ตลาดหุ้นสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (15 มี.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น ปรับตัวลดลง ท่ามกลางปริมาณการซื้อขายอย่างเบาบาง เหตุนักลงทุนรอดูผลการประชุมเจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะเริ่มขึ้นในวันพรุ่งนี้ (16 มี.ค.)
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุด ที่ 32,740.95 จุด ลดลง 37.69 จุด หรือ 0.11% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ 3,937.43 ขยับลงมา 5.91 จุด หรือ 0.15% และดัชนีแนสแด็กที่ 13,337.28 จุด บวก 17.41 จุด หรือ 0.13%
ในช่วงเปิดตลาดนั้น ดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 100 จุด ขานรับการฉีดวัคซีนโควิด-19 เป็นวงกว้างในสหรัฐ รวมทั้ง กระแสคาดการณ์ที่ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะฟื้นตัวขึ้น หลังจากที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้ลงนามในร่างกฎหมายกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยหนุนจากการชะลอตัวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีชะลอตัวในวันนี้ หลังพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 1 ปีเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (12 มี.ค.)
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นแตะ 1.642% เมื่อวันศุกร์ ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.2563 หลังจากที่ประธานาธิบดีไบเดน ลงนามในร่างกฎหมายกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ดี มีการคาดการณ์กันว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจดังกล่าว จะทำให้เงินเฟ้อเร่งตัวมากขึ้น จากการใช้จ่ายงบประมาณที่เพิ่มขึ้นของรัฐบาลสหรัฐ
การเคลื่อนไหวในตลาดวันนี้ ไม่มากนัก เนื่องจากนักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงิน เฟด ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 16-17 มีนาคมนี้ เพื่อดูท่าทีของเฟดเกี่ยวกับแนวโน้มการดีดตัวขึ้นของเงินเฟ้อ ที่เป็นผลจากการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ รวมทั้งการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- คาดเฟดคงดอกเบี้ยกรอบเดิม! จับตาความเสี่ยงเศรษฐกิจ-โควิด
- โบรกฯ คาดหุ้นทั่วโลกอาจย่อตัวระยะสั้น แนะจับจังหวะเข้าซื้อหุ้นจีน
- คลังปฏิเสธหนี้สาธารณะปี 2564 ทะลุเพดาน 60% ยัน ‘ไม่เป็นความจริง’
