Business

เห็นชอบ ท่องเที่ยว แซนด์บ็อกซ์ ‘ภูเก็ต-สมุย-เชียงคาน’ พร้อมรับเปิดประเทศ

ท่องเที่ยว แซนด์บ็อกซ์ คืบ คณะกรรมการ Medical Hub เห็นชอบหลักการ นำร่อง ภูเก็ต สมุย เชียงคาน พร้อมผ่อนคลายกิจกรรม ในสถานกักตัว

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และ ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานร่วม การประชุมคณะกรรมการอำนวยการเพื่อพัฒนาประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (นโยบาย Medical Hub) ครั้งที่ 1/2564 โดยมีประเด็นสำคัญคือ การเห็นชอบ หลักการรูปแบบการ ท่องเที่ยว แซนด์บ็อกซ์ (Sand Box) และผ่อนคลายกิจกรรม ในสถานกักตัว

ท่องเที่ยว แซนด์บ็อกซ์

ทั้งนี้ ที่ประชุมฯ ได้ให้ความเห็นชอบ หลักการรูปแบบการท่องเที่ยว Sand Box ในพื้นที่จังหวัดท่องเที่ยว 3 แห่ง ได้แก่ ภูเก็ต เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี และเชียงคาน จ.เลย ภายใต้เงื่อนไขการจัดกิจกรรมท่องเที่ยวภายในพื้นที่ปลอดภัย (Safe Zone)

สำหรับ โมเดล แซนด์บ็อกซ์ (Sandbox) เป็นรูปแบบการท่องเที่ยว ที่เน้นการเจรจาระหว่างไทยกับประเทศต่าง ๆ ในลักษณะเมืองต่อเมือง หรือเกาะต่อเกาะ เป็นต้น เพื่อทำทราเวล บับเบิล (Travel bubble) ระหว่างกัน เน้นดึงนักท่องเที่ยว ที่ฉีดวัคซีนป้องกัน โควิด-19 แล้ว และมีความต้องการเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย ในพื้นที่ที่กำหนดร่วมกัน แบบไม่ต้องกักตัว

นอกจากนี้ ต้องมีการทำประชาพิจารณ์ รวมถึงนักท่องเที่ยว และประชาชนในพื้นที่ จะต้องได้รับวัคซีนโควิด- 19 แล้ว และมีมาตรการควบคุมการเข้าออกพื้นที่ มีระบบติดตามตัว ตลอดจนมีความพร้อม ด้านสาธารณสุข

แซนด์บ็อกซ์

พร้อมกันนี้ ที่ประชุมฯ มีมติเห็นชอบ การปรับรูปแบบสถานกักกัน ผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ และการผ่อนคลายกิจกรรม ในสถานกักกันตามที่ ศบค.กำหนด เพื่อรองรับการเปิดประเทศ ดังนี้

  • สถานกักกันทางเลือก (Alternative Quarantine)

ให้ผู้กักตัวใช้ห้องฟิตเนส ออกกำลังกายกลางแจ้ง ใช้สระว่ายน้ำ ปั่นจักรยานในพื้นที่ปิด

  • สถานกักกันในกิจการเพื่อสุขภาพ

ให้มีกิจกรรมในห้องจัดกิจกรรม ใช้สิ่งอำนวยความสะดวกในที่พัก การประชุมทางธุรกิจ การจัดงานอีเวนต์ขนาดใหญ่ หรือประกวดนางงาม เป็นต้น

S 30965774

ดร.สาธิต กล่าวว่า ได้มอบหมายให้ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ไปจัดทำหลักเกณฑ์ และข้อกำหนดกลางมาตรฐานขั้นตอนการปฏิบัติงานรองรับ การผ่อนคลาย สถานกักกันต่อไป

ก่อนหน้านี้ ประเทศไทยมีนโยบายเปิดประเทศ รับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ในรูปแบบ Area quarantine ที่จะอนุญาตให้นักท่องเที่ยว ที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบทั้ง 2 ครั้ง สามารถเดินทางเข้าประเทศได้ แต่ต้องเข้ารับการกักตัวภายในโรงแรมที่พักเป็นเวลา 7 วัน

ส่วนนักท่องเที่ยว ที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน จะต้องกักตัวเป็นเวลา 10 วัน ส่วนบุคคลที่เดินทางมาจากประเทศแถบแอฟริกา ต้องกักตัวเป็น 14 วัน

ในส่วนของ ศบค.ชุดใหญ่ กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มีความเห็นพ้องร่วมกันว่า จะเปิดรับ นักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่เดินทางมาจากประเทศ ที่มีความเสี่ยงต่ำ และเสี่ยงกลาง ประมาณ 120 ประเทศเท่านั้น

ขณะที่ 8 องค์กรหลัก ในธุรกิจท่องเที่ยวบริการ และธุรกิจสายการบินของประเทศไทย ได้เสนอแผนต่อรัฐบาล เพื่อรองรับการเปิดประเทศต้อนรับ นักท่องเที่ยวต่างชาติ และเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ ดังนี้

1. ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป ให้เปิดรับ นักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่ได้รับ วัคซีนป้องกันโควิด-19 ครบเรียบร้อยแล้วเข้าประเทศได้โดยไม่ต้องกักตัว อย่างน้อยในพื้นที่จังหวัดท่องเที่ยวนำร่อง เช่น ภูเก็ต และ เกาะสมุย

2. เร่งรัดการจัดสรร และการฉีดวัคซีนอย่างน้อย 70% ของประชากรในพื้นที่จังหวัดท่องเที่ยวนำร่อง เช่น ภูเก็ต และ สมุย ภายในวันที่ 15 เมษายน – 30 มิถุนายน 2564

3. พิจารณาให้ภาคเอกชนร่วมกับรัฐบาลในการจัดหา และนำเข้าวัคซีนทางเลือกอื่น ๆ เพิ่มเติม
4. เร่งจัดสรรวัคซีนให้กับบุคลากรภาคท่องเที่ยว และบริการ เกือบ 1,000,000 คนทั่วประเทศ ภายในเดือนมิถุนายน 2564

5. ประกาศกรอบเวลา และเงื่อนไขที่ชัดเจน ในการเปิดประเทศต้อนรับ นักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเริ่มต้นในวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป

6. พิจารณาอนุมัติใช้ IATA Travel Pass

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo