บีทีเอสเปิดตัวบริการใหม่อย่างเป็นทางการ ชำระค่าโดยสารผ่านบัตรแรบบิท พร้อมเตรียมเปิดช่องทางซื้อตั๋วเที่ยวเดียวผ่านคิวอาร์โค้ดปลายปีนี้
นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSC เปิดเผยว่า รู้สึกยินดีที่รถไฟฟ้าบีทีเอสได้เปิดตัวระบบชำระค่าโดยสารผ่านกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (E-Wallet) แรบบิท – ไลน์เพย์ ที่จะทำให้ผู้โดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอสได้รับความสะดวกสบายในการชำระค่าโดยสารทั้งเติมเงิน และเติมเที่ยวเดินทางเพิ่มมากขึ้น พร้อมทั้งสามารถตรวจสอบประวัติการเดินทางด้วยตัวเองผ่านทางแอพพลิเคชัน
นอกจากนี้ บีทีเอส ยังได้เตรียมอำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสารที่ไม่ได้ถือบัตรแรบบิทเพิ่มขึ้น โดยจะเปิดให้ซื้อบัตรโดยสารแบบเที่ยวเดียวผ่านพร้อมเพย์ (Promtpay) และคิวอาร์โค้ดในช่วงปลายปีนี้
ทั้งนี้ แรบบิท – ไลน์เพย์ ได้จับมือบัตรแรบบิท พัฒนาระบบอำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้บริการบัตรแรบบิท ที่สามารถทำได้เองผ่านมือถือ ไม่ว่าจะเป็นการเติมเงิน ซื้อเที่ยวเดินทาง เช็คยอดเงินคงเหลือ และแสดงประวัติการเดินทาง สามารถเลือกวิธีชำระเงินได้หลายช่องทาง ด้วยการตัดค่าโดยสารจากเงินใน e-wallet ของแรบบิท – ไลน์เพย์ หรือตัดจากบัตรเครดิต หรือบัตรเดบิตของผู้ใช้บริการที่ผูกไว้ กับแรบบิท – ไลน์เพย์
รถเสียฉุดผู้โดยสารต่ำกว่าเป้า
นายสุรพงษ์ ยังเปิดเผยด้วยว่า ในช่วงไตรมาสที่ 2 ตามปีงบประมาณของกลุ่มบีทีเอส ระหว่างเดือนกรกฎาคม-กันยายนที่ผ่านมา รถไฟฟ้าสายสีเขียว หรือรถไฟฟ้าบีทีเอสมีผู้โดยสารเฉลี่ยกว่า 7 แสนคนต่อวัน หรือเพิ่มขึ้น 1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ยังต่ำกว่าเป้าหมายของกลุ่มบีทีเอส ที่ต้องการให้จำนวนผู้โดยสารขยายตัว 3-4% ต่อไตรมาส
สาเหตุเกิดจากปัญหารถไฟฟ้าขัดข้องในช่วงกลางปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม กลุ่มบีทีเอสคาดว่า ปริมาณผู้โดยสารในภาพรวมของปีนี้ยังมีแนวโน้มเติบโตได้ 3-4% ตามเป้าหมาย
สำหรับปี 2562 คาดว่าจำนวนผู้โดยสารจะขยายตัวเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากบีทีเอสจะมีขบวนรถใหม่มาให้บริการเพิ่มขึ้น, รถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ จะเปิดให้บริการ และคาดว่าจะขยายคอขวดบริเวณสถานีสะพานตากสินได้
ค่าโดยสาร 65 บาทตลอดสาย เป็นไปได้
นายสุรพงษ์ กล่าวถึงโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวสายเดิม และส่วนต่อขยาย ซึ่งกรุงเทพมหานคร (กทม.) เตรียมร่วมทุนกับเอกชน เพื่อหาผู้เดินรถรายใหม่ว่า บีทีเอสทราบเงื่อนไขในการเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวของ กทม. แล้วทั้ง 2 ส่วน ได้แก่
1. กำหนดอัตราค่าโดยสารราคา 65 บาทตลอดเส้นทาง
2. ต้องรับภาระหนี้สินและทรัพย์สิน โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต และช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ วงเงิน 8-9 หมื่นล้านบาท
กลุ่มบีทีเอสจึงต้องพิจารณาทั้ง 2 เงื่อนไขประกอบกัน แต่เบื้องต้นมองว่าเรื่องการกำหนดค่าโดยสาร 65 บาทตลอดเส้นทางมีความเป็นไปได้
เปิดเดินรถแบริ่ง-สมุทรปราการฟรี 3 เดือน
อย่างไรก็ตาม การโอนหนี้สินและทรัพย์สิน โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต และช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ จากสังกัดการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ไปเป็นสังกัด กทม. ยังอยู่ระหว่างกระบวนการและคาดว่าจะแล้วเสร็จในต้นปีหน้า
แต่รถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ จะเปิดให้บริการได้ในปลายปี 2561 ซึ่งก็ กทม. ก็มีแนวคิดว่าจะเปิดให้บริการฟรีในช่วง 3 เดือนแรก
