ฝ่ายแผนและบริหารบริษัทในเครือ หน่วยธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) รายงานแนวโน้มราคาน้ำมันว่าราคาน้ำมันดิบ ICE Brent เคลื่อนไหวใกล้เคียงแนวต้านสำคัญที่ระดับ 70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดยสัปดาห์นี้ยังคงต้องติดตามต่อไปว่าจะสามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวได้หรือไม่
ด้านปัจจัยพื้นฐานความต้องการใช้น้ำมันเพิ่มขึ้นหลังโรงกลั่นน้ำมันในรัฐ Texas ในสหรัฐ เริ่มกลับมาดำเนินการพอสมควรแล้วหลังหยุดดำเนินการไปเมื่อช่วยปลายเดือน ก.พ.64 จากเหตุ Cold snap
ล่าสุด IIR Energy รายงานกำลังการกลั่นที่หยุดดำเนินการในสหรัฐฯ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 12 มี.ค. 64 ลดลงจากสัปดาห์ก่อน 1.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน มาอยู่ที่ 3.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน และคาดว่าจะลดลงต่อเนื่องมาอยู่ที่ 2.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 19 มี.ค. 64
ด้านวัคซีน COVID-19 ยังน่าวิตก ประเทศเนเธอร์แลนด์เป็นประเทศล่าสุดที่ระงับการใช้วัคซีน AstraZeneca เนื่องจากมีรายงานว่าเกิดผลข้างเคียง ขณะนี้ ทั่วโลกกังวลเพิ่มขึ้นหลังจากนาย Marvin Hagler นักมวยสากลชาวสหรัฐฯ ผู้ยิ่งใหญ่ของโลกเสียชีวิตโดยมีสาเหตุจากการฉีดวัคซีน COVID-19 จากการเปิดเผยของนาย Thomas Hearns อีกหนึ่งสุดยอดนักมวยระดับตำนานชาวสหรัฐ
ความเคลื่อนไหวทางภูมิรัฐศาสตร์ นาย Jake Sullivan ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของรัฐบาลสหรัฐฯ เปิดเผยว่ามีการดำเนินการทางการทูตอย่างไม่เป็นทางการระหว่างสหรัฐฯ กับอิหร่าน ผ่านทางยุโรปซึ่งเป็นตัวกลาง เพื่อหาทางกลับเข้าสู่ข้อตกลงระงับโครงการนิวเคลียร์ (Joint Comprehensive Plan of Action – JCPOA) ปี พ.ศ.2558 ซึ่งปัจจุบันอิหร่านละเมิดข้อตกลง และสหรัฐฯ ยังคงถอนตัวจากข้อตกลงดังกล่าว
ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงบวก
- วันที่ 7 มี.ค. 64 ท่าส่งออกน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดในโลก Ras Tanura (6.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน) ของซาอุดีอาระเบีย ถูกกลุ่มกบฏ Houthi ในเยเมน โจมตีทางอากาศด้วยโดรน ทั้งนี้ทางการซาอุดีอาระเบียแถลงหน่วยรักษาความปลอดภัยสามารถสกัดกั้นการโจมตีด้วยโดรนและจรวด จากกบฏ Houthi ในเยเมน โดยไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต และไม่มีความเสียหายต่อโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศซาอุฯ เจ้าชาย Faisal bin Farhan Al Saud ประกาศจะใช้มาตรการยับยั้งการก่อการร้ายเพื่อความมั่นคงของประเทศ อนึ่งซาอุฯ เชื่อว่าอิหร่านเป็นผู้จัดหาขีปนาวุธ และโดรนติดอาวุธให้กับกองกำลัง Houthi ในเยเมน
- รายงานฉบับเดือน มี.ค. 64 ของ OPEC ปรับประมาณการณ์อุปสงค์น้ำมันโลกในปี พ.ศ. 2563 อยู่ที่ 90.39 ล้านบาร์เรลต่อวัน (ลดลง 9.59 ล้านบาร์เรลต่อวัน) ปรับเพิ่มขึ้นจากคาดการณ์เดือนก่อนหน้า 130,000 บาร์เรลต่อวัน และปรับประมาณการณ์อุปสงค์น้ำมันโลกในปี พ.ศ. 2564 อยู่ที่ 96.27 ล้านบาร์เรลต่อวัน (เพิ่มขึ้น 5.88 ล้านบาร์เรลต่อวัน) ปรับเพิ่มขึ้น 220,000 บาร์เรลต่อวัน
ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงลบ
- EIA ของสหรัฐฯ รายงานปริมาณสำรองน้ำมันดิบเชิงพาณิชย์ในสัปดาห์สิ้นสุด 5 มี.ค. 64 เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 13.8 ล้านบาร์เรล อยู่ที่ 498.4 ล้านบาร์เรล สูงสุดในรอบ 6 เดือน ขณะที่ผลิตน้ำมันดิบ เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 900,000 บาร์เรลต่อวันอยู่ที่ 10.9 ล้านบาร์เรลต่อวัน
อ่านข่าวเพิ่มเติม:
