ราคาทองคำโลกฟื้นตัวทางเทคนิค พุ่งขึ้นกว่า 1% นักลงทุนกลับมาไล่ซื้อ แม้ว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรทรงตัวในระดับสูงและเงินดอลลาร์แข็งค่า
ในไตรมาสแรก สิ้นสุดไปเมื่อวันที่ 31 มี.ค.ที่ผ่านมา ราคาทองคำร่วงกว่า 9% และเป็นไตรมาสที่ราคาทองคำร่วงหนักที่สุดในรอบเกือบ 5 ปี ตั้งแต่ปี 2559
ราคาทองคำตลาดสปอตพุ่งขึ้น 1.6% อยู่ที่ 1,711.27 ดอลลาร์/ออนซ์ในตลาดนิวยอร์ก หลังจากร่วงลงหนักไปแตะระดับต่ำสุดตั้งแต่วันที่ 8 มี.ค. อยู่ที่ 1,677.61 ดอลลาร์/ออนซ์ และราคาทองคำฟิวเจอร์เพิ่มขึ้น 1.8% อยู่ที่ 1,715.60 ดอลลาร์/ออนซ์
ราคาทองคำในตลาดนิวยอร์กฟื้นตัวทางเทคนิค แม้ว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ อายุ 10 ปียังแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 1 ปี และค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าในรอบ 5 เดือน
นักลงทุนเข้าซื้อ โดยประเมินว่าราคาทองคำน่าจะถึงจุดต่ำสุด หากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรและค่าเงินดอลลาร์ทรงตัวอยู่ได้ และยังไม่ขยับขึ้น ในขณะที่คาดว่าเงินเฟ้อของสหรัฐจะทะยานขึ้นจากแผนลงทุนโครงสร้างฟื้นฐานของนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐ มูลค่ามหาศาลจะผลักดันให้เงินเฟ้อทะยานขึ้น
เทรดเดอร์กล่าวว่า “แผนลงทุนของสหรัฐจะดันเงินเฟ้อพุ่งขึ้น นั่นเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำ ตลาดกำลังจับที่ระดับ 1,680 ดอลลาร์/ออนซ์ เป็นระดับที่น่าลงทุน จึงเกิดแรงซื้อคืน แต่ตลาดยังผันผวน”
อ่านข่าวเพิ่มเติม:
- ทองคำร่วงหนัก หลุด 1,700 ดอลลาร์ จับตาหลุด 1,670 ร่วงยาวแตะ 1,600
- ทองคำร่วงหนักเกือบ 2% อยู่ที่ 1,684.64 ดอลลาร์/ออนซ์ เสี่ยงลงต่อยาว
- ราคาทองปิดวันนี้ลด 100 บาท เทรดเดอร์ชี้ยังขาลง แนวรับ 1,665 ดอลลาร์