Properties

อสังหาฯไทยยังโต!‘เสนา’ผนึก‘ฮันคิว’ 3 ปี ผุดคอนโด 5.8 หมื่นล้าน

แม้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะมีความกังวลเรื่อง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ออกมาตรการควบคุมธนาคารพาณิชย์ห้ามปล่อยกู้เกินมูลค่าหลักประกัน (LTV) เกินอัตราที่กำหนด แต่ดูเหมือนผู้ประกอบการอสังหาฯ ยังคงเห็นโอกาสการเติบโต และยังเดินหน้าขยายโครงการแบบสร้างสถิติตัวเลขสูงขึ้นในปีหน้า

หลังจาก บมจ.เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จับมือเป็นพันธมิตรกับ  ฮันคิว ฮันชิน พร็อพเพอร์ตี้ส์ คอร์ปเปอร์เรชั่น ยักษ์ใหญ่จากประเทศญี่ปุ่น ที่มีเครือข่ายอาณาจักรมูลค่ากว่า 2 แสนล้านบาท  โดยร่วมทุนมาตั้งแต่ปี 2559 เพื่อพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมร่วมทุน ช่วง 2 ปีแรก ระหว่างปี 2559-2560 เปิดไปแล้ว 7 โครงการมูลค่ากว่า 2.3 หมื่นล้านบาท  สำหรับแผนธุรกิจในปี 2562  “เสนาและฮันคิว”ยังเดินหน้าเปิดคอนโดใหม่อีก 11 โครงการ มูลค่ากว่า 3.5 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วง 2 ปีแรก 50%

เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์
เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์

เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เสนา ดีเวลลอปเม้นท์ (SENA) กล่าวว่าเสนา ได้ประกาศร่วมทุนกับ “ฮันคิว” ในเดือนธันวาคม 2559 เกือบ 2 ปี มีการลงทุนที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดร่วมกัน 7 โครงการ มูลค่า 2.3 หมื่นล้านบาท โดยเสนาถือหุ้น 51% และ ฮันคิว 49% ประกอบด้วย

  1. นิช  โมโน สุขุมวิท-แบริ่ง สร้างเสร็จ ปี 2562
  2. นิช ไพรด์ เตาปูน-อินเตอร์เชนจ์ สร้างเสร็จ ปี 2563
  3. ปีติ เอกมัย สร้างเสร็จ ปี 2564
  4. นิช โมโน เจริญนคร สร้างเสร็จ  ปี 2563
  5. นิช โมโน เมกะ สเปซ บางนา สร้างเสร็จ ปี 2563
  6. นิช โมโน รามคำแหง  สร้างเสร็จ ปี 2564
  7. ปีติ บางจาก สร้างเสร็จ ปี 2564
 ปีติ เอกมัย เสนา
โครงการ ปีติ เอกมัย

โครงการ นิช โมโน สุขุมวิท-แบริ่ง โครงการร่วมทุนที่เปิดตัวโครงการแรกระหว่างของเสนา ฮันคิว มูลค่าโครงการ 3,400 ล้านบาท มียอดจองซื้อแล้ว 80% ถัดมาเป็นโครงการนิช ไพรด์ เตาปูน-อินเตอร์เชนจ์ เปิดตัวมีนาคม 2561 มูลค่าโครงการอยู่ที่ 3,400 ล้านบาท มียอดจองซื้อ 70%  ส่วนโครงการคอนโดลักชัวรีแห่งแรก คือ ปีติ เอกมัย มูลค่า 5,000 ล้านบาท

“ฮันคิว ถือเป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง ที่ยังเชื่อมั่นและร่วมมือกันพัฒนาโครงการอสังหาฯ ร่วมกันอย่างต่อเนื่อง จากเดิมที่คาดว่าจะลงทุนปีละ 1-2 โครงการ ช่วง 2 ปี ของความร่วมมือได้ประกาศลงทุนไปแล้ว 7 โครงการ สะท้อนถึงศักยภาพอสังหาฯไทยยังเติบโต”

นิช ไพรด์ เตาปูน-อินเตอร์เชนจ์
นิช ไพรด์ เตาปูน-อินเตอร์เชนจ์

ปี 62 ร่วมทุนฮันคิว 11 โครงการ

สำหรับแผนลงทุนร่วมกับ ฮันคิว ในกลุ่มที่อยู่อาศัย ประเภทคอนโดทั้งกลุ่มกลางและลักชัวรี่ราคา 1.5 แสนบาทต่อตร.ม. ในปี 2562 วางไว้ที่ 11 โครงการ รวมมูลค่า 3.5 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 2 ปีแรกที่ทำงานร่วมกัน 50%  โดยมีที่ดินในมือแล้ว 5 โครงการ ที่เหลืออยู่ระหว่างการซื้อที่ดิน

จากแผนลงทุนในปีหน้า ทำให้ช่วง 3 ปีของความร่วมมือ คือระหว่างปี 2559-2562  เสนา ฮันคิว ลงทุนคอนโดรวม 18 โครงการ รวมมูลค่า 5.8 หมื่นล้านบาท

นอกจากนี้ ฮันคิว ยังมีความสนใจขยายการลงทุนอสังหาฯ ประเภทพื้นที่เชิงพาณิชย์ เพื่อสร้างรายได้หมุนเวียนเพิ่มขึ้น และเป็นการลงทุนระยะยาว  นอกจากการลงทุนคอนโดเพื่อขายซึ่งเป็นการลงทุนระยะสั้น 3 ปี  โดยฮันคิว มีธุรกิจในเครือทั้งการลงทุนอาคารสำนักงานและโรงแรม ซึ่งมีโนวฮาวพร้อมที่จะสนับสนุนการลงทุนพื้นที่เชิงพาณิชย์ในประเทศไทย ซึ่งจะเริ่มศึกษาการลงทุนในปี 2562

ปี 2562 เสนา มีแผนเปิดโครงการรวมกว่า 20 โครงการ  แบ่งเป็นการร่วมทุนกับฮันคิว 11 โครงการ ที่เหลือเป็นการลงทุนของเสนา คาดว่ามีมูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์  ขณะที่รายได้ปีนี้ยังคงเป็นเป้าหมายเดิมที่ 6,200 ล้านบาท ด้านยอดขายคาดอยู่ที่ 1.3 หมื่นล้านบาท

ปัจจุบันบริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) ประมาณ 1 หมื่นล้านบาท เริ่มทยอยรับรู้เป็นรายได้ปีนี้ ถึงปี 2564 ส่วนใหญ่จะรับรู้รายได้ในปี 2563

เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ - วาคาบายาชิ ชึเนะโอะ
เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ – วาคาบายาชิ ชึเนะโอะ

“ฮันคิว”ลงทุนไทยอันดับ 1 ในอาเซียน

ทางด้าน วาคาบายาชิ ชึเนะโอะ ประธานกรรมการบริหาร ฮันคิว ฮันชิน พร็อพเพอร์ตี้ส์ คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า ฮันคิว ฮันชิน พร็อพเพอร์ตี้ส์ เป็น 1 ใน 6 ของธุรกิจในเครือบริษัท ฮันคิว ฮันชิน โฮลดิ้ง กรุ๊ป ที่ดำเนินธุรกิจมากว่า 100 ปี นับตั้งแต่ก่อตั้งเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 1907 นอกจากการดำเนินธุรกิจในประเทศญี่ปุ่นแล้ว ปีที่ผ่านมาฮันคิว ฮันชิน โฮลดิ้ง กรุ๊ป เริ่มมองหาโอกาสการลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะประเทศไทย

ฮันคิว มองว่าประเทศไทยยังเป็นกลุ่มประเทศที่รายได้ผลิตภัณฑ์มวลรวม (จีดีพี) เติบโตต่อเนื่องและมีศักยภาพเติบโตสูง จึงเริ่มเข้ามาลงทุนตั้งแต่ปี 2558 เริ่มด้วยธุรกิจคลังสินค้าที่ประเทศสิงคโปร์ ถัดมาเป็นธุรกิจอสังหาฯและขนส่งที่อินโดนีเซีย

ตามมาด้วยธุรกิจอสังหาฯในเวียดนาม ไทย  มาเลเซียและฟิลิปปินส์ รวมมูลค่าการลงทุนปีละ 6,000 ล้านบาท ซึ่งราว 25% ของการลงทุนในภูมิภาคนี้อยู่ที่ประเทศไทย เนื่องจากได้รับผลตอบแทนสูงที่สุด และเห็นตัวเลขรายได้ชัดเจนที่สุด  ปี 2562 เม็ดเงินที่ลงทุนด้านอสังหาฯ ในไทย ยังมากที่สุดในกลุ่มอาเซียน

สำหรับการร่วมทุนกับเสนา มาจากการที่กลุ่มฮันคิว มองเห็นศักยภาพของตลาดอสังหาในไทยและศักยภาพของเสนา ที่มีความโดดเด่นและความเชี่ยวชาญในการพัฒนาโครงการอสังหาฯ ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างลงตัวที่สุด

ในการร่วมทุนครั้งนี้เป็นการตอกย้ำความเชื่อมั่นในความเป็นมืออาชีพของเสนา บวกกับความมั่นใจในเศรษฐกิจไทย ทำให้เตรียมลงทุนเพิ่มเติมอีกไม่ต่ำกว่าปีละ 3,000 ล้านบาท สะท้อนจากข้อมูลภาครัฐที่ระบุว่าในปี 2574 หรืออีก 13 ปีข้างหน้าประชากรไทยจะเพิ่มขึ้นสูงสุด นั่นหมายถึงความต้องการในอสังหาฯ ยังคงมีอีกมาก ทำให้อสังหาฯ ไทยยังคงเนื้อหอม มีต่างชาติสนใจเข้ามาลงทุนต่อเนื่อง

Avatar photo