Entertainment

ตุ้ย เกียรติกมล เปิดใจ! ชีวิตนี้ไม่อยากแต่งงาน-มีลูก เพราะเคยเจ็บปวดกับความรัก?

ตุ้ย เกียรติกมล เปิดสาเหตุชีวิตนี้ ไม่อยากแต่งงาน&มีลูก ก็เพราะเคยเจ็บปวดกับความรักเพราะความเจ้าชู้ของตัวเอง

เผยเงินทุกบาทที่หามาได้ขอยกแม่เก็บทั้งหมด

ตุ้ย AF หรือ เกียรติกมล ล่าทา ผู้ชายที่พูดชัดว่าปกติแล้วไม่คุยเรื่องความรัก แต่เมื่อได้มาเป็นแขกรับเชิญคนพิเศษในรายการ Club Friday Show ผลิตโดย CHANGE2561 ได้เปิดใจมากที่สุดให้ได้รู้จักอีกมุมหนึ่งของเขา ซึ่งบางมุมหลายคนอาจจะจดจำว่า ตุ้ย คือ แบดบอยหรือเปล่า แต่อยากจะบอกในหลายมุมของ ตุ้ย มีมากมายเหลือเกินที่ทำให้เราได้ยิ้มไปตามๆกัน โดยเฉพาะความรักที่ ตุ้ย มีให้กับครอบครัว

batch 11 12

ถาม เรื่องราวความรักของ ตุ้ยAF ที่ครั้งหนึ่งมีแฟนพร้อมกัน 2 คน แล้ว 2 คนนั้นเขารู้ไหม

ตุ้ย :  ตอนนั้นพอออกมาปุ๊บเราก็บอกกับผู้จัดการก่อนว่าพี่ผมมีผู้หญิงคนนี้นะ เพื่อให้เขาคอยจัดการให้หน่อยเพราะว่าเราเริ่มออกสู่สาธารณชนแล้วก็ต้องให้เขาช่วย เพราะว่าช่วงนั้นมันเป็นช่วงที่คาบต่อมาจากร้องเพลงกลางคืนมันก็จะเดือดพอสมควร ถามว่าตอนนั้นแฟนสองคนรู้ไหมเป็นมุมแบบนี้มากกว่าครับ เหมือนจะยอมก็ไม่ได้ยอม มันก็จะเป็นอะไรแบบนี้ที่มาติดๆผมแบบนั้นไป (ซึ่งที่เราต้องบอกผู้จัดการไปเพราะว่าเขากลัวด้วยเดี๋ยวลั่น)

ถาม แล้ว ณ ตอนนั้น ตอนออกมาความรักของ ตุ้ย เปลี่ยนไปด้วยไหมเพราะเราไม่ได้เป็น ตุ้ย คนเดิม แล้วเรากลับไปเจอผู้หญิงสองคนนั้นเป็นยังไงบ้าง

ตุ้ย : ผมก็เป็นปกตินะครับ ซึ่งไม่ได้ลืมตัว ก็ยังคบเขาอยู่ซึ่งก็พักหนึ่งครับ เพราะเอาจริงๆผู้หญิงคนนี่เขาก็เป็นจุดเริ่มต้นของการที่ทำนายผมสมัยตั้งแต่ร้องเพลงกลางคืน เขาชอบดูดวงแล้วเขาก็เอาดวงของผมไปดูด้วย โดยที่ผมไม่ได้เข้าไปด้วย แล้วหมอคนนั้นเขาก็ทักตั้งแต่สมัยที่ผมร้องเพลงกลางคืนว่าแฟนเธอคนนี้จะดังในอนาคต เราก็คิดว่าจะดังได้ยังไง จนมาเป็น ตุ้ย AF ข้อความที่หมอพูดตอนนั้นก็กลับมาว่าเราดังจริงอย่างที่เขาพูด แล้วผู้หญิงคนนี้เขาก็กลับไปหาหมอคนเดิมว่าเข้าไปแล้วจะอยู่ที่เท่าไหร่ เขาก็บอกมาว่า 1 ใน 5 อันนี้ที่เขาเล่าให้ฟังนะครับหลังจากที่เราออกมาจากบ้านแล้ว แล้วหมอ ก็บอกว่าถ้าเราได้ตำแหน่งให้เรากลับไปหาพอออกมาเราก็ไปหา พอเจอหมอก็ทักเขาก็บอกว่าคนรักก็มี คนเกลียดก็มี เดี๋ยวแม่ช่วยเขาก็แทนตัวเองนะครับ แล้วเขาก็ให้เราเอารูปไปให้เขาแล้วเขาก็ให้เชือกถักเหมือนถักเปียครับ แล้วตรงกลางเชือกก็จะเป็นเหมือนตะกรุดอะไรสักอย่างแล้วเขาก็ให้เราใส่ไว้ แล้วจุดเปลี่ยนก็เกิด (แต่เอาจริงๆผมก็ยังไม่เชื่อจนทุกวันนี้) แล้วพอหลังจากออกมาผมก็ใช้ชีวิตอยู่กับผู้หญิงคนนี้แบบเงียบๆ แม่ก็มาคอยดูผมก็อยู่บ้านด้วยกัน 3 คน คือ ผม แม่ ลูกสะใภ้ (ตอนนั้นๆ) แล้วพออยู่ด้วยกันผู้หญิงเริ่มมีปากเสียงกับแม่ของผม แล้วแม่ก็เตือนมาต่อว่าผม

เราก็แบบว่าแม่ เฮ้ย !! แม่อะไรจะมาอย่างนี้ได้ไง เหมือนไม่เชื่อแม่ มีปากเสียงจนถึงขนาด สิ่งที่ผมไม่เคยทำใส่แม่เลยอะไรความรุนแรงต่างไม่เคยทำใส่เลย ตอนนั้น ผมโมโหแม่มากผมเอากระป๋องแป้งปาลงพื้นแล้วผมก็ออกไปถ่ายละคร แล้วแม่ก็เริ่มสงสัย ตอนนั้นผมถ่ายภาพยนตร์เรื่องแรกก็มีไปต่างจังหวัด เชือกที่ใส่อยู่ที่ข้อมือมีคราวขาด ผมก็ถอดไว้บ้านแล้วแม่เขาก็เอาไปให้ญาติช่วยดูแม่ก็เลยรู้ว่าเราโดนทำของใส่ แต่ก็แปลกพอผมถอดเชือกนี้ผมก็ไม่อยากกลับไปอยู่ที่เดิมอีกเลยแล้วบอกแม่ว่าอยากกลับไปอยู่บ้านไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว จนมาได้คำตอบว่าผู้หญิงคนนี้ก็ส่งเชือกแบบเดิมมาที่บ้าน พร้อมกระดาษ 1 ใบที่เขาเขียนมาตอนที่ผมคงเขาเรียกหมูน้อยกับหมีน้อย เขาเขียนมาในกระดาษว่า หมูน้อย มีน้อยเอามาไว้ต่างหน้านะ ถ้าคิดถึงหมีน้อยก็ไปที่หน้ากระจกแล้วอ่านข้อความนี้นะ ผมก็ทิ้งเชือกแล้วก็ไม่ยุ่งอะไรอีกเลยให้แม่เอาไปทิ้ง แต่เราก็หาข้อสรุปไม่ได้แต่มันก็เป็นเรื่องราวหนึ่งที่มันผ่านเข้ามาในชีวิตและก็ไม่เคยเจอ ซึ่งพอเรากลับมาอยู่บ้านเราก็ขอโทษแม่ในสิ่งที่เราทำไปวันนั้นครับ และเราก็ไม่เคยทำแบบนั้นอีกเลยเพราะว่าผมไม่ใช่คนก้าวร้าวกับแม่อยู่แล้ว

batch 12 8

ถาม จริงหรือเปล่าที่ ตุ้ย โครตเจ้าชู้เลย

ตุ้ย : อย่าเรียกว่าเจ้าชู้เลยครับ เรียกว่าไม่มั่วแต่ทั่วถึง เพราะด้วยความที่เราร้องเพลงกลางคืน (อันนี้ไม่ใช่ข้ออ้างนะครับ) ที่เราไปร้องที่แรกก็เป็นค็อกเทลเลานจ์ ซึ่งผู้หญิงก็อยู่ที่นั้นก็เยอะ อย่างผมร้องเพลงเสร็จห้าทุ่มเที่ยงคืน แต่น้องๆเขายังทำงานอยู่ในนั้นเขาเลิกประมาณตี 1 ผมก็จะเอามือถือมาเลื่อนดูว่าวันนี้ไปส่งคนไหนดีนะน้องๆในนั้น จนไปชนตอคือ ไปเจอตัวแม่คือเป็นตัวท็อปในร้าน ก็ไปไหนต่อไม่ได้แล้วก็ต้องมาจบกับคนนี้เพราะถ้าผมไปยุ่งกับคนอื่นอีกคนนี้ก็จะไปตามตบผู้หญิงคนนั้นคนนี้ (แล้วฮามากตอนที่ผมเป็น ตุ้ยAf ผู้หญิงตัวแม่คนนี้ เขาโทรกลับมาหาผม ) ว่า ตุ้ย เนี่ยรู้ไหมเวลาที่เสี่ยคนไหนมาเที่ยวเขาก็ให้เสี่ยทุกคนโหวตให้เราแล้วบอกเลยว่าเนี่ยผัวเก่า (หัวเราะ) ก็คะแนนที่ผมได้มาส่วนหนึ่งก็จากเขา

ถาม แล้วมีรักครั้งไหนไหมที่เราคิดว่าเราไม่น่าทำแบบนั้นเลย เสียดาย เสียใจ มากกับสิ่งที่เราทำ

ตุ้ย : ก็คงตอนเป็น ตุ้ยAF เนี่ยแหละครับเราก็จะเจอคนเยอะ มีคนเข้ามาหาเราเยอะ มีผู้หญิงเข้ามาเองบ้าง เราไปเที่ยวผับเราก็ไปเจอมาบ้าง แต่สุดท้ายไปเจออยู่คนหนึ่งที่คบกันแล้ว ช่วงนั้นเราเหมือนลืม (คือเราไม่ได้มัวเมาชื่อเสียงนะครับ) เพราะเป็นช่วงที่คนเข้ามาเยอะด้วย เราก็เลยจะไม่ค่อยเห็นความสำคัญของเขาเท่าไหร่อยากจะเจ้าชู้แต่เจ้าขู้โง่ๆเราก็คบคนนี้เป็นแฟนอยู่ แล้วเราก็คิดจะเจ้าชู้อยู่ อย่างเราจะไปร้านเหล้ากับเพื่อนเราก็บอกเขาว่าเดี๋ยวเราไปกับเพื่อนนะ เขาก็ให้ไปแต่เรามีแผนอยู่แล้วว่าเราจะไปหาผู้หญิงอีกคนพอร้านเหล้าปิดเราก็บอกเขาว่าเราไปร้านข้าวต้มต่อนะแล้วก็ปิดมือถือเลยเพื่อไปหาผู้หญิงอีกคน แล้วเช้ามาเราก็บอกว่าแบตหมดแล้วเขาก็ทำเป็นเหมือนไม่รู้เราก็คิดว่าเขาไม่รู้จริงๆจนเขาไม่ไหวเขาก็หักดิบเราเลยบอกเลิก เราก็ เฮ้ย !! สรุปรู้เหรอ เรายังโง่อีกนะ เราก็รู้สึกผิดขอเขาคืนดี เขาก็ยืนยันว่าไม่อย่างเดียวเลยตามง้อมาก เราเสียใจร้องไห้น้ำตาแตกเลยตอนนั้น ตอนนั้นเราคิดถึงเขาตอนไม่ว่าเวลาที่เราจะไปทำงานหรืออะไรเพราะเขาไม่ยอมคืนดีกับเรา เราก็ตามง้อเขาทุกที่เขาก็ไม่ยอมกลับมาคืนนี้ ตอนนั้นผมก็กลายเป็นคนสำมะเลเทเมาอยู่ประมาณ 6-7 เดือนจากคนที่ไม่ได้ดื่มทุกวันก็กลายเป็นคนที่ดื่มหนักมาก (ซึ่งในตอนนั้นคือ ถ้าเขากลับมาคือผมอยากมีครอบครัว อยากมีลูกกับเขา) พอเลิกไปแล้วผมถึงได้รู้ว่าคนนี้คือแม่ของลูก ในยุคที่ผมอยากแต่งงานอยู่นะครับ ก็กลายเป็นว่าผมไม่ลืมเขาอยู่ประมาณ 3-4 ปี ทุกครั้งที่เรามีผู้หญิงคนใหม่เข้ามาก็ลืมได้แป๊บหนึ่งแต่พอออกจากผู้หญิงคนนั้นมาเราก็กลับมาคิดถึงเขา คือถามว่าเขายอมคุยไหมยอมคุยนะครับ แต่ไม่ยอมกลับมาดีด้วย แล้วเขาก็ไม่มีคนอื่นด้วยนะครับ

ถาม ทำไมเราถึงรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้ดีมาก เขาดีและแตกต่างจากคนอื่นๆยังไง

ตุ้ย : วัดจากผู้หญิงคนต่อๆมาที่ผมได้เจอ คือ ไม่มีใค่คดีเท่าเขาเลย ที่เขาแตกต่างจากคนอื่นคือ จริตจะก้าน ความเป็นตัวของตัวเอง เขาเป็นคนระดับเดียวกับเรา ระดับเดียวในที่นี้คือ ไม่ใช่ตำแหน่งชื่อเสียงที่ผมมีนะ คือ ผมเป็นคนรากหญ้า เขาก็เป็นแบบนั้น เขาเข้ากับพ่อแม่ผมได้ทุกอย่างมันลงตัวหมดแต่ผมเองที่ไม่ได้เห็นขอบมีค่าที่อยู่กับเรา ณ ตอนนั้น ดันเมามัวกับความที่มีผู้หญิงเข้ามาเยอะ จนลืมว่าเรามีของมีค่าอยู่พอวันหนึ่งที่เราเสียไปเราก็เสียดาย มันก็เลยกลายเป็นว่าความคิดของเราก็จะเปลี่ยนก็พยายามไม่ทำใครให้เจ็บอีก หลังจากนั้นถ้าคิดว่าจะเจ้าชู้ก็จะไม่เจ้าชู้โง่ๆ

ถาม เราได้มีโอกาสขอโทษเขาจริงจังไหม ณ ตอนนั้น

ตุ้ย : ในช่วงง้อก็ขอโทษอยู่แล้วพี่ ยิ่งกว่าขอโทษแล้ว แต่เขาจะไป ซึ่งตอนนี้หลังจากที่ขาดกันจริงๆแล้วก็รู้มาว่าเขาก็ไปในทางที่ดี เราก็ดีใจแทนเนอะ ดีใจที่เป็นบทเรียนให้เขาได้เจอผู้ชายดีๆ แต่เขาก็เป็นบทเรียนให้ผมได้เป็นคนที่ดีขึ้นเหมือนกัน จนถึงทุกวันนี้อยู่วงการมา 15 ปีมันก็เริ่มนิ่งขึ้นลืมไปเลยว่าไปจีบผู้หญิงครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ หรือเราไปนัวผู้หญิงแบบเดิมๆเมื่อไหร่ เราทำไว้ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ ก็ไม่ค่อยสรรหาแล้วตอนนี้

batch 13 7

ถาม เป็นโสดอยู่นานไหม หลังจากที่เราเลิกกับผู้หญิงคนนี้ที่มีผลต่อหัวใจเรามากๆมีผลต่อชีวิตเรามากๆซึ่งคุณพ่อคุณแม่เองก็รู้จัก คุณแม่ว่าอย่างไรบ้างที่เห็นสภาพลูกเสียใจที่เห็นผู้หญิงคนนี้เดินจากไป แล้วตอนนั้นมองมุมความรักเราเปลี่ยนไปไหม

ตุ้ย : ผมไม่เคยโสดเลยครับพี่ ไม่นานครับ แป๊ปเดียวก็มาใหม่ไม่ได้แสวงหาด้วยแต่ก็มีเข้ามาเรื่อยๆแต่เราก็ยังใช้ชีวิตเหมือนคนกลางคืนอยู่ แต่ทุกคนที่เข้ามาก็ไม่ได้เข้ามาทำให้เรารู้สึกเหมือนกับคนนี้ เพราะด้วยความที่เราไม่เจอคนที่ดีแบบนี้ผมก็เลยเริ่มรู้สึกไม่ค่อยคาดหวังกับการที่จะคบกับใครแล้วจะต้องจบด้วยการแต่งงาน มีชีวิตคู่ มีครอบครัว มีลูกด้วยกันผมก็เลยบางๆจางๆเรื่องความรักไปเลยครับ เพราะตอนนั้นเราเสียใจหนักมากจนแม่บอกว่าเราโดนของหรือเปล่า ก็มาหาคำตอบ ไม่ บ้า เขาจะทำตุ้ยทำไม เขาไม่ทำหรอก แต่พอมา ณ ตอนนี้นึกย้อนกลับไปคือ มันเป็นความรักจริงๆที่เราลืมเขาไม่ได้จริงๆเรารักเขาจริงๆเราเสียดายเขาจริงๆมันไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องอะไรเลยแต่ก็ไม่ได้โทษใคร โทษตัวเองอยู่แล้วครับ

ถาม ยิ่งนานวันที่เราได้อยู่ในวงการบันเทิง เราคงไม่ได้ใช้ชีวิตที่หวือหวารวมไปถึงเรื่องของอายุที่มากขึ้นเรื่อยๆด้วย เราได้บทเรียนอะไรจากความรักแต่ละครั้งที่ผ่านมาถึงตอนนี้

ตุ้ย : น่าจะเป็นเรื่องของความเจ้าชู้ที่ไปเรื่อย ไม่หยุดไม่หย่อน ก็เริ่มเหนื่อยครับเพราะในช่วงที่มันเดือด มันก็เหนื่อยจริงๆนะ (แต่ตอนนั้นมันไม่เหนื่อย) แต่ตอนนี้พอมองกลับไปเราก็บอกกับตัวเองว่าไม่เหนื่อยเหรอ ตุ้ย ซึ่งมันก็น่าเหนื่อยครับเพราะตอนนั้นออกมาใหม่ๆแบบสมมติทำงานเสร็จเดี๋ยวพี่ไปถ่ายคลับฟรายเดย์นะ วางสาย พี่ไปถ่ายคลับฟรายเดย์นะ  วางสาย คือ โทรบอกทุกคนที่เราคุยอยู่แบบนี้ประมาณ 6-7 คนอย่างนี้ในยุคใหม่ๆแล้วผู้จัดการที่นั่งอยู่ข้างๆเราก็บอกเราว่าไม่เหนื่อยเหรอ ตุ้ย  ต้องมานั่งบอกนั่งอะไรแบบนี้ทุกคนช่วงเดือดๆก็จะเป็นแบบนี้ แต่พอตอนนี้มานั่งนึกย้อนไปเออ .. เหนื่อยจริงๆก็เลยหยุดดีกว่า ถ้าถามว่าอยู่ในวงการมาหลายปีเคยมีแฟนในวงการไหม ไม่เลยครับ เพราะผมเลือกที่จะไม่มีเลยเพราะผมเป็นคนใจแคบเป็นคนขี้หึงครับ คนในวงการบันเทิงเขาต้องเป็นดาราไม่นางร้ายก็ต้องนางเอก และอาจจะต้องไปโดนผู้ชาย หรือดาราด้วยกันจับไม่จับมือแม้แต่ในฉากก็ไม่ได้เพราะผมขี้หึงมาก ผมรู้นะครับว่ามันเป็นการแสดงแต่ไม่ได้ครับ แต่ผมสามารถทำได้ครับ แต่แฟนผมทำไม่ได้ และอีกอันหนึ่งไม่ได้เลยคือ สมมติผมคบกับพี่ฉอด พี่ฉอดเป็นดาราด้วยกันกับผมแล้ว พี่ฉอด เลิกคบกับผมไปคบกับพี่อั๋น ไม่ได้นะครับ เพราะว่าผมไม่ยอมให้พี่ฉอดไปคบกับพี่อั๋น (ถึงจะเลิกกับผมแล้วก็ตาม) ก็ไม่ได้เพราะถ้าผมเจอผมก็ต่อยหน้าด้วย แต่มันไม่เคยเกิดขึ้นนะ ผมก็เลยเลือกว่าไม่มีแฟนในวงการบันเทิงดีกว่า เพราะไม่งั้นเรายังไงก็ต้องเจอกันอยู่ดี แล้วไม่เคยคิดหรือหวั่นไหวกับใครด้วยนะครับ แล้วทุกครั้งที่เข้าไปหอมไปกอดที่บอกว่าผมทำได้เนี่ยมผมก็จะให้เกียรติเขาด้วย เพราะในฐานะที่ผมไม่รู้ว่าเขามีแฟนหรืออะไรหรือเปล่าเราก็จะขออนุญาตเขาก่อนจะหอด จะกอด หรืออะไรก็แล้วแต่จะขอเขายกมือไหว้ ผมเลยเลือกที่จะมีแฟนนอกวงการเพราะว่าน่าจะเจอกันยากหน่อยถ้าเลิกกันไป เพราะว่าผมเลิกกับแฟนเก่าทุกคนผมไม่เคยเจอเขาอีกเลย แล้วผมไม่เคยเล่นเฟสบุ๊ค มันก็เลยไม่มีอะไรที่จะจดจำผมไม่รู้อีกเลยว่าเขาไปทำอะไรต่อที่ไหน

ตุ้ย : (ซึ่งถามว่าตอนนี้ผมโสดไหม) ผมไม่เคยโสดครับ แต่อย่างที่บอกจะไม่วุ่นวายแบบสมัยก่อนแล้วผมจะนิ่งมากขึ้นกว่าเดิมแล้วก็โชคดีที่ผู้หญิงที่เข้ามาที่คบๆเลิกๆที่ไม่ได้ออกสื่อเนี่ยเป็นคนแบบเดียวกับเราที่ไม่ชอบให้โลกรู้ที่อยากอยู่ในที่ของเรา ก็ไม่ได้อยากแบบว่าเป็นแฟน ตุ้ย ซึ่งผมก็ไม่ได้ห้ามเขาด้วยนะครับ แต่แค่แฟนของผมหรือคนที่ผมคบทุกคนเป็นคนประเภทเดียวกันคือไม่ได้ชอบถ่ายรูปกับแฟนลงโซเชียล

batch 15 4

ถาม แล้วอย่างคนปัจจุบัน ณ ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง

ตุ้ย : ก็ดีครับ เจอกันตั้งแต่ที่เขาเป็นสมัยนักศึกษาเลยครับ ถามว่าคนนี้คบกันนานไหมมาๆไปๆครับ

ถาม ที่บอกว่าเลิกบ่อยๆแปลว่าเพราะว่า ตุ้ย ไม่เชื่อในเรื่องของความสัมพันธ์หรือเปล่า เราไม่ค่อยให้ความสำคัญ หรือเรามองเรื่องของการใช้ชีวิตคู่มีทัศนคติเรื่องนี้ยังไง

ตุ้ย : พอมันนานเข้ามันกลับกลายเป็นว่าผมไม่อยากมีครอบครัว ผมไม่อยากแต่งงานแล้ว ไม่อยากมีลูก  แต่ผมไม่ได้จะไม่ให้เกียรติกับผู้หญิงที่ผมคบอยู่นะครับ ในสมัยก่อนผมอยากจะมีลูก อยากจะแต่งงานพอมันนานเข้าเรื่องราวกลับกลายมาเป็น ณ จุดตอนนี้มันก็เลยทำให้สมองผมเปลี่ยนไปเลยว่าที่ผมไม่อยากแต่งงานก็เพราะผมรู้สึกแบบ..ผมเห็นคู่อื่นเขาแต่งงานกันใหญ่โตสุดท้ายก็เลิกกัน หรือเพราะการที่ผมไม่อยากมีลูกเพราะผมรู้สึกว่าผมไม่ได้รู้สึกว่าถ้าผมมีลูกเพื่อผมจะต้องมาพึ่งเขา ลูกต้องพึ่งผม เกิดมาผมต้องมานั่งส่งเรียนเลี้ยงดูเกิดมาทำไมก็ไม่ต้องมีสิอะไรอย่างนี้ ผมไม่อยากมีลูกเพราะอยากชื่นใจ แล้วชีวิตของผมก็มีความรู้สุขอยู่แล้ว เพราะว่าพ่อแม่ของผมก็ไม่ได้เรียกร้องว่าอยากมีหลานเพราะเขาก็มีความสุขอยู่แล้ว ซึ่งถามว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงเปลี่ยนใจหลังจากผมอายุ 38 ไหม คงไม่เปลี่ยนไปจากนี้แล้วครับ เพราะตอนนั้นที่ผมอยากจะแต่งงานอยากจะมีลูกคือ ตอนอายุน้อยๆอยู่เลย 20 ต้นๆเอง

ตุ้ย : แต่คือไม่แต่งงาน ณ ที่นี้ เดี๋ยวพี่ๆจะคิดว่าผมไม่ให้เกียรติผู้หญิง คือ ถ้าจะต้องลงเอยกับใครสักคนผมไปนะไปหาพ่อแม่เขาต้องไป เอาพ่อแม่เราไป แต่ไม่แต่งงาน คือ ไม่จัดงานที่ใหญ่โต เพราะเราคิดว่าเราเอาเงินที่จะจัดงานเลี้ยงดูคุณดีกว่า

ถาม แต่เห็นว่าไม่ว่าแฟนจะเป็นแนวไหน เป็นใครยังไงไม่สำคัญ เพราะคนสำคัญที่สุดในชีวิตคือคุณแม่ เมื่อไหร่ที่แม่มีปัญหากับแฟน คือ แม่ต้องถูกเสมอ

ตุ้ย : เพราะผมมีแม่อยู่คนเดียว และ แม่ของผมไม่เคยมีปัญหากับแฟน แต่แม่จะเป็นคนโบราณ คือ เขาจะมองขาดว่าผู้หญิงคนนี้เป็นยังไง ตอนแรกเราก็ไม่ค่อยเชื่อเขาตอนแรกเราก็รั้น พอแม่ทักปุ๊บเราก็จะอะไรแต่สุดท้ายมันก็เป็นไปอย่างที่เขาทักจริงๆหลายครั้ง จนวันนี้ ถ้าจะมีใครสักคนหนึ่งมันจะต้องเริ่มต้นจากการที่เขาคุณกับแม่ผมรู้เรื่อง เขาต้องคลิกกับแม่ เป็นคนรากหญ้าเหมือนกัน เป็นคนพื้นๆเหมือนกัน เพราะผู้หญิงที่จะเข้ามาอยู่ในครอบครัวผมได้ก็ต้องธรรมดาเหมือนผม แล้วบ้านผมจะไม่มีปัญหาเรื่องลูกสะใภ้กับแม่สามีเลยเพราะว่าแม่เขาพูดมาตั้งแต่สมัยผมเริ่มวัยรุ่น เริ่มมีแฟน ยายน้อยเขาจะแบบดูละครเยอะ ก็จะพูดกับเราว่าอีกหน่อยมีเมียแล้วก็จะลืมแม่ (ผมก็จะบอกแม่ว่าแม่ดูละครเยอะไปไหม) ผมก็บอกแม่ว่าไม่มีเหตุการณ์แบบนั้นแน่นอนแล้วอีกอย่างตอนนี้ เวลาพาผู้หญิงเข้ามาในบ้านหรืออะไรก็แล้วแต่ทุกอย่างต้องถูกสกรีนก่อนที่คุณจะเข้ามาในบ้านผมแล้ว

