วัคซีนโควิดวุ่น! สหรัฐระงับฉีด ‘จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน’ เหตุลิ่มเลือด

หน่วยงานด้านสุขภาพของสหรัฐ สั่งระงับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของ ‘จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน’ หลังจากมีคนได้รับวัคซีนเจอภาวะลิ่มเลือด

ศูนย์ป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของสหรัฐ จะมีการประชุมในวันพุธนี้ เพื่อพิจารณาผลกระทบจากวัคซีนที่เกิดขึ้น โดยคนไข้ 6 คน เป็นผู้หญิงอายุ 18-48 ปี ได้รับวัคซีน มีคนหนึ่งเสียชีวิตและอีกคนอาการสาหัส

หน่วยงานของสหรัฐสั่งระงับฉีดวัคซีน หลังจากสัปดาห์ที่ผ่านมา หน่วยงานดูแลของยุโรปได้พิจารณาการฉีดวัคซีนของ ‘จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน’ เนื่องจากอาจทำให้เกิดลิ่มเลือด

ทั้งนี้ หลายรัฐของสหรัฐฯ ปิดจุดฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) บางแห่งชั่วคราว หลังจากตรวจพบประชาชนประสบผลข้างเคียงไม่พึงประสงค์จากการฉีดวัคซีน

สื่อท้องถิ่นรายงานว่ารัฐนอร์ธแคโรไลนาพบประชาชนประสบผลข้างเคียง 18 คน ขณะรัฐโคโลราโดพบประชาชนประสบผลข้างเคียง 11 คน โดยมีอาการต่างๆ ตั้งแต่วิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้ จนถึงหน้ามืดเป็นลม

ด้านจอร์เจียเป็นรัฐที่ 3 ต่อจากนอร์ธแคโรไลนาและโคโลราโด ที่ปิดจุดฉีดวัคซีนชั่วคราวหลังพบประชาชนประสบผลข้างเคียง 8 คน โดยเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นระบุว่าผู้รับวัคซีนคนหนึ่งถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาลเพื่อประเมินอาการก่อนได้รับการปล่อยตัว ขณะอีก 7 คน ถูกส่งตัวกลับบ้านหลังอยู่ภายใต้การสังเกตอาการที่จุดฉีดวัคซีน

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐฯ กล่าวว่าผลการวิเคราะห์ “ไม่พบปัญหาด้านความปลอดภัยหรือเหตุผลที่น่ากังวล” พร้อมแนะนำผู้ให้บริการฉีดวัคซีนเดินหน้าฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน (Johnson & Johnson) ต่อไป

เจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางและข้อมูลระบุว่าอีกปัญหาหนึ่งที่จอห์นสันแอนด์จอห์นสันกำลังเผชิญคือการแจกจ่ายวัคซีน โดยคาดว่าปริมาณวัคซีนสำรองของจอห์นสันแอนด์จอห์นสันทั่วประเทศจะลดลงร้อยละ 85 ในสัปดาห์นี้ หลังจากบริษัทฯ ประสบปัญหาการผลิตที่โรงงานแห่งหนึ่งในเมืองบัลติมอร์ของรัฐแมรีแลนด์

ผู้รับเหมาผลิตวัคซีนรายหนึ่งในเมืองดังกล่าวผสมส่วนผสมสำหรับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของจอห์นสันแอนด์จอห์นสันและของแอสตราเซเนกา (AstraZeneca) เข้าด้วยกัน ส่งผลให้การจัดส่งวัคซีนของจอห์นสันแอนด์จอห์นสันล่าช้าทั่วประเทศ

โรงงานดังกล่าวดำเนินการโดยอีเมอร์เจนต์ ไบโอโซลูชันส์ (Emergent BioSolutions) ซึ่งเป็นพันธมิตรด้านการผลิตของจอห์นสันแอนด์จอห์นสันและแอสตราเซเนกา โดยเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางระบุว่าข้อผิดพลาดดังกล่าวเกิดจากความผิดพลาดของมนุษย์ ส่งผลให้เกิดการปนเปื้อนในวัคซีนของจอห์นสันแอนด์จอห์นสันถึง 15 ล้านโดส

เมื่อวันศุกร์ (9 เม.ย.) จอห์น ไซเอนต์ส ผู้ประสานงานรับมือการระบาดของโรคโควิด-19 ประจำทำเนียบขาว กล่าวว่าจอห์นสันแอนด์จอห์นสันยังคงทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาการผลิตวัคซีนของอีเมอร์เจนต์ ไบโอโซลูชันส์ ซึ่งยังไม่ได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของสหรัฐฯ (FDA)

ทั้งนี้ วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของจอห์นสันแอนด์จอห์นสันได้รับอนุมัติการใช้งานกรณีฉุกเฉินในสหรัฐฯ เมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ โดยเป็นวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ตัวที่ 3 ที่ได้รับอนุมัติจากสำนักงานฯ และยังเป็นวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ชนิดฉีดโดสเดียวตัวแรกที่ผ่านการรับรองในประเทศ

สหรัฐฯ ดำเนินการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้ประชาชนราว 189 ล้านโดสแล้ว เมื่อนับถึงวันจันทร์ (12 เม.ย.) และมีการแจกจ่ายวัคซีนสู่ทั่วประเทศกว่า 237 ล้านโดสแล้ว

อ่านข่าวเพิ่มเติม: