“หมอธีระ” เผยยอดผู้ติดเชื้อทั่วโลกล่าสุดอยู่ที่ 140,493,989 คน เสียชีวิตทะลุ 3 ล้านคนแล้ว ย้ำ! ระบาดครั้งนี้หนักหน่วงกว่าที่เคยเจอมาทั้งหมด แนะอยู่บ้าน ออกจากบ้านเท่าที่จำเป็นจริง ๆ
รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thira Woratanarat รายงาน ยอดผู้ติดเชื้อวันนี้ โดยระบุว่า สถานการณ์ทั่วโลก 17 เมษายน 2564… ทะลุ 140 ล้านคน ยอดตายรวมเกิน 3 ล้านคนไปแล้ว อินเดียวันเดียวเกินสองแสนสามหมื่นคน ตุรกีเกินหกหมื่นสามพันคน เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 853,398 คน รวมแล้วตอนนี้ 140,493,989 คน ตายเพิ่มอีก 13,041 คน ยอดตายรวม 3,011,353 คน
- อเมริกา เมื่อวานติดเชื้อเพิ่ม 76,620 คน รวม 32,300,759 คน ตายเพิ่ม 833 คน ยอดเสียชีวิตรวม 579,891 คน อัตราตาย 1.8%
- อินเดีย ติดเพิ่มมากถึง 233,943 คน รวม 14,521,683 คน ตายเพิ่ม 1,338 คน ยอดเสียชีวิตรวม 175,673 คน อัตราตาย 1.2%
- บราซิล ติดเพิ่ม 74,362 คน รวม 13,832,455 คน ตายเพิ่มถึง 2,795 คน จำนวนเสียชีวิตต่อวันมากที่สุดในโลก ยอดเสียชีวิตรวม 368,749 คน อัตราตาย 2.7%
- ฝรั่งเศส ติดเพิ่ม 36,442 คน ยอดรวม 5,224,321 คน ตายเพิ่ม 313 คน ยอดเสียชีวิตรวม 100,404 คน อัตราตาย 1.9%
- รัสเซีย ติดเพิ่ม 8,995 คน รวม 4,684,148 คน ตายเพิ่ม 397 คน ยอดเสียชีวิตรวม 104,795 คน อัตราตาย 2.2%
- อันดับ 6-10 เป็น สหราชอาณาจักร ตุรกี อิตาลี สเปน และเยอรมัน ส่วนใหญ่ติดกันหลักพันถึงหลายหมื่นต่อวัน ตุรกีนั้นมีแนวโน้มการติดเชื้อต่อวันเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเกิน 5 เท่าของระลอกแรก และสูงกว่าระลอกสองเกือบ 2 เท่า
- แถบอเมริกาใต้ ยุโรป เอเชีย อย่างโคลอมเบีย เนเธอร์แลนด์ โปแลนด์ ยูเครน แคนาดา รวมถึงบังคลาเทศ อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น และมาเลเซีย ยังติดกันเพิ่มหลักพันถึงหลักหมื่น
- แถบสแกนดิเนเวีย บอลติก และยูเรเชีย ก็มีการติดเชื้อเพิ่มอย่างต่อเนื่อง ส่วนใหญ่หลักร้อยถึงพันกว่า
- แถบตะวันออกกลาง ประเทศส่วนใหญ่ยังติดเพิ่มหลักพันถึงหลักหมื่นอย่างต่อเนื่อง
- เกาหลีใต้ และกัมพูชา ติดเพิ่มหลักร้อย ส่วนจีน ฮ่องกง เวียดนาม ออสเตรเลีย และสิงคโปร์ ติดเพิ่มหลักสิบ
…ดูลักษณะการระบาดระลอกสี่ของญี่ปุ่น ขณะนี้ติดเชื้อรายวันเพิ่มกว่าสี่พันห้าร้อยคน แนวโน้มระลอกสี่มีความเร็วพอ ๆ กับระลอกสาม ซึ่งหากนับจากระดับสามพันนิด ๆ ต่อวัน ถ้าเป็นไปแบบเดียวกับระลอกสาม เค้าจะใช้เวลาราวหนึ่งสัปดาห์ขึ้นเป็นสองเท่า (doubling time) คือระดับหกพันกว่า ๆ ประมาณวันที่ 22 เมษายน หากไม่สามารถควบคุมได้ คงต้องเอาใจช่วยกัน
สำหรับไทยเรา…เรากำลังเผชิญการระบาดระลอกสามที่ชัดเจน หลังจากที่มีแนวโน้มการติดเชื้อต่อวันเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องกว่า 14 วันที่ผ่านมา ระบาดครั้งนี้หนักหน่วงกว่าที่เราเคยเจอมาทั้งหมด กระจายไปทุกจังหวัด