batch 17 2

ถาม ตุ้ย เป็นคนที่ดูแลคุณแม่ดีมาก คือ ไม่ให้คุณแม่ทำงานเลยตั้งแต่เข้าวงการ

ตุ้ย : ด้วยความที่แม่ป๊าทำงานมาตลอดชีวิต ตั้งแต่ที่ผมเด็กจนผมเรียนจบจนผมมาเป็น ตุ้ย AF โอกาสที่ผมจะดูแลคุณพ่อคุณแม่จากชื่อเสียงเงินทองที่ผมได้รับ เราก็บอกเขาว่าถ้าเราออกมาจากบ้านเราจะดูแลเขาไม่ให้เขาทำงานแล้ว ตอนแรกเขาก็ไม่เชื่อเลี้ยงได้จริงๆเหรอ ทันทีที่เราได้เช็คใบแรกจากที่เราทำงานยื่นให้ยายน้อย 300,000 บาท แม่ช็อกเลย เขาก็เลยเชื่อใจผมตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ปีที่ 15 แล้วครับ ผมให้แม่ดูแลทุกอย่าง ยกเว้นอะไรที่เป็นหนี้จะเป็นชื่อผม แต่พอทุกอย่างที่ผ่อนหมดแล้วทุกอย่างต้องโอนไปเป็นชื่อแม่ เพราะแม่เขาจะบอกว่าไม่ได้ต้องเป็นชื่อเขาเพราะว่าวันหนึ่งถ้าเรามีปัญหาอะไรมาเดี๋ยวเขาไม่มีบ้านอยู่ แต่ทุกอย่างนี้ที่ผมมีเงินเก็บต้องยกเครดิตให้ยายน้อยเลยครับ บ้าน ทรัพย์สิน อสังหาอะไรต่อมิอะไรรวมไปถึงเงินเก็บคือเป็นชื่อแม่ทั้งหมดเลย แล้วทุกวันนี้แม่จะมาดูกระเป๋าเงินตลอดแล้วเขาจะคอยเติมเงินให้เราตลอดทุกวัน แต่ตอนนี้ยังดีที่ให้ใช้บัตรเครดิตได้แต่เวลาที่เราใช้อะไรต้องไปบอกเขา ถามว่าเราเคยแอบไม่ให้ไหม เคยนะครับแต่แม่โกรธมากเคยแอบซ่อนเงินไว้ในบ้านเขาน้อยใจว่าทำไมเราไม่บอก ทำไมต้องเก็บแบบนี้ เขาก็ยังมองว่าเราเด็กอยู่ดีถึงเราโตขนาดไหน แต่ผมก็โอเคที่จะให้แม่ช่วยดูแลเงินเราแบบนี้นะครับ

ถาม ปกติเราดื่มหนักมากเลยเหรอ

ตุ้ย : ตอนนี้ก็ไม่ได้หนักอะไรขนาดนั้นแล้วครับ ตอนนี้เราก็ไม่ได้ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่แล้ว ก็จะเป็นไวน์แทนเพราะตอนนี้เราก็ต้องดูแลสุขภาพร่างกายของเรา

ถาม ในชีวิตของการเป็น ตุ้ย ในเวอร์ชั่นที่นิ่งขึ้นเยอะมาก เป็นยังไงกับตัวเองในตอนนี้บ้าง

ตุ้ย : ตอนนี้มันก็จะเป็นเรื่องของการปูพื้นฐานในชีวิตให้มากขึ้นกว่าเดิมเรื่อยๆครับ เราก็ทิ้งความอยากได้ออกไปอย่างเช่นเรื่องสิ่งของหรือผู้หญิง หรืออะไรหลายๆอย่างที่มันจะมาบั่นทอนทำให้เราไม่สามารถสร้างครอบครัวให้แข็งแรงได้ ทำให้เราเข้าใจเลยกับคำว่า เหนื่อยน้อยลงเป็นยังไง

ถาม ตุ้ย มีอะไรอยากจะพูดถึงคุณพ่อ คุณแม่ที่ต้องบอกว่าเป็นขุมพลังที่ใหญ่สุดของ ตุ้ย เอง

ตุ้ย : คือ ผมโชคดีที่พ่อแม่ของผมไม่มีโรคภัยไข้เจ็บใดๆเลยคือโชคดีมาก แต่สร้างเรื่องให้ตัวเองคือป๊าไม่ปีนต้นไม้ตกลงมานิ้วหัก หรือแม่ปลูกต้นไม้ใบไม่ทิ่มตาอย่างนี้ คือเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเอง คือสิ่งที่เราต้องการและห่วงคือ เลิกสร้างเรื่องให้ตัวเองเจ็บตัวดีกว่า เราก็ห้ามเขาไม่ได้แต่เราก็อยากให้เขาระวัง และให้ดูแลซึ่งกันและกัน เพราะตอนนี้ ยายน้อย ตาเชียร เป็นอะไรทีบุญเก่าเขาเยอะเขาเลยมีสุขภาพที่แข็งแรงก็อยากให้อยู่กับผมไปนานๆ

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo