ขายของออนไลน์ ต้องรู้ ช่องทางการซื้อ-ขาย ที่คนไทยนิยมเลือกใช้ เพื่อเป็นข้อมูลในการเพิ่มโอกาสในการ ขาย อีคอมเมิร์ซ-โซเชียล คอมเมิร์ซ มาแรงปีนี้
ผลกระทบจากวิกฤติโควิด-19 ทำให้ธุรกิจหลายธุรกิจที่ได้รับผลกระทบ เริ่มปรับตัว ไปใช้ช่องทางการขายออนไลน์ เพื่อเป็นทางออก ในการหารายได้ในสภาวะฉุกเฉิน หลายคนอาจจะมองว่าการปรับตัวเข้าสู่ช่องทาง ขายของออนไลน์ เป็นแค่ทางออกในระยะสั้น ที่เอามาทดแทนช่องทางออฟไลน์เท่านั้น ไม่จำเป็นต้องลงทุนหรือให้ความสำคัญมากจนเกินไป
แต่ในความเป็นจริงแล้ว พฤติกรรมของผู้บริโภค ที่เริ่มคุ้นชินกับการซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ จะกลายเป็นความปกติใหม่ หรือ New Normal นับจากนี้
เมื่อผู้บริโภคเบนเข็มมาช้อปออนไลน์มากขึ้น แน่นอนว่าบรรดาเหล่าพ่อค้าแม่ค้า ตลอดจนแบรนด์ใหญ่ๆหันมาเพิ่มช่องทางการขายออนไลน์มากขึ้น และมีร้านค้าใหม่เพิ่มบนแพลตฟอร์ม อีมาร์เก็ตเพลส ไม่น้อย แสดงให้เห็นถึงโอกาสเติบโตของธุรกิจต่าง ๆ ที่จะก้าวเข้าสู่ แพลตฟอร์มออนไลน์ ในอนาคต
ดังนั้น สิ่งที่ผู้ค้าออนไลน์ หรือแบรนด์ สินค้า ที่ต้องการเข้าสู่ช่องทางออนไลน์ ต้องรู้ คือ ช่องทางออนไลน์ แพลตฟอร์มไหน ที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญ หรือนิยม ในการซื้อสินค้า เพื่อสร้างโอกาสในการขายสินค้ามากขึ้น
ไพรซ์ซ่า ได้เสนอผลสำรวจของ สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) ถึงช่องทางการซื้อ-ขาย ของคนไทย ที่นิยมเลือกมากที่สุด เพื่อเป็นข้อมูลในการเพิ่มโอกาส ในการเลือกช่องทางการขาย หรือการทำการตลาดได้อย่างเหมาะสมกับธุรกิจ
6 อันดับช่องทางที่ผู้ขายออนไลน์เลือก “ขาย” มากที่สุด
- เฟซบุ๊ก แฟนเพจ (Facebook Fanpage) อยู่ที่ 64.% นับเป็นช่องทางอันดับ 1 ที่ผู้ขายเลือกที่จะขายสินค้า บริการ เพราะ Facebook Fanpage เป็นช่องทางที่สามารถขายสินค้าได้ง่าย และมีเครื่องไม้เครื่องมือครบ ที่เอื้อประโยชน์ในการขายสินค้า
ไม่ใช่เพียงพ่อค้าแม่ค้าหน้าใหม่เท่านั้น แต่แบรนด์ก็เลือก Facebook Fanpage เป็นอีกหนึ่งช่องทางทำการตลาดแบบ ออมนิชาแนล ด้วย
- ช้อปปี้ (Shopee) อยู่ที่ 43.1% นับเป็น อีมาร์เก็ตเพลส ที่ผู้ขายออนไลน์เลือกขายมากที่สุด
- ไลน์ (Line) อยู่ที่ 39.1%
- อินสตาแกรม (Instagram) อยู่ที่ 26.6%
- ลาซาด้า (Lazada) อยู่ที่ 24.8%
- ทวิตเตอร์ (Twitter) อยู่ที่ 8.7%
6 อันดับช่องทางที่นักช้อปออนไลน์เลือก “ซื้อ” มากที่สุด
1. ช้อปปี้ (Shopee)Shopee อยู่ที่ 75.6% ถือว่าครองใจนักช้อปออนไลน์ เป็นอันดับหนึ่ง โดยเป็นแพลตฟอร์มยอดนิยมของนักช้อป เพราะการใช้งานที่ง่ายสะดวก และมีการจัดแคมเปญโปรโมชั่น อย่างต่อเนื่อง มีสินค้าเป็นจำนวนมากครบทุกหมวดหมู่ และยังสามารถใช้ฟิลเตอร์ ที่สามารถเปรียบเทียบราคาสินค้า รวมถึงการรีวิว และเรตติ้งของร้านค้า ทำให้เพิ่มความน่าเชื่อถือ ในการประกอบการตัดสินใจกับผู้ซื้อได้มากขึ้น
2. ลาซาด้า (Lazada) แพลตฟอร์มยอดนิยมในเครือ Alibaba ยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซจีน อยู่ที่ 65.5%
3. เฟซบุ๊ก แฟนเพจ (Facebook Fanpage) อยู่ที่ 47.5%
4. ไลน์ (Line) อยู่ที่ 38.9%
5. อินสตาแกรม (Instagram) อยู่ที่ 21.8%
6. ทวิตเตอร์ (Twitter) อยู่ที่5.7%
จะเห็นได้ว่า อีมาร์เก็ตเพลส เป็นช่องทางที่นักช้อปไทยเลือกช้อปมากที่สุด จากข้อสังเกต เป็นเพราะ มาร์เก็ตเพลส อย่าง Shopee และ Lazada นั้นมีระบบที่น่าเชื่อถือ รวมทั้งนโยบายต่าง ๆ ที่คุ้มครองผู้ซื้อ ไม่ว่าจะเป็นการคืนสินค้า ในกรณีสินค้าชำรุดมีปัญหา หรือไม่ได้รับสินค้า รวมทั้งการชำระเงิน ในหลากหลายรูปแบบที่อำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า
ในส่วนของ 4 อันดับหลัง ที่นักช้อปไทยเลือกซื้อ ล้วนแล้วแต่เป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ที่คนไทยนิยมใช้ในชีวิตประจำวันทั้งสิ้น ซึ่งสามารถคาดการณ์ได้ว่า โซเชียล คอมเมิร์ซ จะเติบโตและน่าจับตามากในปี 2564 นี้
อ่านข่าวเพิ่มเติม
