Politics

‘ธนาธร’ แนะ 4 เปลี่ยนสู้วิกฤติโควิด ชงรัฐจ่ายเยียวยา 3 พันถ้วนหน้า!

“ธนาธร” เเนะ 4 เปลี่ยนสู้วิกฤตโควิดระลอกใหม่ ชงรัฐบาลหนุนผู้ประกอบการช่วยจ่ายเงินเดือน 50% แลกกับการไม่เลิกจ้าง พร้อมจ่ายเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบอย่างถ้วนหน้า 3,000 บาทต่อเดือน

แฟนเพจเฟซบุ๊กของ “คณะก้าวหน้า” โพสต์ข้อความว่า นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า “แนะ 4 เปลี่ยน สู้วิกฤตโควิด -19 ระลอกใหม่” ความว่า

ข้อ 1. เปลี่ยนการจัดหาวัคซีน วันนี้ นับเป็นเรื่องดีที่รัฐบาลเปลี่ยนวิธีการจัดหา ไม่กระจุกตัวอยู่แค่เพียงไม่กี่เจ้า การเจรจากับผู้ผลิตวัคซีนเจ้าอื่นๆเป็นเรื่องที่เห็นด้วย ขอเป็นกำลังใจให้ทีมเจรจา ถ้าทำได้เร็วกว่านี้จะเป็นประโยชน์กับคนไทย

ข้อ 2. เปลี่ยนการกระจายวัคซีน การฉีดวัคซีนวันนี้แสดงถึงความไร้ประสิทธิภาพของรัฐบาล ฉีดได้ต่ำกว่าที่ควรจะเป็น แผนการเตรียมความพร้อมไม่มี รัฐบาลต้องกลับมาตั้งสมติฐานใหม่ ถ้าบริหารจัดการดี ๆ บุคลากรต่าง ๆ ต้องทำได้ดีกว่านี้ การกระจายการฉีดวัคซีนต้องทำได้ดีกว่านี้ เชื่อว่า 10 ล้านเข็มต่อเดือนสามารถทำได้ เรียกร้องให้รัฐบาลระบุเป้าหมายให้ชัด การฉีดวัคซีนต่อวัน ต่อเดือน เป็นอย่างไร

172135408 347048213598114 5051058274861160149 n

ข้อ 3. เปลี่ยนมาตรการเยียวยา ณ ตอนนี้ เราเข้าสู่ภาวะกึ่งล็อกดาวน์ แต่ไม่มีมาตรการเศรษฐกิจรองรับซึ่งอันตรายมาก เราควบคุมการค้า แต่ไม่มีมาตรการออกมา ดังนั้น พ.ร.บ เงินกู้ 1 ล้านล้านบาท ตอนนี้ เงินที่เหลือ 2.5 แสนล้าน ต้องนำออกมาใช้อย่างรวดเร็วใน 2 เรื่อง คือป้องกันไม่ให้ลูกจ้างตกงานเพิ่ม รัฐบาลอาจช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อย ด้วยการช่วยจ่ายเงินเดือน 50% แลกกับการที่นายจ้างไม่เลิกจ้าง และเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบอย่างถ้วนหน้ารายละ 3,000 บาท ต่อเดือน ซึ่งโดยสภาวะการคลังยังทำได้

ข้อ 4. เปลี่ยนทัศนคติผู้บริหารวันนี้ คนไม่เชื่อมั่นว่า รัฐบาลจะพาประชาชนไปรอด เพราะยังเป็นระบบเป็นเจ้าขุนมูลนาย ผู้บริหารยังมองว่าประชาชนเป็นภาระ ทั้งที่เมื่อไปดูการแพร่ระบาด การติดเชื้อนั้นมาจากอภิสิทธิ์ชน และการเลือกปฏิบัติตามแบบของระบบเจ้าขุนมูลนายทั้งสิ้น ผู้บริหารต้องเปลี่ยนทัศนคติใหม่ว่า ตนต้องเป็นผู้รับผิดชอบ ประชาชนไม่ใช่ภาระ การบริหารจัดการต้องเท่าเทียมกัน ข้อมูลต้องเปิดเผย และมีความจริงจัง จริงใจในการดูแลประชาชน

ภาพจาก คณะก้าวหน้า – Progressive Movement

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
Siree Osiri OHO BANGKOK