อาจกล่าวได้ว่ากรณีการล่วงละเมิดทางเพศเป็นหนึ่งในประเด็นที่ทำให้บริษัทขนาดใหญ่ต้องเปลี่ยนตัวผู้บริหารมาแล้วนักต่อนัก และล่าสุดอาจเป็นกูเกิล ที่อาจทำให้เก้าอี้ซีอีโอของลาร์รี่ เพจ ผู้บริหารบริษัทแม่อย่างอัลฟาเบ็ทต้องสั่นคลอน
โดยปรากฏการณ์การวอล์กเอาท์ครั้งใหญ่ที่มีพนักงานราว 20,000 คนเข้าร่วม ทั้งจากออสเตรเลีย บราซิล แคนาดา เยอรมนี อินเดีย ไอร์แลนด์ ญี่ปุ่น เนเธอร์แลนด์ ฟิลิปปินส์ อังกฤษ สิงคโปร์ สวีเดน และสวิสเซอร์แลนด์ กลายเป็นที่จับตาของสื่อทั่วโลก เนื่องจากเดิมนั้น มีสื่อคาดการณ์ไว้ว่าอาจมีพนักงานแค่ 200 คนในสหรัฐอเมริกาเข้าร่วมเท่านั้น
การประท้วงครั้งนี้จึงไม่เพียงทำให้ทั่วโลกหันมาดูวิธีของกูเกิลที่ปฏิบัติต่อพนักงานหญิงผู้ตกเป็นเหยื่อ และผู้บริหารระดับสูงของบริษัทว่ามีความไม่เหมาะสม แต่ยังได้ลากชื่อของแอนดี้ รูบิน ผู้สร้างระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ให้เสียหายหนักมากขึ้นด้วย เนื่องจากสื่ออย่างนิวยอร์กไทม์รายงานว่า แท้จริงแล้ว แอนดี้ รูบินไม่ได้ลาออกจากกูเกิลอย่างสวยหรู แต่เป็นเพราะเขาไปล่วงละเมิดพนักงานหญิงรายหนึ่ง ทว่า สิ่งที่แอนดี้ รูบิน ได้รับจากกูเกิลคือแพกเกจที่กูเกิลจ่ายให้เขาถึง 90 ล้านดอลลาร์ และจ่ายให้เป็นรายเดือนอีกเดือนละ 2 ล้านดอลลาร์เป็นเวลา 4 ปี
สิ่งที่ตัวแทนพนักงานกูเกิลออกมาเรียกร้องก็คือ เรื่องของวัฒนธรรมองค์กรที่กูเกิลเขียนไว้ให้ดูดีนั้น แท้จริงแล้ว พนักงานในบริษัทไม่ได้รับการให้เกียรติ และความเท่าเทียมกันอย่างที่ภาพสื่อออกไป
นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า ผู้บริหารของกูเกิลไม่ได้ปรากฏตัวออกมาในการประท้วงครั้งนี้ด้วย โดยซีอีโออย่างซุนดาร์ พิชัยนั้น ไปเข้าร่วมงานสัมมนาอยู่ในนิวยอร์ก ส่วนผู้ก่อตั้งและซีอีโอบริษัทแม่อย่างลารี่ เพจนั้น รายงานข่าวระบุว่าไม่เห็นเขาปรากฏตัวเช่นกัน ซึ่งการหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยของลารี่ เพจ นั้นได้ทำให้ภาพความเป็นผู้นำของเขาแทบไม่เหลือความน่าเชื่อถืออีกต่อไป
ส่วนสิ่งที่ซุนดาร์ พิชัยทำในเวลาต่อมาคือการออกมายอมรับว่า เขาเองก็รู้สึกไม่ต่างจากพนักงานกูเกิลคนอื่น ๆ เพราะที่กูเกิล เราตั้งมาตรฐานไว้สูง แต่ในความเป็นจริงก็คืออาจยังทำได้ไม่ตรงตามที่ทุกคนคาดหวัง ซีอีโอกูเกิลยังได้กล่าวด้วยว่า สิ่งแรกที่ต้องบอกก็คือขอโทษสำหรับสิ่งที่ผ่านมา และการพูดอย่างเดียวไม่ช่วยแก้ปัญหา เราต้องทำตามอย่างเคร่งครัดด้วย