COVID-19

สธ. ยันไม่พบ ‘รัฐมนตรี’ เที่ยวสถานบันเทิงกับ ‘ทูตญี่ปุ่น’ ติดโควิด

กระทรวงสาธารณสุข ยืนยัน ตรวจสอบโรค ไม่พบ “รัฐมนตรี” เที่ยวสถานบันเทิงกับ “ทูตญี่ปุ่น” ติดโควิด เตือนสถานบริการ-สถานบันเทิง ปฏิบัติตามมาตรการป้องกัน และควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด หากละเมิดอาจโดนสั่งปิด 

นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข  กล่าวในวันนี้ (4 เม.ย.) ถึงกระแสข่าวที่ออกมาว่า มีรัฐมนตรีไปติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จากสถานบันเทิง และเรื่องเอกอัครราชทูตญี่ปุ่น ติดเชื้อโควิดว่า ทางสถานทูตญี่ปุ่น รายงานแล้วว่า เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย ติดเชื้อโควิด-19 รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง และขณะนี้อาการทรงตัวค่อนข้างดี แต่ยังต้องติดตามอาการอย่างใกล้ชิด

ส่วนเรื่องรัฐมนตรีนั้น การตรวจสอบพบว่า ไม่ได้มีรัฐมนตรีในคณะรัฐมนตรีชุดนี้ ไปเที่ยวสถานบันเทิง กับทูตญี่ปุ่นแต่อย่างใด

20200506 PRG

สำหรับกระแสข่าวที่ว่า รัฐมนตรีที่ติดเชื้อไปสถานบันเทิง และไม่ได้ฉีดวัคซีน ซึ่งหลายคนชี้ไปว่าเป็น นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เพราะยังไม่ได้ฉีดวัคซีนนั้น  การสอบถามจากฝ่ายญี่ปุ่น ได้รับการยืนยันว่า นายสุพัฒนพงษ์ ไม่ได้ไป และจากการสอบสวนโรคพบว่า ไม่ได้มีรัฐมนตรีรายใด ไปเที่ยวสถานบันเทิงทองหล่อ กับทูตญี่ปุ่นแต่อย่างใด

อย่างไรก็ดี เพื่อให้พี่น้องประชาชนสบายใจ  นายสุพัฒนพงษ์ ยินดีที่จะไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 วันนี้ ที่โรงพยาบาลอุดรธานี เนื่องจากขณะนี้ อยู่ระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ ที่จังหวัดบึงกาฬ และจังหวัดอุดรธานี

น.พ.โอภาส กล่าวด้วยว่า มาตรการเฝ้าระวัง และป้องกันควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สำหรับสถานบริการ สถานบันเทิง กำหนดให้จำกัดจำนวนผู้ใช้บริการ 1 คนต่อ 2-4 ตารางเมตร ให้สแกนไทยชนะ ให้รักษาระยะห่างระหว่างบุคคลของผู้ใช้บริการ มีการบริหารจัดการพื้นที่ให้มีความเหมาะสมกับจำนวนคนที่ใช้บริการ ห้ามมีการเต้นรำในสถานบริการ หลีกเลี่ยงการพูดคุยใกล้ชิด/ดื่มน้ำจากแก้วเดียวกัน และให้ทำความสะอาดพื้นผิวจุดสัมผัสร่วมกันบ่อย ๆ เช่นลูกบิดหรือมือจับประตู ก๊อกน้ำ

หากสถานบริการ สถานบันเทิง ไม่ปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนด ให้เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ภายใต้คำแนะนำของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด/คณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร สั่งปิดเพื่อปรับปรุงอย่างน้อย 14 วัน

นอกจากนี้ ให้เจ้าพนักงานฯ(ปกครอง สาธารณสุข) ลงพื้นที่ตรวจสถานประกอบการประเภทผับ บาร์ และคาราโอเกะ ในพื้นที่ เพื่อเฝ้าระวัง ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 พร้อมทั้งสร้างความเข้าใจ และขอความร่วมมือเจ้าของสถานประกอบการ ให้ปฏิบัติตามมาตรการที่กรุงเทพมหานครกำหนดอย่างเคร่งครัด

ทั้งยังมีการกำหนดให้มีการตรวจหาเชื้อ RT-PCR ในพนักงานประจำร้าน อย่างสม่ำเสมอ โดยนักเที่ยว หรือประชาชน ที่เดินทางไปในพื้นที่เสี่ยง หรือมีความกังวลว่ามีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด-19 ให้ทำแบบประเมินความเสี่ยง พร้อมทั้งเฝ้าระวัง สังเกตุอาการตนเอง และกักตัวเป็นเวลา 14 วัน

หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามได้ที่ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินกรุงเทพมหานคร (EOC) หรือสายด่วนกรมควบคุมโรค 1422

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo