COVID-19

สธ. เล็งชง ศบค. ปิด ผับ บาร์ คาราโอเกะ อาบอบนวด 41 จังหวัดเสี่ยง แพร่โควิด

สธ. เล็งชง ศบค. ปิด ผับ บาร์ คาราโอเกะ อาบอบนวด ในจังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อ จังหวัดเสี่ยง 41 จังหวัด พร้อมสั่งเข้มกฎหมายคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ช่วงสงกรานต์

นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า สธ. เล็งชง ศบค. ปิด ผับ บาร์ คาราโอเกะ อาบอบนวด ซึ่งเป็นสถานที่เสี่ยงสูง มีการแพร่กระจายเชื้อได้ง่าย ในจังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อ และจังหวัดที่มีความเสี่ยง เช่น เป็นทางผ่าน หรือเมืองใหญ่ 41 จังหวัด เพื่อให้ประชาชนทุกคนเดินทางถึงบ้านอย่างปลอดภัย ทั้งจากอุบัติเหตุและโรคโควิด 19 เพื่อให้เทศกาลเป็น “เทศกาลสงกรานต์สุขใจ ขับขี่ปลอดภัย ห่างไกลโควิด”

สธ. เล็งชง ศบค. ปิด ผับ บาร์

สำหรับ เทศกาลสงกรานต์ปี 2564 ประเทศไทย ยังอยู่ในสถานการณ์โรคโควิด 19 ซึ่ง ศบค. ได้กำหนดแนวทาง การจัดกิจกรรมงานบุญ ตามประเพณีสงกรานต์ ภายใต้สโลแกน “ริน รด พรม” ใส่หน้ากาก ไม่สาดน้ำ และเดินทางข้ามจังหวัดกลับภูมิลำเนา หรือท่องเที่ยวได้ เพื่อให้เกิดความสมดุล ทั้งระบบสุขภาพ และเศรษฐกิจของประเทศ ใช้ชีวิตได้ใกล้เคียงปกติมากที่สุด โดยให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด พิจารณาความเหมาะสมในการจัดกิจกรรม

พร้อมกันนี้ กระทรวงสาธารณสุข ได้มอบนโยบายให้หน่วยงานในสังกัด ร่วมมือกับหน่วยงานทุกภาคส่วน ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ป้องกันลดการบาดเจ็บ และเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน และได้กำชับให้มีการเตรียมความพร้อม รองรับสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่อาจจะเกิดขึ้น ในช่วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์

ทั้งนี้เนื่องจาก ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ มีการเดินทาง ใช้รถใช้ถนน มากกว่าช่วงปกติ โอกาสเกิดอุบัติเหตุ บาดเจ็บ และเสียชีวิตจึงมากขึ้นเป็น 2 เท่า โดย สาเหตุสำคัญส่วนใหญ่ เกิดจากพฤติกรรมของผู้ขับขี่ ขับรถเร็ว ดื่มสุราก่อนขับขี่ ไม่สวมหมวกนิรภัย และไม่ปฏิบัติตามกฎจราจร

ดังนั้น จึงให้จังหวัด วิเคราะห์ข้อมูลรายละเอียด เพื่อหาปัจจัย สาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุในพื้นที่ ชี้เป้าจุดเสี่ยง เพื่อนำไปวางแผนแก้ไข, เตรียมพร้อมให้การดูแลรักษาพยาบาลตั้งแต่จุดเกิดเหตุ โรงพยาบาล ระบบส่งต่อ, ควบคุมการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มีการสุ่มตรวจบังคับใช้กฎหมาย โดยเฉพาะการจำหน่ายให้เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี ร่วมตั้งด่านชุมชน/จุดสกัด และเปิดศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข

สธ.1

นอกจากนี้ ได้กำชับให้ อสม. ทั่วประเทศ คัดกรองผู้ขับขี่ที่ดื่มแล้วขับที่ด่านชุมชน เพื่อสกัดกั้น ไม่ให้ออกไปขับรถบนถนน เนื่องจากอุบัติเหตุส่วนใหญ่ มักเกิดในถนนรอง เป็นรถจักรยานยนต์มากที่สุด มีสาเหตุจากดื่มแล้วขับสูงกว่า 40% โดยจัดอบรมให้ความรู้แก่ อสม. ถึงวิธีการประเมินแล้ว และสนับสนุนองค์ความรู้ การดูแลป้องกันอุบัติเหตุผ่านแอปพลิเคชัน “สมาร์ท อสม.”

