โควิด-19 ยังกระทบหนัก เดือนมี.ค. เงินเฟ้อหดตัว 0.08% ต่ำสุดรอบ 13 เดือน ขณะที่พาณิชย์คาดการณ์ปีนี้ยังอยู่ในกรอบ 0.7 – 1.7%
กระทรวงพาณิชย์ รายงานอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือนมีนาคม 2564 เทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน ลดลงร้อยละ 0.08 (YoY) เป็นการหดตัวในอัตราที่ต่ำที่สุดในรอบ 13 เดือน นับตั้งแต่สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง
ในไตรมาสแรก เงินเฟ้อลดลงร้อยละ 0.54 ซึ่งเป็นผลจากกลุ่มพลังงานปรับตัวสูงขึนร้อยละ 1.35 จากการสูงชึ้นของราคาขายปลีกน้ำมันเชือเพลิงร้อยละ 17.18 เนื่องจากโอเปกและชาติพันธมิตร (โอเปกพลัส) ลดกําลังการผลิตของกลุ่มเหลือที่ระดับ 7.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ไปจนถึงเดือนเมษายนนี้
ขณะที่กลุ่มอาหารสดยังคงหดตัวต่อเนื่องที่ร้อยละ 1.06 จากการลดลงของ ข้าวสาร ไก่สด ไข่ไก่ และผักสด เป็นสําคัญ ส่วนเนื้อสุกรมีราคาสูงขึนต่อเนื่อง เนื่องจากสุกรโตช้าในฤดูร้อน และมีต้นทุนป้องกันโรค ASF มากขึน
สําหรับราคาอาหารสําเร็จรูป เครื่องประกอบอาหาร และของใช้ส่วนบุคคลยังทรงตัวและเปลี่ยนแปลงตามโปรโมชั่นของห้างโมเดิร์นเทรด นอกจากนี้จากมาตรการคนละครึ่งที่หมดในเดือนมีนาคม 2564 รวมถึง มาตรการเราชนะ ส่งผลต่อกําลังซือของประชาชนและทําให้การค้าขายคึกคักมากขึน
ทังนี เมื่อหักอาหารสดและพลังงานออกแล้ว เงินเฟ้อพื้นฐานขยายตัวที่ร้อยละ 0.09 (จากเดือนก่อนที่ขยายตัวร้อยละ 0.04) และไตรมาสแรกของปี 2564 เงินเฟ้อทั่วไปลดลงร้อยละ 0.53 (YoY) และเงินเฟ้อพื้นฐานสูงขึ้นร้อยละ 0.12 (YoY)
ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อไตรมาสที่ 2 ปี 2564 มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น จากอุปสงค์ทั้งในและต่างประเทศที่ปรับตัวดีขึ้นตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่มีแนวโน้มคลี่คลายลง การฉีดวัคซีนที่ขยายวงกว้างมากขึน รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐในมิติต่าง ๆ ทังด้านการท่องเที่ยวโดยกําหนดให้มีวันหยุดเพิ่มเติม การเพิ่มกําลังซื้อและกระตุ้นให้เกิดการจับจ่ายใช้สอย ซึ่งจะส่งผลต่อความต้องการบริโภคสินค้า และบริการภายในประเทศในระยะต่อไป
นอกจากนี้ ราคาพลังงานโลกที่มีแนวโน้มสูงขึ้น จากการขยายระยะเวลาปรับลดกําลังการผลิตของผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ และอุปสงค์ด้านพลังงานที่เพิ่มขึ้นทั่วโลกตามสถานการณ์เศรษฐกิจที่เริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป
ทั้งนี้ ในเดือนมีนาคม 2564 กระทรวงพาณิชย์ ได้ปรับสมมุติฐานสําหรับคาดการณ์เงินเฟ้อให้เหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน โดยคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อในปี 2564 จะยังคงเคลื่อนไหวในกรอบเดิมที่คาดการณ์ไว้ในเดือนธันวาคม 2563 คือ ระหว่างร้อยละ 0.7 – 1.7 (ค่ากลางอยู่ที่ 1.2) ซึ่งเป็นอัตราที่น่าจะช่วยสนับสนุนให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้อย่างเหมาะสมและต่อเนื่อง หากสถานการณ์ เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสําคัญจะมีกํารทบทวนอีกครั้ง