ความพยายามในช่วงแรก ๆ ที่จะเร่งพัฒนาวัคซีน รวมถึง กระบวนการอนุมัติอย่างรวดเร็ว ของเจ้าหน้าที่ประเทศต่าง ๆ ทำให้รัฐบาลบางประเทศ ได้เร่งดำเนินการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 ไปอย่างรวดเร็ว
เว็บไซต์ “Our World in Data” ได้ดำเนินการรวบรวมข้อมูล และพบว่า “อิสราเอล” กลายมาเป็นเป็นผู้นำ ในการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้กับประชากรราว 60-70% ของประเทศ ที่เชื่อว่า จะเป็นจำนวนที่มากพอ ที่จะยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสในหมู่ประชากรของประเทศได้
นับถึงเมื่อวานนี้ (15 มี.ค.) อิสราเอลดำเนินการฉีดวัคซีนป้องกันโควิดไปแล้ว 106.95 โดส ต่อประชากร 100 คน หรือรวมแล้วราว 9.26 ล้านคน ค่อนข้างจะทิ้งห่าง “สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์” ที่ตามมาในอันดับ ซึ่งมีอัตราการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ไปแล้ว 65.89 โดส ต่อประชากร 100 คน และสหราชอาณาจักร ซึ่งอยู่ที่ 37.15 โดส ต่อประชากร 100 คน ส่วนสหรัฐ มีอัตราการฉีดวัคซีนอยู่ที่ 31.61 โดส ต่อประชากร 100 คน
ขณะนี้ อิสราเอล ถือเป็นผู้นำในการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 ให้กับประชาชนในประเทศ โดยนับแต่ที่เริ่มฉีดวัคซีนเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 19 ธันวาคมปีที่แล้ว อิสราเอลก็ดำเนินการฉีดวัคซีนให้กับพลเมืองของตัวเองราววันละ 150,000 คน
ความสำเร็จของอิสราเอล ในด้านนี้เกิดจากความรวดเร็วในการดำเนินการ เพราะได้เจรจาถึงการจัดหาวัคซีน จากไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทค ก่อนใคร แลกกับการให้ข้อมูลด้านการแพทย์ ในเรื่องของผลกระทบจากการฉีดวัคซีน
ความสำเร็จในการดำเนินโครงการฉีดวัคซีนของอิสราเอล ส่วนหนึ่งยังเป็นผลมาจากระบบสาธารณสุขอันยอดเยี่ยมของประเทศ และความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าของประชาชนในประเทศ ที่มีต่อวัคซีน
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- WHO ทบทวน ‘วัคซีนแอสตราเซเนกา’ หลังหลายประเทศสั่งระงับใช้งาน
- คนไทย 69% ยังไม่รู้จัก ‘วัคซีนพาสปอร์ต’ ห่วงนำมาใช้จริงจะเกิดทุจริต
- ญี่ปุ่นเดินหน้ารับวัคซีนโควิด ‘ไฟเซอร์’ 100 ล้านโดส แม้คนกังวล ‘เคสแพ้รุนแรง’