จากกรณีที่นักแสดงสาว “หมิว สิริลภัส กองตระการ” ออกมาโพสต์คลิปและข้อความเตือนภัย หลังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตามเข้าห้องน้ำหญิงภายในปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 6 มีนาคม ที่ผ่านมา ซึ่งเธอแจ้งความร้องทุกข์ผ่านมา 2 สัปดาห์แล้ว แต่เรื่องกลับเงียบ ไม่มีความคืบหน้าใด ๆ ทั้งสิ้น
ล่าสุด ( 23 มี.ค. ) หมิวได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อถึงกรณีที่เกิดขึ้นว่า วันนี้ได้เดินทางมาดูกล้องวงจรปิดว่ารถที่มาจอดคันข้าง ๆ จะเป็นรถตำรวจหรือเปล่า แต่พบแล้วว่าไม่ใช่รถตำรวจ ระยะเวลาที่ตนเองมาจอดหน้าร้านกาแฟ กับคันของรถตำรวจคือคนละเวลากัน และจอดคนละที่กัน ซึ่งตนเองก็หายสงสัยแล้วว่าเขาไม่ได้ตามมาจากที่อื่น ในส่วนเรื่องของการเอาผิด ตนได้ปรึกษากับทางตำรวจแล้ว พบว่าทางอีกฝ่ายเขาไม่ได้มีพฤติกรรมที่จะยกมือถือมาถ่าย หรือว่าชะโงกหน้าเข้ามาในห้องน้ำของตน หรือใช้คำพูด กิริยาที่ทำให้ตกใจ เพราะฉะนั้นตอนนี้ไม่สามารถเอาผิดในโทษของอนาจาร และโทษฐานก่อความเดือดร้อนได้ในทางอาญา แต่สำหรับในทางวินัย ก็อาจจะมีเอาผิดทางวินัยได้
ตอนนี้ตนเองรู้สึกหายสงสัยในส่วนของตนแล้ว และได้เล่าเรื่องราวในข้อเท็จจจริงส่วนของตนเองแล้ว ส่วนทางอีกฝ่ายได้เล่าข้อเท็จจริงในส่วนของเขาแล้ว หลังจากนี้ก็ขอให้เป็นหน้าที่ของคนในสังคมแล้วว่าจะตัดสินแล้วว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป เพราะสาวหมิวเชื่อว่าคนที่รู้ความจริงมากที่สุดก็คือตัวเขาเอง เจ้าตัวไม่สามารถบอกได้ว่าเขาทำจริงหรือไม่จริง
ซึ่งจากเหตุการณ์ตนเพิ่งมานั่งดูกล้องวงจรปิดว่าระยะเวลาที่เข้าห้องน้ำไป ระยะเวลาที่เขาเดินออกมา เขาบอกว่าใช้เวลาแค่แป๊บเดียว แต่พอดูเวลาแล้วใช้เวลาเกือบ 2-3 นาที แต่ฝ่ายนั้นบอกเขารีบ เขาปวดท้อง แล้วไม่ได้ทันได้ดู ก็อยากให้ชั่งน้ำหนักกันดูว่า 2-3 นาทีที่ตนเองยืนอยู่ตรงนั้น ให้คนลองไปชั่งน้ำหนักกันดูว่าจะตีความออกมาแบบไหน
หมิวเผยต่อว่า สุดท้ายแล้วหมิวไม่สามารถมีคำตอบให้กับเรื่องนี้ คนที่มีคำตอบเรื่องนี้คนเดียวคือตำรวจคนนั้น ซึ่งเจ้าตัวได้บอกเขาไปแล้ว ถ้าเขาไม่ได้ตั้งใจจะทำความผิด ตนเองให้อภัยเขาด้วยความจริงใจ และบริสุทธิ์ใจ แต่ถ้าเกิดว่าเขาจงใจจะทำแบบนนั้น และโกหกตน ก็ให้เขารู้ไว้เลยว่านี่จะเป็นตราบาปติดตัวเขาไปตลอดชีวิต และเขาก็คงไม่กล้าออกมาสู้หน้าคนในสังคม ถ้าเขากล้าที่จะทำผิด และกล้าที่จะโกหกต่อหน้าสื่อที่เยอะขนาดนี้
ทุก ๆ อาชีพ ทุก ๆ เครื่องแบบ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรีของมันอยู่ โดยเฉพาะอาชีพนี้ที่มีเกียรติและศักดิ์ศรีที่เยอะ ซึ่งมันขึ้นอยู่กับตัวบุคคล ที่จะทำให้เครื่องแบบนี้ อาชีพนี้สูงส่งอย่างไร ทุกอาชีพมีเพดานของมันอยู่ ถ้าเราให้เกียรติอาชีพของเรา จะทำให้มีศักดิ์ศรีในอาชีพของเรา แต่หากเราไม่ให้เกียรติในอาชีพ ทำตัวดูถูกอาชีพ มันจะทำให้ศักดิ์ศรีในอาชีพของเราตกต่ำลง และตนเองเชื่อว่า ไม่มีใครจะตัดสินได้ นอกจากการกระทำของเขาเอง
ถ้ามองในมุมของหมิว ไม่สามารถดำเนินคดีในทางอาญาต่อได้ เพราะด้วยหลักฐานต่าง ๆ คงถึงทางตัน แต่ว่าอยากให้สังคมเป็นคนตัดสินต่อไปว่าจะเป็นอย่างไร เพราะเจ้าตัวเองไม่อยากฟันธง หรือตัดสินใคร ให้ทุก ๆ คนได้รับข้อมูลข่าวสารจากตนเองไป และรับข่าวสารจากอีกฝ่าย มาชั่งน้ำหนักกันดู และเชื่อว่าแต่ละคนจะมีวิจารณญาณ และเลือกที่จะกลั่นกรองว่าจะเลือกเชื่อทางไหน
วันนี้ได้ลงบันทึกประจำไว้ ได้ดูกล้องวงจรปิด แล้วก็ไม่ได้มีข้อสงสัยใด ๆ ด้วยหลักฐาน ไม่สามารถเอาผิดทางอาญาได้ และตนเองคิดว่า กรุงเทพฯ อาจจะไม่ใช่เมืองที่ปลอดภัยสำหรับตนต่อไปอีกแล้ว ก็คงจะต้องระมัด ระวังตัวมากขึ้น
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- โบวี่ อัฐมา ขอถอนตัวออกจากละคร! หลังจากโรคกระเพาะเล่นงานหนัก
- ฮิวโก้ – ฮาน่า ครองรักครบรอบ 12 ปี การไม่นอกใจเมียคือเรื่องปกติ
- ทริปนี้จัดเต็ม! อั้ม อธิชาติ โชว์ความหวาน อุ้ม นัท มีเรีย ตัวลอย
