“หมอยง” เตือน! กลับบ้านสงกรานต์ต้องระวัง เอาโควิด-19 ไปติดญาติผู้ใหญ่ไม่รู้ตัว ต้องปฏิบัติตามมาตรการเคร่งครัด
วันนี้ (11 เม.ย.) ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Yong Poovorawan เตือนว่า ผู้ที่เดินทางกลับบ้านช่วงสงกรานต์ 2564 ต้องระมัดระวัง ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเคร่งครัด เพราะอาจจะนำเชื้อไวรัสโควิด-19 ไปติดญาติผู้ใหญ่แบบไม่รู้ตัว ขณะเดียวกันควรงดตั้งวงดื่มเหล้าหรือเล่นสาดน้ำด้วย
สำหรับข้อความทั้งหมดเป็นดังนี้
“โควิด-19 กับประเพณีสงกรานต์ของไทย
สงกรานต์ ปีใหม่ไทยเป็นประเพณีที่ดีงาม ลูกหลานจะมารดน้ำขอพรญาติผู้ใหญ่หรือผู้ที่เคารพนับถือ แสดงความเคารพ กตัญญู ของสังคมตะวันออกที่ดีงาม
ตั้งแต่ปีที่แล้วและในปีนี้ เราต้องเผชิญกับวิกฤตการระบาดใหญ่มากของโควิด 19 ในประเทศไทย
ณ วันนี้ผู้ที่ต้องสงสัย เดินเข้าไปตรวจโควิด 19 อัตราการตรวจพบอยู่ที่ประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ นับว่าสูงกว่าปีที่แล้วมาก
ปีนี้เกิดการระบาดอย่างหนักและเป็นสายพันธุ์ที่ติดต่อง่ายกว่าปีที่แล้ว เรามีการผ่อนปรน การเดินทาง
ดังนั้น ผู้ที่กลับบ้าน มีการเดินทางเคลื่อนย้าย จึงเสี่ยงต่อการระบาดของโรค
เราทุกคนช่วยกันได้ สิ่งที่สำคัญที่สุด โดยเฉพาะลูกหลานที่กลับบ้าน จะต้องระลึกอยู่เสมอว่า เราอาจจะนำเชื้อไปสู่ท่าน ญาติผู้ใหญ่โดยไม่รู้ตัว การดำเนินการในประเพณีจะต้องมีการกำหนดระยะห่าง และมีมาตรการการดูแลเรื่องความสะอาด ล้างมือ การจับต้อง การใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา มีความจำเป็นมาก และให้ถือว่าปีนี้ จะต้องอยู่ในวิถีชีวิตใหม่ ผมเชื่อว่าญาติผู้ใหญ่ทุกคนเข้าใจ ได้เห็นหน้ากัน ก็ดีใจแล้ว
สำหรับผู้ที่ไม่ได้เดินทางไปหาท่าน สมัยนี้ เราสามารถใช้ออนไลน์แสดงความเคารพได้ จะเป็น LINE call หรือ FaceTime และยังมีช่องทางติดต่ออย่างอื่นอีกมาก ที่จะขอพรจากท่าน
การเฉลิมฉลองต่างๆ การละเล่น ก็ควรจะงด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การตั้งวงกินเหล้าไม่ควรจะมีอย่างเด็ดขาด การเฉลิมฉลองด้วยเหล้าไม่เกิดประโยชน์อันใด
การเล่นสาดน้ำในปีนี้ขอให้งดไว้ก่อน และต้องนึกอยู่เสมอว่าช่วงนี้มีการระบาดอย่างมาก”
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ศึกโควิดรอบนี้ ‘หนักหนา’ หมอธีระ ชวนดูบทเรียนประเทศอื่น ติดอาวุธ ‘ความรู้’ สู้ศึก
- กทม.วิกฤติหนัก! พบอีก 10 สถานบันเทิง ติดโควิด ใน 3 เขตพื้นที่
- ยอดพุ่ง! 554 ราย คลัสเตอร์สถานบันเทิง ‘ทองหล่อ’ รอผลอีก 2,701 ราย
