูแลการขยายตัวของเศรษฐกิจในปีนี้ โดยปัจจุบันยังมีวงเงินตาม พ.ร.ก.ดังกล่าวเหลืออีก 2.4 แสนล้านบาท รวมทั้งยังมีงบประมาณรายจ่าย ปี 2564 อีก 3.285 ล้านล้านบาท

กระทรวงการคลัง รายงานความคืบหน้าของโครงการเราชนะ ณ วันที่ 19 เมษายน 2564 ดังนี้

  1. ประชาชนกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 13.7 ล้านคน ได้มีการใช้จ่ายตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นมา จำนวน 73,133 ล้านบาท
  2. ประชาชนกลุ่มที่อยู่ในระบบฐานข้อมูลของแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ในโครงการเราเที่ยวด้วยกันและคนละครึ่ง และกลุ่มประชาชนทั่วไปที่ลงทะเบียนทางเว็บไซต์ www.เราชนะ.com ที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติเบื้องต้นและยืนยันการใช้สิทธิ์ร่วมโครงการแล้ว จำนวน 16.8 ล้านคน และมีการใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์สะสมตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นมา จำนวน 112,772 ล้านบาท
  3. ประชาชนกลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ เป็นพิเศษที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติแล้ว จำนวน 2.3 ล้านคน มียอดใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์สะสมตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคม 2564 เป็นต้นมา จำนวน 14,039 ล้านบาท ทำให้มีผู้ได้รับสิทธิ์ในโครงการแล้ว รวมทั้งสิ้นจำนวน 32.8 ล้านคน คิดเป็นมูลค่าการใช้จ่ายหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจไทยแล้วกว่า 199,944 ล้านบาท

ซึ่งเป็นการใช้จ่ายผ่านผู้ประกอบการร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นที่มีแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ร้านค้าคนละครึ่งที่ตกลงยินยอมเข้าร่วมโครงการ รวมถึงผู้ประกอบการร้านค้าและผู้ให้บริการที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการจำนวนทั้งสิ้นมากกว่า 1.3 ล้านกิจการ

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo