COVID-19

ในร้ายยังมีดี! หมอยง ชี้ วัคซีนซิโนแวค-แอสตร้าเซนเนก้า กันโควิดสายพันธุ์อังกฤษได้

“หมอยง” ยัน วัคซีนซิโนแวค แอสตร้าเซนเนก้า ที่ฉีดในไทย มีประสิทธิภาพ ป้องกันเชื้อโควิด 19 สายพันธุ์อังกฤษได้ ขอให้มั่นใจ

ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่นำมาฉีดในประเทศไทย ทั้งของซิโนแวค และแอสตร้าเซนเนก้า มีประสิทธิภาพดีมาก ในการลดความรุนแรงของโรค ช่วยป้องกันการป่วยที่มีอาการมาก และป้องกันการเสียชีวิตได้ 100% ไม่ต่างจากวัคซีนของโมเดอร์นา ไฟเซอร์ และอื่น ๆ

วัคซีนโควิด

ส่วนการป้องกันอาการน้อยถึงปานกลาง วัคซีนซิโนแวคป้องกันได้ 78% แอสตร้าเซนเนก้า ป้องกันได้ 76% ดังนั้น ขอให้มั่นใจในประสิทธิภาพวัคซีนที่นำมาใช้ในประเทศไทย

สำหรับคำถามว่า ฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสกลายพันธุ์ได้หรือไม่นั้น ไวรัสกลายพันธุ์ที่พบขณะนี้ เป็นสายพันธุ์อังกฤษ B.1.1.7 เป็นอาร์เอ็นเอไวรัส มีการกลายพันธุ์ในตำแหน่งส่วนที่จับพื้นผิวเซลล์ ทำให้เกาะติดเซลล์ได้แน่น เพิ่มจำนวนง่าย ปริมาณไวรัสมาก กระจายโรคเร็ว

อย่างไรก็ตาม ความรุนแรงไม่ต่างจากสายพันธุ์เดิมที่เคยพบในไทย ดังนั้นวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า และวัคซีนอื่น ๆ มีประสิทธิภาพในการป้องกัน ไม่แตกต่างจากสายพันธุ์เดิม ส่วนสายพันธุ์แอฟริกาใต้และบราซิล วัคซีนอาจมีประสิทธิภาพลดลงบ้าง แต่ยังป้องกันความรุนแรงของโรคได้

สิ่งสำคัญคือ ทุกคนต้องช่วยกันป้องกันสายพันธุ์กลายพันธุ์หลุดเข้าไทย แม้ตลอดเวลาที่ผ่านมา ไทยจะกักตัวผู้เดินทางจากต่างประเทศ ทำอย่างเต็มที่ ก็ยังพบสายพันธุ์อังกฤษเข้ามา และเป็นสายพันธุ์ที่อยู่ในไทยต่อจากนี้ ขอให้การ์ดอย่าตก เข้มมาตรการป้องกันตนเองต่อไป

ศ.นพ.ยงกล่าวต่อว่า การจะฉีดให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ในประชากรโลกที่มี 7,000 ล้านคน ต้องฉีดให้ได้ 1 หมื่นล้านโดส หรือไม่น้อยกว่า 5,000 ล้านคน ขณะนี้ทั่วโลกฉีดแล้วมากกว่า 700 ล้านโดส เฉลี่ย 15 ล้านโดสต่อวัน ต้องใช้เวลา 2 ปี จึงจะครบเป้าหมาย ต้องเร่งฉีด 30 ล้านโดสต่อวัน จึงจะบรรลุเป้าหมายใน 1 ปี

ปัจจุบัน ประเทศที่ฉีดวัคซีนได้มากคือ อเมริกา จีน โดยประเทศที่ฉีดครอบคลุมมากสุดคือ อิสราเอล ใช้วัคซีนไฟเซอร์ ทำให้ผู้ติดเชื้อที่เคยสูงสุด 6,000 รายต่อสัปดาห์ เหลือหลักร้อยรายต่อสัปดาห์ อัตราเสียชีวิตเหลือหลักสิบรายต่อสัปดาห์ แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพการฉีดวัคซีนในประชาชนหมู่มาก

หมอยง1
ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ

นอกจากนี้ ยังพบว่า การฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าที่ประเทศอังกฤษ ที่ระดมฉีดประชาชนจำนวนมาก การป่วยและเสียชีวิตลดลงอย่างมาก ขณะที่ฝรั่งเศส เยอรมนี ที่หยุดฉีดบางช่วงเนื่องจากกังวลเรื่องผลข้างเคียงวัคซีน เกิดการระบาดระลอก 3

“ขณะนี้ ประชาชนบางส่วนอยู่ในภาวะตระหนก ขอให้ตรวจสอบว่าตัวเองเสี่ยงสูงหรือต่ำ ซึ่งระลอกแรกเห็นชัดว่า ผู้เสี่ยงสูงคือคนในครอบครัว จะต้องไปตรวจหาเชื้อ” ศ.นพ.ยง กล่าว

ส่วนการสัมผัสในที่ทำงาน จากการศึกษาพบว่า มีโอกาสติดในที่ทำงานน้อยมาก จะติดในผู้สัมผัสใกล้ชิด เช่น กินข้าวด้วยกัน พูดคุยสนทนากัน สัมผัสโดยตรงกับผู้ป่วย ถือว่าเสี่ยงสูง ควรไปตรวจหาเชื้อ ส่วนผู้ร่วมงานคนอื่น ๆ อาจเสี่ยงบ้าง ขอให้สังเกตอาการ เคร่งครัดการปฏิบัติตน ใส่หน้ากาก 100% ล้างมือบ่อยๆ เว้นระยะห่าง เป็นเวลา 14 วัน

กรณีที่มีข่าวอาการผื่นขึ้น จากการติดเชื้อโควิดนั้น การขึ้นผื่น สามารถพบได้จากหลายสาเหตุ หากเป็นโควิด 19 จะต้องมีอาการอย่างอื่นร่วมด้วย เช่น เจ็บคอ ไข้ ไอ อาการระบบทางเดินหายใจ ซึ่งเป็นอาการหลัก

ศ.นพ.ยงกล่าวต่อว่า ส่วนข้อสงสัยวัคซีนโควิด-19 ในภาวะฉุกเฉินที่ใช้ขณะนี้ เป็นวัคซีนที่ไม่สามารถรอการพัฒนาแล้วขึ้นทะเบียนในภาวะปกติ ซึ่งต้องใช้เวลา 3- 5 ปี เพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยของวัคซีน ดังนั้นเมื่อไม่สามารถรอได้ จึงต้องคำนึงถึงประโยชน์ที่จะได้จากวัคซีนกับอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นจากวัคซีน หากมีประโยชน์มากกว่า จึงขออนุมัติในภาวะฉุกเฉิน

ขณะเดียวกัน ยังมีการศึกษาติดตาม เรื่องความปลอดภัยวัคซีนอย่างต่อเนื่อง เมื่อมั่นใจแล้ว จึงจะขออนุญาตอนุมัติการใช้ในภาวะปกติ ซึ่งต่างจากวัคซีนที่อนุมัติใช้ในภาวะปกติ เช่น วัคซีนใหม่ในเด็กพบอาการข้างเคียงน้อยมากหรือแทบไม่มีไข้เลย จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่วัคซีนโควิด-19 ไม่ว่าแอสตร้าเซนเนก้า ซิโนแวค ฉีดแล้วอาจจะมีอาการข้างเคียงบ้าง ก็ต้องยอมรับ เมื่อเป็นการพัฒนาในภาวะฉุกเฉิน

“บริษัทผู้ผลิตแจ้งแล้วว่า หากเกิดอะไรในภาวะฉุกเฉิน ฝ่ายอนุญาต(รัฐบาล) จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ และต้องรอไปอีกสักระยะหนึ่งวัคซีนโควิดนี้ถึงจะอนุมัติให้ใช้ในภาวะปกติได้”ศ.นพ.ยง กล่าว

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo