หากกล่าวถึงแวดวงรถอัตโนมัติที่ตอนนี้มีหลายบริษัทกำลังแข่งขันกันอย่างเต็มที่นั้น สิ่งที่เราพบอาจเป็นการพัฒนารถอัตโนมัติที่วิ่งได้บนสภาพแวดล้อมปกติทั่วไป แต่สำหรับประเทศเขตหนาวเช่น ฟินแลนด์ ที่ในบางเดือนอาจอุณหภูมิติดลบได้ถึง -50 องศาเซลเซียส การพัฒนารถอัตโนมัติให้ใช้งานได้จริง อาจเป็นสิ่งที่ท้าทายบรรดาผู้ผลิตได้มากกว่า และนั่นอาจเป็นเหตุผลให้แบรนด์สัญชาติญี่ปุ่นอย่าง Muji ไปปรากฏตัวที่ฟินแลนด์ในฐานะผู้ออกแบบ “กาชา” รถอัตโนมัติที่วิ่งได้ในทุกสภาวะ
สำหรับการพัฒนารถอัตโนมัติคันนี้ Muji เลือกที่จะจับมือกับบริษัทชื่อ เซนซิเบิลโฟร์ (Sensible 4) โดยแบ่งหน้าที่การพัฒนาเทคโนโลยี การใช้เอไอ การวิเคราะห์ข้อมูลให้ทางเซนซิเบิลโฟร์รับผิดชอบ ส่วน Muji ก็หันมาจับงานดีไซน์ เพื่อให้มันกลายเป็นรถที่นั่งสบายที่สุดแม้นอกตัวรถจะอุณหภูมิติดลบ
ส่วนชื่อ “กาชา” (Gacha) ที่ Muji ตั้งขึ้นนั้น อาจทำให้หลายคนนึกถึงไข่กาชาปองที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งในความเป็นจริง มันก็เป็นชื่อที่เข้ากับสภาพตัวรถอันโค้งมน และใช้สีขาวเรียบ ๆ ในการตกแต่งไม่น้อย รวมถึงให้ความรู้สึกเป็นมิตรกับผู้ใช้งานด้วย
สำหรับการตกแต่งภายในออกแบบให้ดูนุ่มสบาย น่าใช้งาน โดยหัวใจหลักของรถคันนี้คือต้องทำงานได้ในทุกสภาพอากาศ ไม่ว่าจะเป็นฤดูฝน หรือฤดูหนาวที่หิมะตกหนัก ซึ่ง Muji บอกว่ารถอัตโนมัติส่วนใหญ่มักติดเงื่อนไขนี้ และทำให้การผลิตรถอัตโนมัติเพื่อใช้งานในเมืองหนาวไม่เป็นที่พบเห็นได้บ่อยนัก
โดย Muji ได้กล่าวถึงการเข้าร่วมออกแบบรถอัตโนมัติในครั้งนี้ว่า เป้าหมายของ Muji ไม่เพียงแต่สร้างสมดุล และความสุขให้ชีวิต แต่ยังหมายถึงการเผชิญหน้ากับความท้าทายใหม่ ๆ ด้วย ซึ่งเทคโนโลยีขับเคลื่อนอัตโนมัตินั้นกำลังเป็นสิ่งที่เข้ามามีบทบาทกับประเทศที่มีอัตราการเกิดลดลง และมีผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น ส่วนการทดสอบในฟินแลนด์ถือเป็นประเทศที่เหมาะสม เนื่องจากกฎหมายของฟินแลนด์ไม่ระบุว่ารถที่วิ่งในที่สาธารณะจะต้องมีผู้ขับก็ได้
การเดินทางด้วยกาชานั้น ตัวรถสามารถวิ่งได้ด้วยความเร็ว 25 ไมล์ต่อชั่วโมง และสามารถรับผู้โดยสารได้สูงสุดครั้งละ 16 คน แบ่งเป็นที่นั่ง 10 คน และยืนได้อีก 6 คน ซึ่งคาดว่าจะเริ่มเห็นรถชัตเติลบัสดังกล่าวออกวิ่งให้ในช่วงเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้ในกรุงเฮลซิงกิ เมืองหลวงของฟินแลนด์ และจะเริ่มวิ่งทดสอบในอีกสามเมืองอย่าง Espoo, Vantaa และ Hameenlinna ภายในเดือนมิถุนายนปีหน้า โดยฟินแลนด์ตั้งเป้าว่าจะนำรถกาชาคันนี้ของ Muji ออกให้บริการอย่างเป็นทางการในปี 2563 (ค.ศ. 2020) นี้ด้วย
ปัจจุบัน นอกจากการออกแบบรถอัตโนมัติ Muji มีธุรกิจอีกหลากหลาย เช่น แคมป์ไซต์, ร้านอาหาร, โรงแรม, การออกแบบบ้าน, ธุรกิจออกแบบเฟอร์นิเจอร์และที่ปรึกษาในการตกแต่งบ้าน สำหรับประเทศไทย ร้านค้าปลีกของ Muji เปิดตัวครั้งแรกที่ห้างเซ็นทรัลชิดลมในปี 2549 ปัจจุบันมีสาขาในไทยทั้งสิ้น 16 สาขา
ขณะที่ร้านสาขาของ Muji ในสหภาพยุโรปมีแล้วกว่า 57 สาขา รวมถึงกำลังจะมีการเปิดสาขาที่ใหญ่ที่สุดของ Muji ในยุโรปขึ้นที่ฟินแลนด์ในเดือนพฤศจิกายนปีหน้าด้วย โดยจะตั้งอยู่ที่ห้างสรรพสินค้า Kamppi ทั้งหมดนี้หากนับรวมแล้ว ประเทศที่ Muji มีสาขามากที่สุดในโลกก็คือญี่ปุ่นที่ 419 สาขารองลงมาคือประเทศจีน 229 สาขา ไต้หวัน 45 สาขาและเกาหลีใต้ 26 สาขา (ตัวเลขเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2561)
ส่วนแอพพลิเคชัน Muji Passport นั้นปัจจุบันมีผู้ดาวน์โหลดไปแล้ว กว่า 15 ล้านครั้ง ซึ่งในจำนวนนี้ 10 ล้านดาวน์โหลดมาจากชาวญี่ปุ่น ส่วนอีก 5 ล้านที่เหลือมาจากจีน, ไต้หวัน, เกาหลีใต้ และฮ่องกง เป็นหลัก
ส่วนในระดับโลกนั้น Muji แตกกิ่งก้านไปทั่วโลกแล้วกว่า 900 สาขา และสร้างรายได้ให้กับบริษัท 2.7 พันล้านยูโร หรือประมาณ 101,430 ล้านบาท แต่ไม่เฉพาะรายได้ที่เติบโตขึ้น เพราะสิ่งที่ส่งผ่านไปกับสินค้าของ Muji ก็คือแนวคิดด้านการออกแบบที่เน้นคุณค่าในการใช้งานจริง และไม่สร้างขยะให้เป็นมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งเราก็หวังว่ารถ “กาชา” อาจเป็นอีกหนึ่งคุณค่าที่ Muji ต้องการส่งต่อด้วยเช่นกัน
Source
https://cardesignnews.com/articles/news/2018/11/muji-designs-an-autonomous-bus-for-winter
https://www.epressi.com/tiedotteet/teknologia/muji-and-sensible-4-created-gacha-the-first-autonomous-shuttle-bus-in-the-world-for-all-weather-conditions.html
