สยอง! โควิด-19 “ทองหล่อ” เป็น สายพันธุ์อังกฤษ แพร่เร็วขึ้น 1.7 เท่า ถึงคนติดไร้อาการ แต่ปริมาณไวรัสสูง
วันนี้ (7 เม.ย.) เฟซบุ๊ก Anan Jongkaewwattana ของ ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยนวัตกรรมสุขภาพสัตว์และการจัดการ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (BIOTEC) ได้ผลกราฟผลการเปรียบเทียบไวรัส โควิด-19 พร้อมระบุข้อความว่า “เป็น สายพันธุ์อังกฤษ จริงๆ ครับ”
สำหรับกราฟดังกล่าวเป็นของศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ได้ทำการตรวจพันธุกรรม SARS-CoV-2 จากตัวอย่างบางแค และทองหล่อ ด้วยวีธี Specific probe Real Time RT-PCR เพื่อแยกสายพันธุ์อังกฤษ กับสายพันธุ์ปกติ (Wid type)
แสดงให้เห็นว่า สายพันธุ์ที่พบในการระบาดขณะนี้นั้น ของสถานบันเทิงที่ทองหล่อเป็นสายพันธุ์อังกฤษ ที่จะทำให้เกิดการระบาดได้รวดเร็วขึ้นกว่าสายพันธุ์ปกติ 1.7 เท่าและปริมาณไวรัสในผู้ป่วยถึงแม้จะไม่มีอาการ จะมีปริมาณไวรัสที่สูงมาก จากการสังเกตจากค่า Ct ของสายพันธุ์สถานบันเทิงก็เห็นได้ชัด
“คลัสเตอร์สถานบันเทิง” ติด โควิด-19 แล้ว 291 ราย
ด้าน พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. กล่าวในวันนี้ว่า สรุปผู้ติดเชื้อที่เชื่อมโยงกับคลัสเตอร์สถานบันเทิงในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม – 6 เมษายน 2564 รวมทั้งสิ้น 291 ราย แบ่งเป็น
- กรุงเทพฯ 200 ราย
- ชลบุรี 23 ราย
- สมุทรปราการ 18 ราย
- สุพรรณบุรี 14 ราย
- นนทบุรี 13 ราย
- นครปฐม 7 ราย
- ปทุมธานี 5 ราย
- เชียงใหม่ ชุมพร สมุทรสาคร จังหวัดละ 2 ราย
- เลย กาญจนบุรี ตาก ลพบุรี สระแก้ว จังหวัดละ 1 ราย
ตัวเลขดังกล่าว ยังไม่รวมกับผู้ติดเชื้อในจังหวัดยโสธร เพชรบูรณ์ เชียงราย ที่เพิ่งมีการรายงานเข้ามาว่า เชื่อมโยงกับคลัสเตอร์สถานบันเทิงในกรุงเทพฯ
อย่างไรก็ตาม ทางรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาลได้หารือร่วมกับกรุงเทพมหานคร ในการออกคำสั่งปิดสถานบันเทิงใน 3 เขต ได้แก่ วัฒนา คลองเตย และบางแค ระหว่างวันที่ 6 – 19 เมษายน รวมทั้งได้มีการทบทวนเพิ่มความเข้มข้นมาตรการในการกำกับดูแล และเพิ่มความถี่ในการตรวจสถานบันเทิง
พญ.อภิสมัย กล่าวอีกว่า สืบเนื่องจากข้อเสนอจากที่ประชุมศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุข (EOC) เมื่อวันที่ 5 เมษายน ที่ผ่านมา ที่หารือถึงการทบทวนปรับระดับพื้นที่ กำหนดพื้นที่ทั่วราชอาณาจักร โดยเสนอให้ที่ประชุม ศบค. ชุดเล็กพิจารณา
ที่ประชุม ศบค. ชุดเล็ก เห็นว่า ตามมาตรการเดิมได้ให้อำนาจกระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงมหาดไทยในการหาข้อสรุปที่มีประสิทธิภาพในการควบคุมการแพร่ระบาด ดังนั้น จะยังไม่มีการปรับพื้นที่หรือปรับสี ขอให้ทั้ง 2 กระทรวงหารือในรายละเอียดกันก่อน ซึ่งจะมีการหารือกันภายใน 1-2 วันนี้
อย่างไรก็ตาม ตามประกาศ ศบค. ฉบับที่ 18 และ 15 ซึ่งออกตามมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ได้ระบุชัดเจนว่า ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ มีอำนาจเข้าตรวจสอบสถานที่ให้เป็นไปตามแนวทางป้องกันโรค ให้คำแนะนำ ตักเตือน ห้ามปราม กำหนดช่วงเวลาให้มีการแก้ไขปรับปรุง เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด และมีอำนาจเสนอให้สั่งปิดชั่วคราว
นอกจากนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้ว่าราชการ กทม. สามารถพิจารณาปรับระดับพื้นที่สถานการณ์ย่อยในเขตพื้นที่ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของ โควิด-19 ในห้วงต่าง ๆ ได้ และเมื่อในแต่ละพื้นที่ มีความเห็นอย่างไร สามารถดำเนินการได้
ทั้งนี้ ขอให้ติดตามการรายงานของจังหวัดอย่างใกล้ชิด ส่วนการใช้ยาแรงปิดประเทศไม่ถือว่ามีประสิทธิภาพ เพราะพื้นที่จะเข้าใจปัญหาของตัวเอง และสามารถกำหนดมาตรการได้ดีที่สุด
พญ.อภิสมัย เปิดเผยด้วยว่า ในส่วนของ กทม.ได้มีการรายงานผลการค้นหาเชิงรุก จากกรณีการแพร่ระบาดในสถานบันเทิงไปแล้ว 6,000 กว่าราย เฉพาะเมื่อวันที่ 6 เมษายนที่ผ่านมา รถตรวจโรคติดเชื้อชีวนิรภัยพระราชทาน ตรวจไปแล้วกว่า 1,500 ราย
ดังนั้น จึงขอความร่วมมือไปยังประชาชน ที่เข้าไปยังสถานบันเทิงต่าง ๆ ให้เข้าไปยัง เว็บไซต์ bkkcovid19 เพื่อเข้าไปทำการประเมินความเสี่ยง ถ้าพบว่ามีความเสี่ยงสูงจะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อไป เพื่อขอให้เข้าตรวจเชื้อทันที และระหว่างผลยังไม่ออก หรือเป็นลบครั้งที่หนึ่ง จะขอให้กักตัวก่อน
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘อุดรธานี’ กางมาตรการตรึงโควิด ติดเชื้อเพิ่ม 1 ราย โยงคลัสเตอร์ทองหล่อ
- ‘ประยุทธ์’ สั่งเร่งฉีดวัคซีนป้องกันโควิดให้ครอบคลุม ย้ำ! ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
- ครม. เคาะ ‘สมบูรณ์ สุนันทพงศ์ศักดิ์’ ผงาดผู้ว่าการประปาส่วนภูมิภาค