ปัจจัยที่ทำให้เป็นเช่นนี้ มีทั้งเรื่องตัวไวรัสเองที่แพร่ง่าย ร่วมกับการดำเนินชีวิตประจำวันของหลายต่อหลายคน ที่ทำให้เกิดความเสี่ยง ป้องกันไม่รัดกุมพอ ตลอดจนรูปแบบของกิจการ และกิจกรรมต่าง ๆ ที่ไม่ปลอดภัยเพียงพอ ที่จะป้องกันการแพร่เชื้อติดเชื้อได้
หากเป็นสายพันธุ์สหราชอาณาจักร B.1.17 ก็ทราบกันดีว่าจะมีความสามารถในการแพร่ไวขึ้นกว่าสายพันธุ์ดั้งเดิม 65-82% และทำให้มีความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตมากขึ้นราว 67%
วิเคราะห์ความเป็นไปได้ในการจัดการควบคุมโรค หากดูจากบทเรียนของต่างประเทศ มาตรการที่ประกาศมาเมื่อวานนี้คงจะพอมีโอกาสที่จะลดทอนการระบาดได้บ้างไม่มากก็น้อย แต่คงต้องใช้เวลา ซึ่งในภาพรวมของต่างประเทศ ส่วนใหญ่มักใช้เวลาพอ ๆ กับ หรือนานกว่าระลอกสอง
นอกจากนี้ การที่เราพยายามลดจำนวนคนในที่ทำงาน ลดการเดินทางไปทำงาน ด้วยมาตรการ work from home เต็มรูปแบบของภาครัฐ และปิดกิจการเสี่ยงสูง ก็คงจะดีมากหากภาคเอกชนร่วมด้วยช่วยกันทำอย่างเต็มที่ด้วย แต่ถ้าดูตามเนื้อผ้า ก็คงทำได้ในกิจการบางประเภท
โจทย์ที่ยากคือ เราตั้งต้นด้วยจำนวนการติดเชื้อที่กระจายไปทั่วไปในชุมชน ซึ่งยากที่จะคาดประมาณจำนวนที่มีอยู่จริงและมีโอกาสแพร่ไปได้เรื่อย ๆ ซึ่งน่าจะมีอีกจำนวนมากที่ยังไม่รู้ตัวว่าติดเชื้อ หรืออาจยังไม่ได้รับการตรวจ
ดังนั้น ในช่วงถัดจากนี้การระบาดนั้นอาจเกิดขึ้นในระหว่างการดำเนินชีวิตประจำวัน ทั้งในที่ทำงาน กิจการห้างร้านต่างๆ รวมถึงระดับครัวเรือนที่มีสมาชิกบางคนต้องออกไปทำงานนอกบ้านแล้วกลับมาอาศัยอยู่ด้วยกัน
นอกจากนี้ ที่ควรให้ความระมัดระวังคือ ร้านอาหารและเครื่องดื่ม ฟิตเนส/สถานที่ออกกำลังกาย ที่มีคนไปใช้บริการร่วมกัน โรงแรม/ที่พักต่าง ๆ
เน้นย้ำ…ขอให้เราร่วมด้วยช่วยกันป้องกันตัวเองและสมาชิกในครอบครัวอย่างเต็มที่
อยู่บ้าน…ออกจากบ้านเท่าที่จำเป็นจริง ๆ
ใส่หน้ากากเสมอ ปิดปากปิดจมูก
หากไปทำงาน ควรใส่หน้ากากในที่ทำงาน เลี่ยงการพบปะสนทนาแบบเจอหน้า อยู่ห่างคนอื่นมาก ๆ เลี่ยงการกินดื่มร่วมกันกับคนอื่น เลี่ยงการกินดื่มในร้านหรือโรงอาหาร ซื้อกลับมาแยกกินเองคนเดียวจะดีกว่า ล้างมือเสมอหลังจับต้องสิ่งของสาธารณะ
หากต้องตะลอนนอกบ้าน กลับมาบ้านแล้วอย่าเพิ่งไปกอดหอมหรือคลุกคลีกับคนในบ้าน แต่ควรไปอาบน้ำอาบท่าเสียก่อน
หากชีวิตประจำวันมีความเสี่ยง การรักษาระยะห่างจากคนในบ้านก็จะเป็นประโยชน์ ไม่แชร์ของกินของใช้ร่วมกัน
คอยสังเกตอาการตนเองและสมาชิกในครอบครัว หากไม่สบาย ควรหยุดงาน และปรึกษาบุคลากรทางการแพทย์ หรือไปตรวจรักษา
ด้วยรักและห่วงใย
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘หมอธีระ’ ย้ำ!! ศึกนี้หนักมาก ยอดติดโควิดทั่วโลกจ่อทะลุ 140 ล้านคน
- ‘หมอธีระ’ เตือนโควิดทั่วโลกระบาดหนัก! ย้ำป้องกันตัวอย่างเคร่งครัด
- ‘หมอธีระ’ ชี้ยอดติดโควิดทั่วโลกจ่อทะลุ 138 ล้านคน ย้ำยังรุนแรงต่อเนื่อง
