Lifestyle

กรมควบคุมโรคตามติด ‘โรคหัดเยอรมัน’ ในญี่ปุ่น

กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้ติดตาม และประเมินสถานการณ์ของโรคหัดเยอรมันในต่างประเทศอย่างใกล้ชิด โดยแนะนำ ประชาชนให้ปรึกษาแพทย์ก่อนเดินทางไปประเทศที่มีการระบาดของโรค โดยเฉพาะในหญิงตั้งครรภ์ ซึ่งมีความเสี่ยงกว่ากลุ่มอื่น

ส่วนประเทศไทยมีผู้ป่วยโรคหัดเยอรมันลดลงอย่างต่อเนื่อง ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาพบเฉลี่ยประมาณ 200 รายต่อปี

นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย

นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า กรณีที่มีรายงานข่าวการระบาดของโรคหัดเยอรมันที่ประเทศญี่ปุ่น จากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น พบว่า ในปีนี้ประเทศญี่ปุ่น มีรายงานผู้ป่วยโรคหัดเยอรมันเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ตั้งแต่เดือนสิงหาคม จนถึงปัจจุบัน ข้อมูล ณ วันที่ 24 ตุลาคม 2561 มีรายงานทั้งหมด 1,468 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต

ส่วนสถานการณ์ของโรคหัดเยอรมันในประเทศไทย ข้อมูลจากสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค พบว่ามีรายงานผู้ป่วยลดลงอย่างต่อเนื่อง ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา เฉลี่ยประมาณ 200 รายต่อปี ในปี 2560 ตลอดทั้งปีมีผู้ป่วย 261 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต

สำหรับปี 2561 ตั้งแต่ 1 มกราคม – 25 ตุลาคม 2561 มีรายงานผู้ป่วย 269 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเช่นกัน ซึ่งในขณะนี้กรมควบคุมโรค ได้ติดตามสถานการณ์ของโรคหัดเยอรมันในต่างประเทศอย่างใกล้ชิด และทำการประเมินความเสี่ยงเพื่อกำหนด และดำเนินมาตรการที่เหมาะสม

วัคซีน 3

นพ.สุวรรณชัย กล่าวต่อไปว่า โรคหัดเยอรมัน เป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส ติดต่อจากการไอ จาม หรือใกล้ชิดกับคนที่ติดเชื้อ ส่วนอาการสำคัญ คือมีไข้ร่วมกับมีผื่นประมาณ 2-3 วัน ทั้งนี้ยืนยันว่าโรคนี้ไม่ใช่โรคติดต่อร้ายแรง แต่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษในกลุ่มหญิงตั้งครรภ์ เพราะหากหญิงตั้งครรภ์ติดเชื้อแล้ว ทารกในครรภ์อาจเกิดภาวะพิการแต่กำเนิด หูหนวก ตาเป็นต้อกระจก เป็นโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด มีภาวะผิดปกติทางสมอง และอวัยวะภายในไม่สมบูรณ์ได้

สำหรับมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขที่ดำเนินการ  คือการให้วัคซีนเพื่อป้องกันโรค ซึ่งประเทศไทยเริ่มมีการให้วัคซีนป้องกันโรคหัดเยอรมัน ตั้งแต่ปี 2529 แก่เด็กนักเรียนหญิง ชั้น ป.6  ซึ่งปัจจุบันกลุ่มนี้อายุประมาณ 44 ปี  และในปี 2536 มีการให้วัคซีนทั้งนักเรียนชายและหญิง ป.1  ปัจจุบันกลุ่มนี้อายุประมาณ 32 ปี

มาตรการดังกล่าวครอบคลุมของการได้รับวัคซีนป้องกันโรคหัดเยอรมันสูงมากกว่า 95 %  นอกจากนี้ กรมควบคุมโรคได้เพิ่มความเข้มข้นในมาตรการเฝ้าระวังที่ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศมาโดยตลอด เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน

วัคซีน 5

ทั้งนี้กรมควบคุมโรค ขอให้คำแนะนำผู้ที่จะเดินทางไปยังประเทศที่มีการระบาดของโรคหัดเยอรมัน ดังนี้

1.ติดตามข้อมูลสถานการณ์และพื้นที่การระบาดของโรคหัดเยอรมัน ก่อน และขณะเดินทางอย่างใกล้ชิด

2.ประชาชนที่ยังไม่เคยได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคหัดเยอรมัน หรือไม่เคยป่วยเป็นโรคหัดเยอรมัน ควรปรึกษาแพทย์เพื่อพิจารณาการฉีดวัคซีนป้องกันโรคหัดเยอรมันอย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนการเดินทาง

3.หญิงตั้งครรภ์ควรปรึกษาแพทย์เรื่องการป้องกันตนเอง ก่อนที่จะเดินทางไปยังประเทศที่มีการระบาด และควรหลีกเลี่ยงเข้าไปยังพื้นที่ระบาดของโรคถ้าไม่เคยฉีดวัคซีนป้องกัน หรือไม่เคยเป็นหัดเยอรมันมาก่อน

4.ผู้ที่เดินทางกลับจากประเทศที่มีการระบาด ควรสังเกตอาการ และหลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ชิดกับหญิงตั้งครรภ์และเด็กเล็กอายุน้อยกว่า 9 เดือน

หากมีอาการไข้ออกผื่นภายใน 21 วันควรไปพบแพทย์และแจ้งประวัติการเดินทาง

“โรคหัดเยอรมันสามารถป้องกันได้ด้วยวัคซีน ซึ่งตามแผนงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคของกระทรวงสาธารณสุข จะฉีดวัคซีนรวมป้องกันโรคหัด-คางทูม-หัดเยอรมัน โดยเข็มแรกเมื่อเด็กอายุ 9 เดือน และเข็มที่สองเมื่ออายุ 2 ปีครึ่ง หากยังไม่ได้รับวัคซีนหรือรับวัคซีนไม่ครบตามเกณฑ์ ผู้ปกครองสามารถพาไปรับวัคซีนได้ที่สถานบริการสาธารณสุขของรัฐทุกแห่ง สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422” นพ. สุวรรณชัย กล่าว

Avatar photo