ประธานาธิบดีรัสเซียเตือนอิสราเอลหลีกเลี่ยงการแสดงบทบาททางทหารในซีเรีย ขณะอีกฝ่ายลั่น ไม่มีทางยอมให้อิหร่านตั้งฐานทัพในซีเรีย
ทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซียได้เปิดเผยบทสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย กับนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล ซึ่งแสดงให้เห็นว่า นายปูติน ได้กล่าวเตือนอีกฝ่ายหนึ่งให้ถอยห่างจากพฤติกรรมใดก็ตาม ที่จะทำลายเสถียรภาพของรัฐบาลซีเรียมากขึ้น อันจะเป็นการทำลายความมั่นคงภายในของซีเรีย
ผู้นำรัสเซีย ยังเน้นถึงความสำคัญของการเคารพอธิปไตยของซีเรีย และกล่าวถึงเหตุการณ์ที่มีขีปนาวุธโจมตีฐานทัพอากาศที-โฟร์ ในเมืองฮอมส์ ทางตอนกลางของภาคตะวันตกซีเรีย เมื่อช่วงต้นสัปดาห์นี้ด้วย
อย่างไรก็ตาม แถลงการณ์ของทำเนียบนายกรัฐมนตรีอิสราเอลระบุว่า นายเนทันยาฮู ได้กล่าวกับผู้นำรัสเซียว่า อิสราเอลจะไม่มีทางยอมให้อิหร่านเข้ามาตั้งฐานทัพในซีเรียอย่างเด็ดขาด แต่ไม่ได้แสดงท่าทีใดๆ ต่อคำกล่าวหาของรัฐบาลมอสโกที่ว่า อิสราเอลส่งเครื่องบินขับไล่ข้ามพรมแดนเข้ามายิงขีปนาวุธ 8 ลูก โจมตีฐานทัพที-โฟร์ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา แม้ระบบป้องกันภัยทางอากาศของซีเรียสามารถสกัดขีปนาวุธได้ 5 ลูก แต่หมายความว่ายังมีขีปนาวุธ 3 ลูกสามารถทำลายเป้าหมายได้ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 14 คน ในจำนวนนี้ 7 คน เป็นที่ปรึกษาทางทหารของอิหร่าน
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้น ในช่วงเวลาที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ได้ออกมาเตือนให้รัสเซียเตรียมพร้อมรับมือกับขีปนาวุธของสหรัฐ ที่จะโจมตีซีเรียในเร็ววันนี้ เพื่อตอบโต้เหตุการณ์ ที่มีการกล่าวหารัฐบาลซีเรียว่า ใช้อาวุธเคมีโจมตีเมืองดูมา ในเขตกูตาตะวันออก ที่ทำให้พลเรือนเสียชีวิตราว 40-70 คน