ขณะเดียวกัน ได้มอบหมายให้ อสม.ช่วยเป็นหูเป็นตา เฝ้าระวังร้านค้าในชุมชน ไม่ให้ฝ่าฝืนกฎหมาย โดยเฉพาะการจำหน่ายให้แก่เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี การจำหน่ายในสถานที่และเวลาที่ห้ามจำหน่าย และเป็นแบบอย่างที่ดี ในเรื่องการมีพฤติกรรมความปลอดภัยบนท้องถนนอย่างจริงจัง

นายแพทย์เกียรติภูมิ กล่าวว่า สธ. ได้เปิดศูนย์ปฏิบัติการด้านการแพทย์และสาธารณสุข (EOC) ที่ส่วนกลางและจังหวัด เพื่อเป็นศูนย์ประสานและสนับสนุนการทำงานตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมสั่งการให้หน่วยงาน และโรงพยาบาลในสังกัด สนับสนุนการทำงานของ ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน โดยเตรียมความพร้อมศูนย์รับแจ้งเหตุ และเตรียมหน่วยปฏิบัติการฉุกเฉินทุกระดับไว้แล้ว 8,255 หน่วย รถปฏิบัติการฉุกเฉิน 20,338 คัน รวมทั้งหน่วยปฏิบัติการทางอากาศและทางเรือ และเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการฉุกเฉินทุกระดับ 164,795 คน

สธ. เล็งชง ศบค. ปิด ผับ บาร์

ในการดำเนินงาน ได้จัดหน่วยกู้ชีพระดับพื้นฐาน และหน่วยปฏิบัติการระดับสูง ประจำบนเส้นทางถนนสายหลัก ที่มีจุดตรวจ จุดบริการอยู่ห่างกันมาก เพื่อดูแลรักษาพยาบาลอย่างรวดเร็ว กรณีบาดเจ็บ เจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤต รับบริการที่โรงพยาบาลใกล้ที่สุด โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายภายใน 72 ชั่วโมงแรก ดำเนินการเจาะเลือดตรวจระดับแอลกอฮอล์ของผู้ขับขี่ที่เกิดอุบัติเหตุ กรณีที่ไม่สามารถเป่าลมหายใจผ่านเครื่องตรวจได้

ด้านนายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ในทุกเทศกาล ยังพบร้านค้ากระทำผิด ทั้งขายสุราในสถานที่ และเวลาห้ามขาย ขายให้กับเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี จึงเดินหน้าทำงานในเชิงรุก โดยช่วงก่อนเทศกาล มีการออกตรวจเตือน ประชาสัมพันธ์ ขอความร่วมมือผู้ประกอบการ ส่วนในช่วงเทศกาล เน้นการบังคับใช้กฎหมายทั่วประเทศอย่างเข้มข้น และขอให้ประชาชนเป็นหูเป็นตาคอยสอดส่องดูแลผู้กระทำผิดกฎหมาย

“ถ้าพบเห็น เช่น ขายและดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในปั๊มน้ำมัน สถานที่ราชการ สถานศึกษา ศาสนสถาน สวนสาธารณะของทางราชการ ขายในเวลาห้ามขาย เร่ขาย และโฆษณาส่งเสริมการขาย ให้โทรศัพท์แจ้งได้ที่ศูนย์ร้องเรียนบุหรี่และสุรา สำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กรมควบคุมโรค หมายเลข 0-2590-3342 หรือสายด่วน 1422 ตลอด 24 ชั่วโมง”นายแพทย์โอภาสกล่าว

สธ.2

ด้าน นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า การรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2564 ได้ดึงพลังภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม คือ อสม.ในการตั้งด่านชุมชน คัดกรองผู้มีอาการมึนเมาในขณะขับขี่ยานพาหนะช่วง 7 วันอันตราย (10 – 16 เมษายน 2564) ตามแนวทางประเมินอาการมึนเมาสุราเบื้องต้น พร้อมบันทึกข้อมูล และรายงานผลการดำเนินงานคัดกรอง แก่ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจังหวัด

ดร.นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม ผู้ช่วยผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ สสส. และรักษาการผู้อำนวยการสำนักสร้างเสริมวิถีชีวิตสุขภาวะ สสส. กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ สสส. ร่วมกับตำรวจภูธรภาค 4 จัดอาสาสมัครจราจรหญิง มีสมาชิกว่า 2,000 คน ใน 12 จังหวัด เป็นผู้ช่วยสนับสนุนเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลความสงบเรียบร้อยในชุมชน ร่วมตั้งด่านชุมชน ตรวจเตือนคนที่ดื่มแล้วขับขี่ในชุมชน และส่งเสริมให้มีการสวมหมวกกันน็อกทุกครั้งเมื่อขับขี่

อีกทั้งได้ร่วมกับเครือข่ายลดอุบัติเหตุ มูลนิธิเมาไม่ขับ เครือข่ายเหยื่อเมาแล้วขับ 100 เครือข่ายทั่วประเทศ สนับสนุนการทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ ให้กวดขันมาตรการ “ดื่มไม่ขับ” สนับสนุนให้มีการตรวจวัดแอลกอฮอล์ในเลือด กรณีที่เกิดอุบัติเหตุแล้วมีผู้เสียชีวิตทุกกรณี

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo