Business

พาณิชย์ เคาะไม่จ่ายชดเชย! ปาล์มน้ำมันราคาสูงเกินเพดาน ข้าวโพดยืนเท่าราคาประกัน

พาณิชย์ เคาะไม่จ่ายชดเชย ปาล์มน้ำมันงวดที่ 4 หลังราคายังสูงเกินเพดานถึงกิโลละ 5.54 บาท ส่วนต่างข้าวโพดงวดที่ 6 ราคาเฉลี่ยเท่าราคาประกันรายได้

นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า พาณิชย์ เคาะไม่จ่ายชดเชย ส่วนต่างราคา ปาล์มน้ำมัน งวดที่ 4 และข้าวโพด งวดที่ 6 เนื่องจากราคาปาล์มน้ำมัน ได้ปรับตัวสูงขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้ว และยืนราคาเกินกว่าราคาที่ประกันรายได้เอาไว้ ขณะที่ข้าวโพด ราคาตลาดเท่ากับราคาที่ประกันรายได้ไว้ที่กิโลกรัมละ 8.50 บาท

พาณิชย์ เคาะไม่จ่ายชดเชย

ทั้งนี้ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการบริหารโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน ปี 2564 ได้ลงนามในประกาศกำหนดราคาตลาดอ้างอิง และการชดเชยส่วนต่างราคา ให้เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน งวดที่ 4 โดย ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ไม่ต้องจ่ายชดเชยรายได้ ให้กับเกษตรกรชาวสวนปาล์ม สำหรับงวดนี้ ที่เดิมจะต้องจ่ายในวันที่ 9 เม.ย. 2564 เพื่อชดเชยส่วนต่างของการประกันรายได้

สำหรับราคาเฉลี่ยตั้งแต่วันที่ 6 มี.ค. – 4 เม.ย. 2564 ผลปาล์มทะลาย คุณภาพน้ำมันที่ 18% มีราคาอยู่ที่กิโลกรัม (กก.) ละ 5.54 บาท สูงกว่าราคาเป้าหมายที่กก.ละ 4 บาท จึงไม่มีส่วนต่างระหว่างราคาเป้าหมายกับราคาตลาดอ้างอิง โดยการไม่จ่ายส่วนต่างงวดที่ 4 นี้ ถือเป็นการไม่จ่าย 4 งวดติดต่อกัน เพราะราคาปาล์มน้ำมัน ได้ปรับตัวสูงขึ้น ตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้ว และยืนราคาเกินกว่าราคาที่ประกันรายได้เอาไว้

โครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันปี 2564 คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติโครงการเมื่อวันที่ 9 ก.พ. 2564 ที่ผ่านมา วงเงินรวม 8,807.54 ล้านบาท โดยกระทรวงพาณิชย์ขอจัดสรรงบประมาณเบื้องต้น จำนวน 4,613.04 ล้านบาทก่อน เพื่อรองรับความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นจากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ที่ยังไม่คลี่คลาย จึงอาจส่งผลต่อปริมาณความต้องการใช้ปาล์มน้ำมันและเสถียรภาพราคา แต่ที่ไม่ของบประมาณเต็มจำนวน เพราะปัจจุบัน ราคาน้ำมันปาล์มปรับตัวสูงกว่าราคาประกันรายได้

ชาวสวนปาล์มน้ำมัน

ขณะที่โครงการปี 2564 ใช้หลักการเดิมเช่นเดียวกับโครงการปีการผลิต 2562-63 คือ เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันที่ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตร ประกันรายได้ครัวเรือนละไม่เกิน 25 ไร่ กิโลกรัมละ 4 บาท (คุณภาพน้ำมัน 18%) และเป็นพื้นที่ที่ให้ผลผลิตแล้ว 3 ปีขึ้นไป ระยะเวลาโครงการตั้งแต่เดือนม.ค.-ก.ย. 2564

ส่วนผลการดำเนินโครงการในปีการผลิต 2562/63 (ส.ค.2562-ธ.ค.2563) ธ.ก.ส. ได้จ่ายเงินประกันรายได้ให้แก่เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันไปแล้ว จำนวน 378,892 ครัวเรือน รวมวงเงิน 7,221.21 ล้านบาท คิดเป็น 55.5% ของวงเงินที่ตั้งไว้เพื่อการจ่ายเงินชดเชยส่วนต่างแก่เกษตรกร จำนวน 13,000 ล้านบาท เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมา ราคาปาล์มน้ำมันปรับตัวสูงกว่าราคาประกันรายได้ จึงไม่ต้องจ่ายเงินชดเชยส่วนต่างแก่เกษตรกร

ในส่วนของ โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ นั้น คณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิง โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มีมติให้งดจ่ายเงินส่วนต่างสำหรับงวดที่ 6 ของโครงการประกันรายได้ปีที่ 2 ที่จะจ่ายให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ที่ได้ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตร โดยมีวันเพาะปลูกตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. 2563 และระบุวันที่คาดว่าจะเก็บเกี่ยวตั้งแต่วันที่ 20 มี.ค.-19 เม.ย.2564

ข้าวโพด

การงดจ่ายในรอบนี้ เนื่องจากราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงในครั้งนี้ เท่ากับราคาเป้าหมายที่ประกันรายได้ โดยมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่กิโลกรัม (กก.) ละ 8.50 บาท จากราคาประกันรายได้ที่กก.ละ 8.50 บาท

นายวัฒนศักย์ กล่าวว่า การกำหนดราคาอ้างอิง คณะอนุกรรมการฯ ได้ใช้ราคารับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ความชื้นไม่เกิน 14.5% ของกรมการค้าภายใน เฉลี่ยจากจังหวัดที่เป็นแหล่งผลิตข้าวโพดสำคัญ 10 จังหวัด ได้แก่ เพชรบูรณ์ นครราชสีมา น่าน ตาก เลย เชียงราย ลพบุรี นครสวรรค์ พิษณุโลก และแพร่ เฉลี่ยย้อนหลัง 30 วัน เพื่อคำนวณการจ่ายส่วนต่าง โดยงวดที่ 4 มีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 8.42 บาทต่อกก. มีส่วนต่างอยู่ที่ กก.ละ 0.08 บาท จากราคาเป้าหมาย 8.50 บาทต่อ กก.

โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปี 2563/64 คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เห็นชอบให้ดำเนินโครงการเมื่อวันที่ 18 ส.ค.2563 ในกรอบวงเงิน 1,912 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือด้านรายได้ให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ โดยจะจ่ายเดือนละครั้งทุกวันที่ 20 จนสิ้นสุดโครงการ

ปัจจุบัน มีเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดทั้งประเทศ 4.5 แสนครัวเรือน ปลูกมากที่สุด คือ จังหวัดเพชรบูรณ์ รองลงมา คือ จังหวัดตาก เชียงราย และกระจายอยู่ 17 จังหวัดภาคเหนือ กับหลายจังหวัดในภาคอีสาน และมีภูมิภาคอื่นด้วยเล็กน้อย

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo