โควิดวันนี้ 3 เม.ย. นับถึงเวลา 09.00 น. ทั่วโลกมี ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 อยู่ที่ 130,807,190 คน รักษาตัวหายแล้ว 105,300,856 คน และมียอดสะสมผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 2,850,385 ราย
สหรัฐ มียอด ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สูงสุดในโลก (31,314,625) รองลงมาคือ บราซิล (12,912,379) ตามด้วย อินเดีย (12,391,129) ฝรั่งเศส (4,741,759), รัสเซีย (4,563,056), สหราชอาณาจักร (4,353,668), อิตาลี (3,629,000) ตุรกี (3,629,000) และ สเปน (3,291,394)
ส่วน ประเทศที่มีจำนวน ผู้ติดเชื้อมากกว่า 2 ล้านราย ได้แก่ เยอรมนี โคลอมเบีย อาร์เจนตินา โปแลนด์ และเม็กซิโก โดยประเทศที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มากกว่า 1 ล้านราย ได้แก่ อิหร่าน ยูเครน เปรู แอฟริกาใต้ สาธารณรัฐเช็ก อินโดนีเซีย เนเธอร์แลนด์ และเปรู
นอกจากนี้ สหรัฐยังเป็นประเทศที่มีจำนวนผู้เสียชีวิตสูงสุดในโลก (567,610) ตามมาด้วยบราซิล (328,366), เม็กซิโก (203,664), อินเดีย (126,816) และสหราชอาณาจักร (126,816)
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐ เปิดเผยว่า ประชาชนที่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้วนั้นสามารถเดินทางได้อย่างปลอดภัยในกรณีที่มีความเสี่ยงต่ำ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ CDC ได้ระงับการทบทวนคำแนะนำมาหลายสัปดาห์เกี่ยวกับการเลี่ยงเดินทางที่ไม่มีความจำเป็นทั้งหมด
ทั้งนี้ การประกาศยกเลิกคำแนะนำให้ชาวอเมริกันทุกคนเลี่ยงการเดินทางที่ไม่จำเป็นนั้น จะเป็นแรงหนุนต่ออุตสาหกรรมการเดินทางของสหรัฐซึ่งยังคงเผชิญความยากลำบากนับตั้งแต่โรคโควิด-19 เริ่มระบาดเมื่อต้นปี 2563
คำแนะนำใหม่ของ CDC ยังรวมถึงการอนุญาตให้ปู่ย่าตายายชาวอเมริกันที่ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว สามารถขึ้นเครื่องบินเพื่อเดินทางไปเยี่ยมหลานๆ ได้
นอกจากนี้ คำแนะนำใหม่ของ CDC ยังระบุด้วยว่า ประชาชนที่ฉีดวัคซีนโควิดครบแล้วไม่จำเป็นต้องเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ก่อนหรือหลังการเดินทาง และไม่จำเป็นต้องกักกันตัวเองหลังการเดินทางด้วย
วันนี้ กระทรวงสาธารณสุขฟิลิปปินส์ เปิดเผยว่า ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่มากเป็นประวัติการณ์ถึง 15,310 ราย ส่งผลให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อในประเทศอยู่ที่ 771,497 ราย สูงสุดเป็นอันดับ 2 ของอาเซียน รองจากอินโดนีเซีย โดยจำนวนผู้เสียชีวิต จากไวรัสโควิด-19 เพิ่มขึ้น 17 ราย มาอยู่ที่ 13,320 ราย มากสุดเป็นอันดับ 2 ในอาเซียนเช่นกัน
ทั้งนี้ กรุงมะนิลา และอีก 4 จังหวัดใกล้เคียง อยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์เป็นเวลา 1 สัปดาห์ จนถึงวันพรุ่งนี้ (4 เม.ย.) โดยฟิลิปปินส์เริ่มฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้แก่ประชาชน ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมา ใช้วัคซีนไปแล้ว 2.525 ล้านโดส ส่วนใหญ่เป็นวัคซีนของบริษัทซิโนแวค จากจีน
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- สงกรานต์ปีนี้ หนักเกินคาด เงินสะพัดเบา 1.1 แสนล้าน ต่ำสุดในรอบ 9 ปี
- ฟุ้ง! คนอังกฤษ 50% มีแอนติบอดีโควิด-19 แต่มีเสียงเตือนยังไม่พ้นจุดอันตราย
- ติดเชื้อ ‘โควิด-19’ สาเหตุการเสียชีวิตสูงสุดอันดับ 3 ในสหรัฐ