COVID-19

หวั่นใจ! สธ.จำลองสถานการณ์โควิดร้ายแรงสุด ติดเชื้อพุ่งวันละ 2.8 หมื่นราย

สธ.จำลองสถานการณ์โควิดร้ายแรงสุด ติดเชื้อพุ่งวันละ 2.8 หมื่นราย จาก 5 สถานการณ์ ในระยะ 1 เดือน เผยประเทศไทยมีการติดเชื้อแล้ว 70 จังหวัด

นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงสถานการณ์โรคโควิด-19 ว่า ขณะนี้ประเทศไทยมีการติดเชื้อแล้ว 70 จังหวัด ซึ่งเชื่อมโยงจากสถานบันเทิง จากข้อมูลถึงวันที่ 10 เม.ย. ในกรุงเทพมหานคร (กทม.) รายงานติดเชื้อสะสม 1,114 ราย เกี่ยวข้องกับสถานบันเทิง 823 ราย และค้นหาเชิงรุกในชุมชน 234 ราย

cell virusโควิดใน ม ๒๑๐๔๑๑ 1

ขณะที่ กองระบาดวิทยา และสำนักงานพัฒนานโยบายสุขภาพระหว่างประเทศ ได้ทำแบบจำลอง เพื่อคาดประมาณจำนวนผู้ป่วยในระยะ 1 เดือนข้างหน้า โดยเปรียบเทียบ 5 สถานการณ์ ที่ไม่มีมาตรการ และมีมาตรการเพิ่มขึ้น พบว่า

  • กรณีไม่มีมาตรการใด ๆ เลย ปล่อยให้การติดเชื้อเป็นไปโดยธรรมชาติ ผู้ติดเชื้อต่ำสุด 1,308 รายต่อวัน สูงสุด 28,678 รายต่อวัน เฉลี่ย 9,140 รายต่อวัน
  • กรณีมีมาตรการปิดสถานบันเทิง 41 จังหวัด ต่ำสุด 817 รายต่อวัน สูงสุด 7,244 รายต่อวัน เฉลี่ย 2,996 รายต่อวัน ลดลง 32.8%
  • กรณีปิดสถานบันเทิง และเพิ่มมาตรการส่วนบุคคล เช่น สวมหน้ากาก 100% เว้นระยะห่าง ล้างมือ สแกนไทยชนะ ติดเชื้อต่ำสุด 476 รายต่อวัน สูงสุด 1,589 รายต่อวัน เฉลี่ย 934 รายต่อวัน การติดเชื้อลดลงอีก 10.2%
  • กรณีปิดสถานบันเทิง มีมาตรการส่วนบุคคล และลดกิจกรรมการรวมตัว หรือจัดงานปลอดภัยมากขึ้น จำกัดคนเข้าร่วม ผู้ติดเชื้อต่ำสุด 378 รายต่อวัน สูงสุด 857 รายต่อวัน เฉลี่ย 593 รายต่อวัน ลดลงอีก 6.5%
  • กรณีปิดสถานบันเทิง มีมาตรการส่วนบุคคล ลดกิจกรรมรวมตัว และเพิ่มมาตรการองค์กรหลังสงกรานต์ เช่น ทำงานที่บ้าน การแพร่เชื้อก็จะลดลงอีก โดยติดเชื้อต่ำสุด 303 รายต่อวัน สูงสุด 483 รายต่อวัน เฉลี่ย 391 รายต่อวัน ลดลงอีก 4.3%

สำหรับการปิดสถานบันเทิงใน 41 จังหวัด ไม่อยากให้มองแค่ตัวเลขจังหวัด เพราะจังหวัดอื่น หากมีสถานการณ์ก็สามารถปิดได้ แต่ขอให้สถานบันเทิงใน 36 จังหวัดที่เหลือ เข้มมาตรการ เข้มงวดตรวจคัดกรองคนเข้าใช้บริการ เน้นย้ำสวมหน้ากาก ทั้งทางเข้าและสถานบริการ ตรวจหาเชื้อกลุ่มเสี่ยง เช่น มีทางเดินหายใจ มีประวัติไปใช้สถานบันเทิง ในจังหวัดพบผู้ติดเชื้อมาก่อน และต้องติดตามภายใน 1-2 สัปดาห์ ผู้ติดเชื้อจะลดลง สอดคล้องกับมาตรการที่กำหนดหรือไม่ ถ้าทำได้ก็จะดีคงไว้ ถ้ายังมีผู้ติดเชื้ออยู่ก็ต้องเพิ่มมาตรการขึ้นต่อไป

3 7
นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร

นอกจากนี้ ยังต้องเพิ่มมาตรการ 4 ด้าน คือ

1. มาตรการสังคม คือ ลดกิจกรรมชุมนุมสังสรรค์ ลดการเดินทางข้ามจังหวัดที่ไม่จำเป็น ผู้นำชุมชนค้นหาติดตามผู้เดินทางจากพื้นที่เสี่ยง เพื่อป้องกันแพร่เชื้อ

2. มาตรการสาธารณสุข คือ คัดกรองเชิงรุก เมื่อทราบว่าติดเชื้อนำเข้าสู่การรักษา เพื่อลดโอกาสการแพร่เชื้อต่อ และดูแลผู้ที่มีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรง ป้องกันเสียชีวิต โดยมีการตั้ง รพ.สนาม เพื่อรองรับการดูแลอย่างทั่วถึง รวมถึงให้วัคซีนประชาชนที่เสี่ยง

3. มาตรการส่วนบุคคล คือ สวมหน้ากาก ล้างมือ เว้นระยะห่าง สแกนไทยชนะ วัดอุณหภูมิ หากมีอาการสงสัยตรวจหาเชื้อ ผู้ที่มีความเสี่ยงให้กักตัว 14 วัน แยกสิ่งของเครื่องใช้ไม่ปะปนกับคนครอบครัว

4. มาตรการองค์กร ทั้งรัฐและเอกชน เน้นย้ำการทำงานจากที่บ้าน จัดประชุมหรือจัดการเรียนการสอนออนไลน์

ด้านสถานการณ์โควิด ประเทศไทยวันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น 967 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังในโรงพยาบาล (รพ.) 530 ราย ค้นหาเชิงรุกในชุมชน 434 ราย และเดินทางจากต่างประเทศ 3 ราย รวมผู้ติดเชื้อสะสม 32,625 ราย หายแล้ว 28,214 ราย เสียชีวิตสะสม 97 ราย

ส่วนการระบาดระลอกใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.เป็นต้นมา มีผู้ติดเชื้อสะสม 4,314 ราย มีผู้ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 แล้วกว่า 5 แสนโดส แบ่งเป็นการฉีดเข็มแรก 485,957 ราย และฉีดครบ 2 เข็ม 69,439 ราย

“เมื่อเทียบกับหลายประเทศเรายังควบคุมโรคได้ดี เพราะหลายประเทศเพียงวันเดียวยอดติดเชื้อก็เกินยอดสะสมของเราแล้ว แต่เพื่อให้เราปลอดภัยมากขึ้น จะควบคุมให้ผู้ติดเชื้อในประเทศไม่เกินขีดความสามารถการรักษาพยาบาล เพื่อลดการเสียชีวิต ตอนนี้อัตราป่วยตายเรา 0.3% น้อยกว่าทั่วโลก 7-8 เท่า” นพ.โสภณ กล่าว

ขณะที่กรณีของ จ.เชียงใหม่ เริ่มจากผู้ติดเชื้อ 9 รายแรก ที่นำเชื้อมาสู่สถานบันเทิงเชียงใหม่ และทำให้เกิดการติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างเร็วมาก ดังนั้น ผู้ที่เคยไปสถานที่เสี่ยง เช่น สถานบันเทิง ต้องเฝ้าระวังสังเกตอาการอย่างน้อย 14 วันจากวันที่ไปครั้งสุดท้าย หากมีอาการให้ไปตรวจโดยเร็ว และป้องกันตนเองไม่ให้แพร่เชื้อไปสู่คนอื่น โดยเฉพาะผู้สูงอายุและเด็กในครอบครัว

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo