สธ. อัพเดทล่าสุด ติดโควิดโยงสถานบันเทิง พุ่งทะลุ 2,626 ราย พร้อมเปิดคลังยา เวชภัณฑ์รับมือการแพร่ระบาด ยันยังพอใช้รับมืออย่างน้อย 5 เดือน
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยถึงแนวโน้มผู้ติดเชื้อของประเทศไทยในรอบใหม่นี้ ซึ่งเริ่มนับตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2564 ว่า ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีการแพร่ระบาด กระจายตัวไปทั่วประเทศ รวมทั้งพบการติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อนขึ้นบ้างบางจังหวัด ส่วนใหญ่เป็นการ ติดโควิดโยงสถานบันเทิง ที่พบผู้ติดเชื้อจากสถานบันเทิงรวม 2,626 ราย
ทั้งนี้ การติดเชื้อโควิดเชื่อมโยงกับสถานบันเทิง พบมากที่สุด คือ ในกรุงเทพมหานคร โดยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยว 39% และพนักงานสถานบันเทิง 31% ส่วนที่จังหวัด ชลบุรี สมุทรปราการ ประจวบคีรีขันธ์ และ สระแก้ว มีผู้ติดเชื้อที่เป็นนักท่องเที่ยวสูงกว่า 50% ส่งผลให้เกิดการแพร่เชื้อในผู้สัมผัสตามมา
ดังนั้น กระทรวงสาธารณสุข จึงได้ออกมาตรการ เพื่อลดความเสี่ยงต่อการระบาดของโรคในวงกว้าง โดยเฉพาะช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยการให้แต่ละจังหวัดตรวจ คัดกรอง ค้นหา ผู้ติดเชื้อ เพื่อจำกัดวง และลดการแพร่ระบาด เฝ้าระวัง สอบสวน ควบคุมการระบาด โดยการ แยก / กัก / สังเกต ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงและเสี่ยงต่ำ
“ผู้ติดเชื้อ1 คน มีโอกาสทำให้เกิดผู้สัมผัสเสี่ยงสูงได้ประมาณ 5 คน มีอัตราการติดเชื้อที่ประมาณ 5-7% “นพ.โอภาส กล่าว
ส่วนมาตรการสำหรับผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ให้ทำการกักตัวเองเป็นเวลา 14 วันอย่างเคร่งครัด ตรวจหาเชื้อจำนวน 2 ครั้ง (ครั้งแรกเมื่อทราบว่าเป็นผู้สัมผัส เมื่อผลเป็นลบให้ตรวจครั้งที่ 2 ใน 7 วันต่อมา) สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา และสังเกตอาการของตนเอง หากพบอาการป่วย ให้ประสานเจ้าหน้าที่สาธารณสุขให้รับรักษาตามระบบ
ในส่วนของผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ ให้สังเกตอาการตนเอง หลีกเลี่ยงคนหมู่มาก สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา หากป่วยให้พบแพทย์ ห้ามไม่ให้เดินทางข้ามจังหวัด
นายแพทย์โอภาส กล่าวต่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ออกคำสั่งให้หน่วยงานราชการทุกแห่ง จัดรูปแบบการทำงานที่บ้าน “Work from Home” อย่างเต็มรูปแบบ ช่วงหลังเทศกาลสงกรานต์ และกระทรวงสาธารณสุข ขอความร่วมมือหน่วยงานภาคเอกชน ร่วมมือกับภาครัฐ จัดรูปแบบการทำงานดังกล่าว อย่างน้อย 2 สัปดาห์ โดยในเฉพาะในจังหวัดเสี่ยง เพื่อช่วยลดและควบคุมการแพร่เชื้อโควิด 19
ขณะที่กระทรวงสาธารณสุข ได้คาดการณ์ไว้ว่า หากดำเนินการมาตรการปิดสถานเสี่ยง ร่วมกับลดกิจกรรมรวมตัว มีมาตรการองค์กร ล็อกดาวน์เฉพาะจุด และประชาชนทุกคน ร่วมมือกันเข้มพฤติกรรมส่วนบุคคล จะทำให้มีผู้ติดเชื้อต่อวันต่ำกว่า 100 คน ในระยะ 1 เดือนข้างหน้า
นอกจากนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้ทำการสำรวจ ยาและเวชภัณฑ์คงคลัง ทั้งในส่วนกลางและภูมิภาค เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับรับมือ หากเกิดการแพร่ระบาดเป็นวงกว้าง มีรายละเอียด ดังนี้
- หน้ากาก N95 จำนวน 3,188,721 ชิ้น เพียงพอสำหรับ 1 ปี
- หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ จำนวน 121,360,699 ชิ้น เพียงพอสำหรับ 9 เดือน
- ชุดป้องกัน Cover All เพียงพอสำหรับ 5 เดือน
- ยาฟาวิพิราเวียร์ คงเหลือ 575,783 เม็ด เพียงพอสำหรับ 5-6 เดือน นอกจากนี้ องค์การเภสัชกรรมได้สั่งซื้อเพิ่มอีก 5 แสนเม็ด เพื่อให้พียงพอต่อสถานการณ์
ด้านสถานการณ์โรคโควิด 19 วันที่ 13 เมษายน 2564 ประเทศไทยพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 965 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังในโรงพยาบาล 654 ราย การค้นหาเชิงรุกในชุมชน 302 ราย และเดินทางมาจากต่างประเทศ 9 ราย
นพ.โอภาส เปิดเผยถึงความคืบหน้า ในการฉีดวัคซีนโควิด 19 ล่าสุดฉีดแล้ว 578,532 โดส แบ่งเป็นเข็มแรก 505,215 ราย และครบ 2 เข็ม 73,317 ราย โดยขณะนี้ วัคซีนโควิด 19 ที่ประเทศไทยได้รับมาแล้วจำนวน 1,117,000 ตั้งเป้าว่า ภายในสิ้นเดือนเมษายน 2564 จะต้องฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มเป้าหมายให้ได้ 400,000 คน จากข้อมูล ณ วันที่ 13 เมษายน ได้ฉีดไปแล้ว 346,718 คน ซึ่งเร็วกว่าที่คาดหมายไว้
พร้อมกันนี้ ขอความร่วมมือ ให้ผู้ติดเชื้อทุกคนเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเพื่อการติดตามอาการอย่างใกล้ชิด และไม่ให้เกิดการแพร่เชื้อสู่ชุมชน หากเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อสั่งให้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลแล้วปฏิเสธการรักษาจะผิดทางกฎหมาย พ.ร.บ. โรคติดต่อตามมาตรา 34 นอกจากนี้ยังห้ามเดินทางข้ามจังหวัด เพื่อไปรักษายังจังหวัดอื่น เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อระหว่างทาง และในจังหวัดปลายทาง
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- เช็คด่วน 45 จังหวัด! ประกาศผู้เดินทางมาจากนอกพื้นที่ต้องกักตัว!
- อย่าทำแบบนี้! สาวรู้ตัวป่วย ‘โควิด’ บินตามแฟนหนุ่มกลับ ‘นครศรีธรรมราช’
- ‘นครสวรรค์’ โควิดระลอกใหม่ พุ่ง 94 ราย ยังห่วง 3 คลัสเตอร์ สถานบันเทิง
