“ครม.” ไฟเขียวแผนลงทุน 4 โครงการขนาดใหญ่ใน EEC รวมกับโครงการรถไฟเชื่อม 3 สนามบิน วงเงิน 6.5 แสนล้านบาท
นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นอกสถานที่ จ.เชียงราย มีมติอนุมัติการกำหนดเงื่อนไขการลงทุน (TOR) สำหรับโครงการเกี่ยวเนื่องกับเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) 4 โครงการ ประกอบด้วย 1. โครงการศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน (MRO) อู่ตะเภา วงเงินลงทุน 6,333 ล้านบาท กองทัพเรือรับผิดชอบดำเนินการก่อสร้าง และมอบหมายให้บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ร่วมลงทุนกับภาคเอกชน ออกแบบการก่อสร้างจัดหาและติดตั้งอุปกรณ์ ระยะเวลาสัมปทานไม่เกิน 50 ปี
2.โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก วงเงินลงทุน 17,708 ล้านบาท เป็นการลงทุนแบบ PPP Netcost ให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ ซึ่งภาครัฐลงทุนก่อสร้างทางวิ่งและทางขับ ระบบที่เกี่ยวข้องกับสนามบิน จัดหาผู้ผลิตระบบสาธารณูปโภคกลางที่ใช้ในการส่งเสริมเมืองการบินภาคตะวันออก ให้บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย บริหารจัดการจราจรทางอากาศ เอกชนลงทุนด้านการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ภายในพื้นที่สนามบิน การซ่อมบำรุง ระยะเวลาสัมปทาน 50 ปี เช่นกัน โดยภาคเอกชนผู้รับสัมปทานเป็นผู้จัดเก็บค่าโดยสารและรับความเสี่ยงจากปริมาณผู้โดยสารเข้าออกสนามบิน
3.โครงการพัฒนาท่าเทียบเรือแหลมฉบังเฟส 3 วงเงินลงทุน 47,060 ล้านบาท จะดำเนินโครงการรูปแบบ PPP Netcost เช่นกัน โดยภาครัฐลงทุนออกแบบ ก่อสร้างด้านโครงสร้างพื้นฐาน ภาคเอกชนจะเป็นผู้บริหารจัดการท่าเทียบเรือและตู้สินค้า และโครงการสุดท้ายพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุดระยะที่ 3 แบ่งการลงทุนเป็น 2 ช่วง ช่วงแรก แบ่งเป็นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน โดยการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ร่วมลงทุนกับภาคเอกชน ระยะเวลา 35 ปี ช่วงที่ 2 ระยะเวลา 32 ปี โดยใช้รายได้ของกนอ.ก่อสร้างท่าเรือและส่วนของงานท่าเรือสินค้าเหลว เช่น น้ำมัน LNG
คาดว่าทั้ง 4 โครงการ คัดเลือกเอกชนผู้ลงทุนภายในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2562 สอดคล้องกับโครงการรถไฟเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง สุวรรณภูมิ อู่ตะเภา) ซึ่งได้ประกาศร่าง TOR เมื่อรวม 5 โครงการที่ ครม.อนุมัติมีมูลค่าการลงทุนรวม 650,000 ล้านบาท จากการศึกษาพบว่าจะทำให้เกิดผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ 820,000 ล้านบาท ผลตอบแทนทางการเงิน 560,000 ล้านบาท โดยทั้งหมดรัฐลงทุนประมาณ 200,000 ล้านบาท ผลตอยแทนทางการเงินของภาครัฐที่ประมาณการไว้ 450,000 ล้านบาท เกิดการจ้างงานไม่ต่ำกว่า 40,000 คนต่อปี ยืนยันว่าแผนลงทุนระยาวทั้งหมดคืบหน้ามากจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงการลงทุน แม้จะเปลี่ยนรัฐบาล เพราะมีกฎหมายรองรับ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน
